13.01.21 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน ให้เพชรพลอยของความรู้ออกจากปากของลูกตลอดเวลา
ใบหน้าของลูกจะต้องอยู่อย่างสดชื่นแจ่มใสเสมอ
คำถาม:
อะไรคือสิ่งชี้บอกของลูกที่ซึมซับความรู้ในชีวิตบราห์มินของพวกเขา?
คำตอบ:
1. กิจกรรมของพวกเขาเป็นกิจกรรมเหมือนของเหล่าเทพ พวกเขาสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่ง 2.
พวกเขาฝึกฝนการไตร่ตรองมหาสมุทรแห่งความรู้
พวกเขาไม่เคยไตร่ตรองสิ่งที่ชั่วร้ายนั่นคือขยะ 3.
พวกเขาไม่ประณามและดูหมิ่นผู้อื่น 4. ใบหน้าของพวกเขาสดชื่นแจ่มใสอยู่เสมอ
โอมชานติ
พ่อนั่งที่นี่และอธิบายเกี่ยวกับความเลื่อมใสศรัทธาและความรู้
ลูกๆเข้าใจแล้วว่าไม่สามารถมีการหลุดพ้นผ่านความเลื่อมใสศรัทธาและไม่มีการแสดงความเลื่อมใสศรัทธาในยุคทอง
ลูกไม่ได้รับแม้กระทั่งความรู้ในยุคทอง
กฤษณะไม่ได้กราบไหว้บูชาใครหรือเป่าขลุ่ยแห่งความรู้ การเป่าขลุ่ย (มุรลี)
หมายถึงการให้ความรู้ มีการจดจำว่ามีเวทย์มนต์ในขลุ่ย
ดังนั้นจะต้องมีเวทย์มนต์บางอย่างอย่างแน่นอน
การเป่าขลุ่ยเป็นเรื่องธรรมดาแม้แต่ขอทานเร่ร่อนก็ยังเป่าขลุ่ยต่อไป
ขลุ่ยนี้มีเวทย์มนต์ของความรู้ ความไม่รู้ไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นเวทมนตร์
มุรลีเรียกว่าเวทย์มนต์ มนุษย์ธรรมดาถูกทำให้กลายเป็นเทพด้วยความรู้นี้
เมื่อเป็นยุคทองลูกมีมรดกของความรู้ ไม่มีการทำความเลื่อมใสศรัทธาที่นั่น
ความเลื่อมใสศรัทธาเริ่มต้นในยุคทองแดง เมื่อลูกเปลี่ยนจากเทพเป็นมนุษย์
มนุษย์ถูกเรียกว่าผู้ที่มีกิเลส และเทพคือผู้ที่ปราศจากกิเลส
โลกของเทพเรียกว่าโลกที่บริสุทธิ์ เวลานี้ลูกกำลังจะกลายเป็นเทพ ความรู้หมายถึงอะไร?
ประการแรกความรู้คือการตระหนักรู้จักตนเองและพ่อ ประการที่สองคือความรู้ของตอนเริ่ม
ตอนกลางและตอนจบของโลก การหลุดพ้นได้รับมาผ่านความรู้
จากนั้นในเวลาต่อมาความเลื่อมใสศรัทธาก็เริ่มขึ้น และนั่นคือสภาพที่ตกต่ำลง
เพราะความเลื่อมใสศรัทธาคือกลางคืน และความรู้คือกลางวัน
ความรู้นี้สามารถอยู่ในสติปัญญาของใครก็ได้
แต่ไม่ใช่ทุกคนจะสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่งได้
หากใครบางคนมีคุณธรรมที่สูงส่งก็สามารถเข้าใจได้ว่าผู้นั้นได้ซึมซับความรู้แล้ว
กิจกรรมของผู้ที่ซึมซับความรู้นี้จะกลายเป็นเหมือนกิจกรรมของเหล่าเทพ
กิจกรรมของผู้ที่ดูดซับน้อยกว่าก็จะมีสิ่งเจือปน หากพวกเขาไม่ได้ดูดซับสิ่งใด
นั่นหมายความว่าพวกเขาไม่ได้เป็นลูก(ของบาบา) มนุษย์ประณามพ่ออย่างมาก
เมื่อลูกเข้ามาสู่สกุลบราห์มิน ลูกจะหยุดประณามและดูหมิ่นกันและกัน
ลูกได้รับความรู้และด้วยการไตร่ตรองมหาสมุทรแห่งความรู้ ลูกจะได้รับน้ำทิพย์
หากลูกไม่ไตร่ตรองมหาสมุทรแห่งความรู้ลูกจะไตร่ตรองอะไร? ความคิดที่ชั่วร้าย
มีเพียงขยะเท่านั้นที่จะออกมาจากสิ่งนั้น เวลานี้ลูกคือนักเรียนของพระเจ้า
ลูกรู้ว่าลูกกำลังศึกษาเพื่อเปลี่ยนจากมนุษย์ธรรมดาให้กลายเป็นเทพ
เทพไม่ได้สอนการศึกษานี้ เทพไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นมหาสมุทรแห่งความรู้
มีเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่เรียกได้ว่าเป็นมหาสมุทรแห่งความรู้
คุณธรรมที่สูงส่งสามารถสร้างสมได้ด้วยความรู้เท่านั้น
เพียงในเวลานี้เท่านั้นที่ลูกได้รับความรู้นี้ ลูกไม่ได้รับสิ่งนี้ในยุคทอง
เทพเหล่านี้มีคุณธรรมที่สูงส่ง
ลูกยังยกย่องพวกเขาว่าเป็นผู้ที่เต็มไปด้วยทุกคุณธรรมเช่นกัน
ดังนั้นเวลานี้ลูกต้องกลายเป็นเช่นนั้น ลูกต้องถามตนเองว่า:
ฉันมีคุณธรรมที่สูงส่งอย่างเต็มเปี่ยมหรือกิจกรรมของฉันเป็นเช่นปีศาจหรือไม่?
หากลูกมีกิจกรรมที่เป็นเช่นปีศาจลูกต้องละทิ้งสิ่งเหล่านั้น
แล้วเมื่อนั้นที่ลูกจะถูกเรียกได้ว่าเทพ มิฉะนั้นลูกจะได้รับสถานภาพที่ต่ำ
เวลานี้ลูกๆกำลังสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่ง ลูกถ่ายทอดสิ่งที่ดีมากมาย
นี่เรียกว่ายุคบรรจบพบกันที่สูงส่งที่สุด เมื่อลูกกลายเป็นผู้ที่สูงส่งที่สุด
ดังนั้นบรรยากาศก็จะต้องดีมากด้วย ไม่ควรจะมีคำพูดที่สกปรกออกมาจากริมฝีปากของลูก
ไม่เช่นนั้นลูกก็จะได้รับสถานภาพที่ต่ำ
สิ่งนี้สามารถรู้ได้อย่างรวดเร็วจากพฤติกรรมและบรรยากาศของลูก
ให้ใบหน้าของลูกสดชื่นแจ่มใสอยู่เสมอ
ไม่เช่นนั้นก็จะกล่าวได้ว่าลูกไม่มีความรู้อะไรเลย
เพชรพลอยของความรู้เท่านั้นที่ควรออกจากปากของลูกอย่างสม่ำเสมอ
มองดูใบหน้าของลักษมีและนารายณ์ ใบหน้าของพวกเขาสดชื่นแจ่มใสเพียงใด
ดวงวิญญาณเหล่านั้นได้ดูดซับเพชรพลอยแห่งความรู้
มีเพียงเพชรพลอยแห่งความรู้เท่านั้นที่ออกจากปากของพวกเขาอย่างสม่ำเสมอ
มีความสุขอย่างมากในการถ่ายทอดและรับฟังเพชรพลอยแห่งความรู้
เพชรพลอยแห่งความรู้ที่ลูกได้รับในเวลานี้จะกลายเป็นเพชรและอัญมณี
ลูกประคำของเพชรพลอยทั้งเก้าไม่ใช่เพชรและอัญมณี
เป็นลูกประคำของเพชรพลอยแห่งความรู้
ผู้คนเชื่อว่าสิ่งนั้นได้ทำขึ้นมาจากเพชรพลอยที่เป็นวัตถุและพวกเขาสวมแหวนที่ทำขึ้นจากสิ่งเหล่านั้น
ลูกประคำของเพชรพลอยแห่งความรู้ที่ถูกสร้างขึ้นในยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุด
เพชรพลอยเหล่านี้จะทำให้ลูกมั่งคั่งเป็นเวลา 21 ชาติเกิดในอนาคต
ไม่มีใครสามารถรูดปล้นสิ่งเหล่านี้ไปจากลูกได้ ที่นี่หากลูกสวมเพชรและอัญมณี
ใครบางคนก็จะรูดปล้นสิ่งเหล่านั้นไปจากลูกอย่างรวดเร็วมาก
ดังนั้นลูกต้องรู้คิดอย่างมากและขจัดลักษณะนิสัยที่ชั่วร้ายเช่นปีศาจออกไป
ใบหน้าแย่ลงมากเนื่องจากลักษณะนิสัยที่ชั่วร้ายเช่นปีศาจ
ใบหน้าของคนที่มีความโกรธก็จะแดงราวกับทองแดง ผู้ที่มีกิเลสตัณหาราคะนั้นน่าเกลียด
ลูกๆ ควรไตร่ตรองมหาสมุทรแห่งความรู้เกี่ยวกับทุกสิ่ง
การศึกษานี้เป็นไปเพื่อการได้รับสมบัติมากมาย การศึกษาอื่นไม่มีค่าเช่นเพชรพลอย
ใช่ผู้คนสามารถศึกษาความรู้นั้นและได้รับตำแหน่งสูง ดังนั้นการศึกษามีคุณประโยชน์
ไม่ใช่ทรัพย์สมบัติ การศึกษาคือทรัพย์สมบัติ ทรัพย์สมบัตินั้นมีขีดจำกัด
ในขณะที่ทรัพย์สมบัตินี้ไม่มีขีดจำกัด ใช่ทั้งสองนั้นคือการศึกษา
เวลานี้ลูกเข้าใจว่าพ่อสอนลูกและทำให้ลูกกลายเป็นนายของโลก
การศึกษาเหล่านั้นเป็นเพียงชั่วคราวและมีค่าเพียงเล็กน้อยสำหรับชาติเกิดเพียงชาติเกิดเดียว
จากนั้นในชาติเกิดต่อไปลูกจะต้องศึกษาใหม่
ที่นั่นไม่จำเป็นที่จะต้องศึกษาเพื่อทรัพย์สมบัติ
ที่นั่นลูกได้รับสมบัติมากมายบนพื้นฐานของความเพียรพยายามของลูกในเวลานี้
ทรัพย์สมบัตินี้ไม่สูญสลาย เทพมีทรัพย์สมบัติมากมาย
พวกเขามีมากแค่ไหนเมื่อไปสู่หนทางของความเลื่อมใสศรัทธาซึ่งหมายถึงอาณาจักรของราวัน?
พวกเขาได้สร้างวัดมากมาย จากนั้นชาวมุสลิมก็มาปล้นทรัพย์สมบัติของพวกเขา พวกเขา (เหล่าเทพ)
มั่งคั่งมาก! ไม่มีใครสามารถกลายเป็นคนที่มั่งคั่งได้จากการศึกษาในปัจจุบัน
เวลานี้ลูกเข้าใจแล้วว่าลูกกำลังศึกษาการศึกษาที่สูงส่งซึ่งลูกจะกลายเป็นเทพ
ดูสิว่ามนุษย์กลายเป็นอะไรจากการศึกษา: มั่งคั่งจากยากจน
เวลานี้บารัตก็ยากจนมากเช่นกัน ผู้ที่มั่งคั่งไม่มีเวลาเลย
พวกเขามีความภาคภูมิใจในตัวเองที่เป็นผู้นั้นผู้นี้
ที่นี่ความภาคภูมิทั้งหมดต้องขจัดออกไป
ฉันคือดวงวิญญาณและดวงวิญญาณไม่มีทรัพย์สมบัติหรือความมั่งคั่งหรือเพชรหรืออัญมณี
พ่อพูดว่า: จงละทิ้งร่างกายและความสัมพันธ์ทางร่างกายทั้งหมด!
เมื่อดวงวิญญาณจากร่างของเขา
ความมั่งคั่งเจริญรุ่งเรืองฯลฯทั้งหมดของพวกเขาก็จบสิ้น
จนกว่าเขาจะได้ศึกษาและแสวงหาความมั่งคั่งของเขาอีกครั้ง
หรือถ้าเขาได้ทำทานหรือให้การบริจาคที่ดีมากในชาติเกิดก่อนหน้านี้
เขาก็จะไปเกิดในบ้านที่ร่ำรวย พวกเขากล่าวว่า: นั่นคือผลของการกระทำในอดีตของเขา
หากใครบางคนจัดให้มีการศึกษาแก่ผู้อื่น
สร้างวิทยาลัยหรือบ้านพักสำหรับผู้จาริกแสวงบญ เขาก็ได้รับผลของสิ่งนั้น
แต่เป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น ที่นี่ลูกให้ทาน บริจาค และทำบุญ
ลูกไม่ได้ทำสิ่งนี้ในยุคทอง มีแต่การกระทำที่ดีเท่านั้นในยุคทอง
เพราะลูกได้รับมรดกของเวลานี้ที่นั่น
ที่นั่นไม่มีใครทำกรรรมที่เป็นบาปเพราะราวันไม่ได้อยู่ที่นั่น
คนที่ยากจนที่นั่นไม่ทำกรรมที่เป็นบาป ที่นี่แม้แต่คนที่มั่งคั่งก็ทำกรรมที่เป็นบาป
ด้วยด้วยเหตุนี้จึงมีความเจ็บป่วยและความทุกข์ฯลฯ
ที่นั่นพวกเขาไม่ได้ข้องแวะในกิเลส แล้วจะทำบาปได้อย่างไร?
ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับกรรมหรือการกระทำ นี่คืออาณาจักรของมายา ราวัน
ที่มนุษย์กลายเป็นผู้ที่มีกิเลส พ่อมาและสอนลูกเพื่อทำให้ลูกปราศจากกิเลส
พ่อทำให้ลูกปราศจากกิเลส และมายาก็ทำให้ลูกมีกิเลส
มีสงครามระหว่างราชวงศ์ของรามและราชวงศ์ของราวัน
ลูกคือลูกของพ่อและพวกเขาเป็นลูกของราวัน ลูกที่ดีมากจำนวนมากมายได้พ่ายแพ้ต่อมายา
มายามีพลังมาก ทั้งๆที่ยังคงมีความหวัง
แม้แต่ผู้ที่ตกต่ำที่สุดก็ยังต้องได้รับการยกระดับ พ่อต้องยกระดับทั้งโลก
หลายคนตกต่ำลงมา พวกเขากลายเป็นผู้ที่ตกต่ำโดยสิ้นเชิง พ่อยกระดับแม้กระทั่งลูกๆ
เช่นนั้น ทุกคนในอาณาจักรของราวันตกต่ำ อย่างไรก็ตามพ่อช่วยชีวิตลูก
แต่ลูกก็ตกต่ำลงมาเรื่อยๆ และกลายเป็นผู้ที่ตกต่ำที่สุด
แล้วลูกก็ไม่สามารถไต่ขึ้นไปได้สูง
สำนึกของลูกจะกัดกร่อนเพราะลูกได้มาถึงสภาพที่ตกต่ำที่สุด ว่ากันว่า “ไม่ว่าสิ่งใดก็ตามที่เราจดจำในเวลาสุดท้าย...”
จะมีสถานภาพที่ต่ำที่สุดในสติปัญญาของคนๆนั้น
ดังนั้นพ่อจึงนั่งที่นี่และอธิบายให้กับลูกว่า: ลูกเองที่กลายเป็นเทพทุกวงจร
สัตว์จะกลายเป็นเช่นนั้นได้หรือไม่?
มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่เข้าใจสิ่งนี้และกลายเป็นเช่นนั้น
ลักษมีและนารายณ์ก็มีจมูกและหู ฯลฯ เช่นกัน เพราะพวกเขาเป็นมนุษย์
อย่างไรก็ตามพวกเขามีคุณธรรมที่สูงส่ง และด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงถูกเรียกว่าเทพ
พวกเขากลายเป็นเทพที่สวยงามเช่นนั้นได้อย่างไร? แล้วพวกเขาตกต่ำลงมาได้อย่างไร?
เวลานี้ลูกเข้าใจวงจรนี้แล้ว
ทุกคนที่ไตร่ตรองมหาสมุทรแห่งความรู้จะดูดซับสิ่งนี้ได้เป็นอย่างดี
ผู้ที่ไม่ไตร่ตรองมหาสมุทรแห่งความรู้ก็กลายเป็นคนที่โง่เขลา (บุดดู)
ผู้ที่อ่านมุรลีจะไตร่ตรองมหาสมุทรแห่งความรู้และคิดเกี่ยวกับหัวข้อที่พวกเขาต้องอธิบาย
พวกเขาจะไตร่ตรองมหาสมุทรแห่งความรู้โดยอัตโนมัติ ผู้คนที่หลากหลายกำลังจะมา
ดังนั้นลูกต้องอธิบายให้พวกเขาฟังด้วยความกระตือรือร้น
เป็นไปได้ว่าพวกเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่าง ทั้งหมดนั้นขึ้นอยู่กับโชคของพวกเขา
บางคนจะมีศรัทธาในทันทีในขณะที่คนอื่นไม่มี ความหวังถูกเก็บไว้สำหรับพวกเขา
ถ้าไม่ใช่ตอนนี้แล้วพวกเขาจะเข้าใจในอนาคตอย่างแน่นอน คนเราต้องมีความหวังต่อไป
การมีความหวังในพวกเขาหมายถึงการมีความใส่ใจที่จะรับใช้พวกเขา ลูกต้องไม่เหนื่อยล้า
แม้ว่าจะมีใครบางคนเคยศึกษาเล่าเรียน แต่แล้วก็กลับมาตกต่ำ เมื่อเขามา
ลูกจะเชิญให้เขานั่งในห้องรับแขกหรือจะบอกให้เขาออกไป?
ลูกจะถามเขาอย่างแน่นอนว่าทำไมเขาไม่มาเป็นเวลาหลายวัน
เขาอาจจะบอกว่าเขาพ่ายแพ้ต่อมายา หลายคนที่เป็นเช่นนั้นมาที่นี่
พวกเขาเข้าใจว่าความรู้นี้ดีมาก แต่มายาทำให้พวกเขาพ่ายแพ้
อย่างน้อยพวกเขาก็จำทุกสิ่งได้!
ในความเลื่อมใสศรัทธาไม่มีเรื่องของการได้รับชัยชนะหรือพ่ายแพ้
จะต้องมีการซึมซับความรู้นี้
เวลานี้ลูกกำลังรับฟังกีตะที่แท้จริงจากพ่อที่จะทำให้ลูกกลายเป็นเทพ
ลูกไม่สามารถกลายเป็นเทพได้โดยไม่ต้องกลายเป็นบราห์มิน ไม่มีบราห์มิน(วรรณะ)ในหมู่ชาวคริสเตียน,
ปาร์ซิส หรือมุสลิม ลูกเข้าใจสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดในเวลานี้
ลูกรู้ว่าลูกต้องจดจำอัลฟ่า เป็นเพียงการจดจำอัลฟ่าเท่านั้นที่ลูกได้รับอาณาจักร
เมื่อใดก็ตามที่ลูกพบใคร จงบอกเขาว่า: จดจำอัลฟ่า อัลล่าห์
อัลฟ่ากล่าวกันว่าเป็นผู้ที่สูงสุด ผู้คนชี้นิ้วขึ้นข้างบนเพื่อบ่งบอกถึงอัลฟ่า
อัลฟ่ากล่าวได้ว่าคือผู้เดียวเช่นกัน
มีพระเจ้าเพียงหนึ่งเดียวและส่วนที่เหลือทั้งหมดคือลูกๆ พ่อคืออัลฟ่าเสมอ
ท่านไม่ได้ปกครองอาณาจักร ท่านให้ความรู้แก่ลูกและทำให้ลูกกลายเป็นลูกๆของท่านด้วย
ดังนั้น ลูกๆ ควรมีความสุขมาก บาบากำลังรับใช้เราอย่างมาก
ท่านกำลังทำให้เรากลายเป็นนายของโลก ท่านเองไม่ได้ไปยังโลกใหม่ที่บริสุทธิ์
ไม่มีใครเชื้อเชิญท่านให้ไปสู่โลกที่บริสุทธิ์
มีเพียงผู้ที่ไม่บริสุทธิ์เท่านั้นที่ร้องเรียกหาท่าน
ท่านจะทำอะไรในโลกที่บริสุทธิ์? ชื่อของท่านคือผู้ชำระให้บริสุทธิ์
และดังนั้นหน้าที่ของท่านคือการทำให้โลกเก่านั้นใหม่ ชื่อของพ่อคือชีวา
และลูกๆถูกเรียกว่าซาลิแกรม ท่านเป็นที่กราบไหว้บูชา
ทุกคนจดจำท่านในฐานะที่เป็นชีพบาบา ประการที่สองพวกเขายังคงเรียกบราห์มาว่า ‘บาบา’
ผู้คนมากมายพูดถึงประชาบิดาบราห์มา แต่ไม่มีใครรู้จักท่านอย่างถูกต้อง
บราห์มาเป็นลูกของใคร? ลูกบอกว่าชีวา พ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุดได้นำท่านมาเลี้ยงดู
ท่านเป็นผู้ที่มีร่างกาย ดวงวิญญาณทั้งหมดคือลูกของพระเจ้า
ดวงวิญญาณมีร่างกายของตนเอง พวกเขาได้รับบทบาทของตนเองที่ต้องเล่น
สิ่งนี้ได้ดำเนินต่อเนื่องมาตั้งแต่โบราณกาล
การคงอยู่ตลอดไปหมายถึงไม่มีจุดเริ่มต้น ตอนกลางหรือจุดสิ้นสุด
เมื่อผู้คนได้ยินจุดจบ พวกเขาก็สับสนว่าสิ่งนั้นจะถูกสร้างขึ้นมาอีกครั้งได้อย่างไร
พ่ออธิบายว่า: สิ่งนี้คงอยู่ตลอดไปเป็นนิรันดร์
ไม่มีคำถามว่าสิ่งนั้นถูกสร้างขึ้นเมื่อใด การทำลายอย่างสิ้นซากไม่เคยเกิดขึ้น
นั่นเป็นเพียงเรื่องเล่าที่พวกเขาบอกเล่ากันมา
เป็นเพราะมีมนุษย์จำนวนเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่หลงเหลืออยู่
ที่พวกเขากล่าวว่ามีการทำลายอย่างสิ้นซากเกิดขึ้น
ความรู้ที่บาบามีอยู่นั้นปรากฏขึ้นมาในเวลานี้เท่านั้น มีคำกล่าวถึงท่านว่า:
แม้ว่าท่านจะเปลี่ยนมหาสมุทรทั้งหมดให้เป็นน้ำหมึก ป่าให้เป็นปากกา
และผืนโลกให้เป็นกระดาษ ความรู้นี้ก็จะไม่หมดไป อัจชะ
ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ
ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. ยกย่องชื่อเสียงเกียรติคุณของพ่อด้วยใบหน้าที่สดชื่นแจ่มใสของลูก
รับฟังและถ่ายทอดเพชรพลอยแห่งความรู้เท่านั้น
ให้ลูกประคำของเพชรพลอยแห่งความรู้อยู่รอบคอของลูก จงขจัดข้อบกพร่องที่ชั่วร้าย
2. อย่าได้เหนื่อยล้าในการทำงานรับใช้
รักษาความหวังและรับใช้ด้วยความใส่ใจอย่างยิ่ง
ไตร่ตรองมหาสมุทรแห่งความรู้และรักษาความกระตือรือร้น
พร:
ขอให้ลูกเต็มไปด้วยพลังทั้งหมดและสัมผัสกับความทัดเทียมกันเป็นการตอบแทนความรัก
ลูกๆ
ที่หลอมรวมอยู่ในความรักที่มีต่อพ่ออยู่เสมอจะได้รับพรของการมีความทัดเทียมกับพ่อเป็นการตอบแทนความรักของพวกเขา
ผู้ที่มีความรักและความถูกต้องในโยคะจะเต็มไปด้วยพลังทั้งหมดโดยอัตโนมัติ
เมื่อลูกมีพลังทั้งหมดอยู่กับลูกมีการรับประกันชัยชนะ
ผู้ที่มีความตระหนักว่าพ่อผู้ทรงอำนาจคือมิตรร่วมทางของพวกเขาจะไม่ถูกรบกวนจากสถานการณ์ใด
ๆ
คติพจน์:
ผู้ที่อยู่อย่างพอใจและมีความสุขในชีวิตที่เพียรพยายามของพวกเขาจะมีโชคแห่งความสุข