21.02.21 Avyakt Bapdada Thai Murli
06.11.87 Om Shanti Madhuban
วิธีที่จะกลายเป็นผู้รับใช้ที่สม่ำเสมอคือการทำงานรับใช้สี่ประเภท
วันนี้พ่อผู้ให้คุณประโยชน์โลกผู้รับใช้โลกกำลังมองดูลูกที่ให้ความร่วมมือผู้รับใช้โลกทั้งหมดของท่าน
ลูกแต่ละคนเป็นโยคีที่ง่ายดายและสม่ำเสมอเช่นเดียวกับการเป็นเป็นผู้รับใช้ที่สม่ำเสมอมากแค่ไหน?
ในชีวิตบราห์มินของลูกความสมดุลของทั้งการจดจำระลึกถึงและงานรับใช้ทำให้ลูกมีค่าควรแก่การได้รับพรจากบัพดาดาและดวงวิญญาณบราห์มินที่สูงส่งทั้งหมด
ในยุคบรรจบพบกันเท่านั้นและในชีวิต
บราห์มินนี้ที่ลูกสามารถได้รับพรจากพระเจ้าและครอบครัวบราห์มิน
ด้วยเหตุนี้เองในชีวิตอันสั้นนี้ลูกได้รับการบรรลุผลทั้งหมดตลอดกาลอย่างง่ายดาย
ยุคบรรจบพบกันนี้สามารถเรียกได้ว่าเป็นยุคพิเศษแห่งพรและด้วยเหตุนี้เองยุคนี้จึงเรียกว่ายุคที่ยิ่งใหญ่
บนพื้นฐานของทุกการกระทำที่สูงส่งและทุกความคิดที่สูงส่ง
พ่อเองยังคงให้พรจากหัวใจของท่านแก่ลูกบราห์มินทุกคนอย่างต่อเนื่องอยู่เสมอ
ชีวิตบราห์มินนี้เป็นชีวิตที่ลูกเติบโตด้วยการหล่อเลี้ยงของพรจากพระเจ้า
ด้วยใจที่เปิดกว้าง,พ่อ,พระเจ้าผู้ไร้เดียงสาประทานอาภรณ์ที่เต็มไปด้วยพรทุกประการแก่ลูกๆ
อย่างไรก็ตามพื้นฐานของการได้รับพรทั้งหมดนี้คือความสมดุลของการจดจำระลึกถึงและงานรับใช้
หากลูกเป็นโยคีที่สม่ำเสมอลูกก็เป็นผู้รับใช้ที่สม่ำเสมอเช่นกัน
ความสำคัญของงานรับใช้อยู่ในสติปัญญาของลูกเสมอหรือไม่?
ลูกบางคนคิดว่าเมื่อพวกเขามีโอกาส, มีวิธีการ หรือมีเวลาในการทำงานรับใช้,พวกเขาก็จะทำงานรับใช้
อย่างไรก็ตามเช่นเดียวกับที่บัพดาดาทำให้ลูกได้สัมผัสกับการจดจำระลึกถึงได้อย่างสม่ำเสมอและง่ายดาย
ในทำนองเดียวกันงานรับใช้ก็สามารถทำได้อย่างสม่ำเสมอและง่ายดายเช่นกัน
ดังนั้นวันนี้บัพดาดากำลังดูชาร์ทของงานรับใช้ของลูกผู้รับใช้
ลูกจะไม่มีประสบการณ์ในการรับพรอย่างสม่ำเสมอจนกว่าลูกจะกลายเป็นผู้รับใช้ที่สม่ำเสมอ
ตัวอย่างเช่นเมื่อลูกทำงานรับใช้ตามเวลาตามโอกาสหรือตามโปรแกรม
และจากผลของงานรับใช้เช่นนั้นลูกได้รับความสำเร็จและพรจากพ่อและครอบครัว
แต่นั่นไม่ใช่ตลอดเวลา
ดังนั้นเนื่องจากการได้รับพรเหล่านั้นบางครั้งลูกจึงประสบกับความก้าวหน้าในตนเองและงานรับใช้
อย่างไรก็ตามในบางครั้งเนื่องจากไม่มีความสมดุลของการจดจำระลึกถึงและงานรับใช้อย่างสม่ำเสมอลูกจึงประสบความสำเร็จหลังจากลำบากตรากตรำ
วันนี้บาบาจะมาบอกลูกว่าลูกจะเป็นผู้รับใช้ที่สม่ำเสมอได้อย่างไรและความสำคัญของงานรับใช้นั้น
ตลอดทั้งวันลูกสามารถทำงานรับใช้ได้มากมายหลายประเภท
ในสิ่งนั้นงานรับใช้แรกของตนเองนั่นคือให้ความสำคัญกับตนเองเสมอในการกลับมาเพียบพร้อมและสมบูรณ์พร้อม
ลูกต้องทำให้ตนเองสอบผ่านเกียรตินิยมในทุกวิชาหลักของการศึกษานี้
ลูกต้องกลายเป็นตัวของความรู้ตัวและเป็นตัวของการจดจำระลึกถึงและเป็นตัวของคุณธรรม;
ลูกต้องทำให้ตนเองเพียบพร้อมสมบูรณ์ในทุกสิ่ง
ให้งานรับใช้ของตนเองนี้อยู่ในสติปัญญาของลูกเสมอ
งานรับใช้ของตนเองนี้ทำให้ลูกสามารถทำงานรับใช้ผ่านรูปที่สมบูรณ์พร้อมของลูกโดยอัตโนมัติ
อย่างไรก็ตามวิธีการสำหรับสิ่งนั้นคือการให้ความใส่ใจและตรวจสอบ
ลูกต้องตรวจสอบตนเองไม่ใช่คนอื่น
ประการที่สองคืองานรับใช้โลกซึ่งลูกทำในรูปแบบต่างๆและด้วยวิธีการต่างๆผ่านคำพูดและผ่านความสัมพันธ์และสายใย
ลูกรู้ทั้งหมดนี้เป็นอย่างดี ประการที่สามคืองานรับใช้ของยักย่ะ
ซึ่งลูกทำด้วยร่างกายและเงินของลูก
งานรับใช้ที่สี่คือด้วยจิตใจของลูก
ไม่ว่าลูกจะอยู่ที่ใดลูกสามารถรับใช้ดวงวิญญาณมากมายด้วยความรู้สึกที่บริสุทธิ์
ความปรารถนาที่สูงส่ง ทัศนคติที่สูงส่งและกระแสจิตที่สูงส่ง
วิธีที่จะทำสิ่งนี้คือการกลายเป็นประภาคารแห่งแสงและอำนาจ
จากสถานที่หนึ่งประภาคารรับใช้ได้ระยะไกล
ในทำนองเดียวกันจากสถานที่หนึ่งลูกสามารถกลายเป็นเครื่องมือเพื่อรับใช้ผู้คนมากมาย
หากลูกสะสมสมบัติที่มีค่ามากมายลูกสามารถทำสิ่งนี้ได้อย่างง่ายดาย
ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการรับสิ่งอำนวยความสะดวกทางกาย โอกาส หรือเวลาสำหรับสิ่งนี้
ลูกเพียงแค่ต้องเต็มไปด้วยแสงสว่างและอำนาจ
ให้จิตใจและสติปัญญาปราศจากความคิดที่ไร้ประโยชน์อยู่เสมอ
ให้สิ่งเหล่านี้เป็นตัวของมนตรา "มานมานะบาฟ" ได้อย่างง่ายดาย
งานรับใช้ทั้งสี่ประเภทนี้ไม่สามารถทำให้ลูกเป็นผู้รับใช้ที่สม่ำเสมอได้หรือ?
จากงานรับใช้ทั้งสี่ประเภทลูกสามารถทำงานรับใช้ประเภทใดก็ได้ไปเรื่อยๆในทุกขณะและลูกจะกลายเป็นผู้รับใช้ที่ที่สม่ำเสมอได้อย่างง่ายดาย
และเนื่องจากการที่ต้องทำงานทำงานรับใช้อย่างสม่ำเสมอ
เนื่องจากการอยู่อย่างไม่ว่างเว้นอยู่เสมอ
ลูกจะกลายเป็นผู้เอาชนะมายาได้อย่างง่ายดาย
จากงานรับใช้ทั้งสี่ประเภททำงานรับใช้อะไรก็ตามที่ลูกสามารถทำได้ไม่ว่าเวลาใดก็ตาม
แต่อย่าตัดสิทธิ์ตนเองในการทำงานรับใช้แม้แต่วินาทีเดียว ลูกต้องเป็นผู้รับใช้ตลอด
24 ชั่วโมง ลูกไม่ใช่โยคีหรือผู้รับใช้แค่ 8 ชั่วโมง แต่เป็นผู้รับใช้ที่สม่ำเสมอ
นี่เป็นสิ่งที่ง่ายใช่ไหม? ถ้าไม่มีอะไรแล้วงานรับใช้ของตนเองนั้นก็เป็นสิ่งที่ดี
ไม่ว่าลูกจะมีโอกาสอะไร ลูกก็สามารถทำงานรับใช้ได้ตลอดเวลา
เนื่องจากร่างกายของพวกเขาหรือเพราะไม่มีเวลา
ลูกบางคนคิดว่าพวกเขาไม่สามารถทำงานรับใช้ได้
อย่างไรก็ตามจากงานรับใช้ทั้งสี่ประเภท
หากลูกอยู่อย่างไม่ว่างเว้นกับงานรับใช้ประเภทใดก็ตามตามความเหมาะสม
ลูกจะสะสมคะแนนในวิชาของงานรับใช้และคะแนนเหล่านี้จะถูกเพิ่มเข้าไปในผลลัพธ์สุดท้ายของลูก
เช่นที่คะแนนจะถูกสะสมสำหรับผู้ที่รับใช้ด้วยคำพูด
ในทำนองเดียวกันงานรับใช้ของยักย่ะ งานรับใช้ตนเอง
และงานรับใช้ด้วยจิตใจก็มีความสำคัญมากเช่นเดียวกันและลูกจะสะสมได้มากพอจากสิ่งเหล่านั้น
มีคะแนนเท่ากันสำหรับงานรับใช้ทุกประเภท
อย่างไรก็ตามผู้ที่ทำงานรับใช้ทั้งสี่ประเภทนั้นสะสมคะแนนได้จำนวนมากเช่นนั้น
ผู้ที่ทำงานรับใช้เพียงหนึ่งหรือสองประเภทจะสะสมคะแนนตามนั้น
ถึงกระนั้นหากลูกไม่สามารถทำงานรับใช้ทั้งสี่ประเภทได้
แต่สามารถทำงานรับใช้ได้เพียงสองประเภทแล้วลูกก็สามารถเป็นผู้รับใช้ที่สม่ำเสมอ
และเนื่องจากความสม่ำเสมอคะแนนของลูกจึงเพิ่มขึ้น
ด้วยเหตุนี้เองชีวิตบราห์มินจึงหมายถึงการเป็นผู้รับใช้ที่สม่ำเสมอและโยคีที่ง่ายดาย
เช่นที่ลูกให้ความใส่ใจกับการจดจำระลึกถึงอย่างสม่ำเสมอและทำให้แน่ใจว่าลิงก์ของการจดจำระลึกถึงนั้นเชื่อมโยงอย่างสม่ำเสมอ
ในทำนองเดียวกันให้ลิงก์ของงานรับใช้เชื่อมโยงอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน
ลูกมีประสบการณ์ในสภาพที่แตกต่างกันในการจดจำระลึกถึง: บางครั้งก็เป็นสภาพของเมล็ด
บางครั้งก็เป็นรูปที่เป็นเทวดานางฟ้า บางครั้งก็การไตร่ตรอง
บางครั้งก็เป็นการสนทนาจากใจถึงใจ
และแม้ว่าลูกจะมีสภาพที่แตกต่างกันลูกก็นับว่าเป็นการจดจำระลึกถึงอย่างสม่ำเสมอในวิชาของการจดจำระลึกถึง
ในทำนองเดียวกันมีรูปแบบของงานรับใช้ที่แตกต่างกันเหล่านี้
สำหรับชีวิตที่ปราศจากงานรับใช้ก็ไม่ใช่ชีวิต
ขอให้มีการจดจำระลึกถึงในทุกลมหายใจและมีงานรับใช้ในทุกลมหายใจ
สิ่งนี้เรียกว่าความสมดุล
แล้วเมื่อนั้นลูกจะยังคงได้รับพรต่อไปอย่างสม่ำเสมอในทุกขณะและเสียงที่จะออกมาจากหัวใจของลูกอย่างสม่ำเสมอและเป็นธรรมชาติคือลูกได้รับการหล่อเลี้ยงด้วยพร
ลูกโบยบินด้วยพรด้วยประสบการณ์ของสภาพที่โบยบิน
ลูกจะเป็นอิสระจากการตรากตรำและการต่อสู้ ลูกจะเป็นอิสระจากคำถาม "อะไร" "ทำไม" และ
“อย่างไร?" และมีความสุขเสมอ
ลูกจะประสบความสำเร็จอยู่เรื่อยๆสม่ำเสมออย่างเป็นสิทธิ์โดยกำเนิดของลูก "ฉันไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ฉันไม่รู้ว่าจะมีความสำเร็จหรือไม่
ฉันไม่รู้ว่าฉันจะสามารถดำเนินต่อไปในอนาคตได้หรือไม่” เมื่อความคิดเหล่านี้“ฉันไม่รู้ว่า….”ถูกเปลี่ยนไป
ลูกก็จะสัมผัสกับสภาพของการเป็นนายตรีกาลดาร์ชิ
ลูกจะมีความศรัทธาและความซาบซึ้งอยู่ตลอดเวลาว่าชัยชนะได้รับประกันแล้ว
นี่คือสิ่งชี้บอกของพร ลูกเข้าใจไหม?
ในชีวิตของบราห์มิน ในยุคที่ยิ่งใหญ่นี้
หากลูกต้องลำบากตรากตรำหลังจากที่ลูกได้ประกาศสิทธิ์ในบัพดาดา
หากลูกใช้ชีวิตของลูกในสภาพของการต่อสู้อยู่ตลอดเวลา ...
บัพดาดาไม่สามารถทนเห็นชีวิตที่ลำบากในตัวลูกได้
ด้วยเหตุนี้เองลูกต้องกลายเป็นโยคีและผู้รับใช้ที่สม่ำเสมอ ลูกเข้าใจไหม? อัจชะ
ความหวังของลูกที่เก่าแก่กว่าได้รับการเติมเต็มแล้วใช่หรือไม่? ทำได้ดีมากสำหรับลูก
ๆ
ที่เฝ้าแต่ทำงานรับใช้ซึ่งทำหน้าที่จัดหาน้ำและให้ความร่วมมือทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อเติมเต็มความหวังของลูกๆหลายคน
ลูกกลายเป็นผู้เอาชนะการนอนหลับและเป็นผู้เอาชนะวัตถุธาตุด้วย
ดังนั้นขอขอบคุณผู้รับใช้ทั้งหมดของมธุบัน ไม่ว่าพวกเขาจะทำตามแผนอะไร ไปนำน้ำมา
ไปรับคนอื่นอย่างสะดวกสบาย จัดหาที่พักที่สะดวกสบาย
เตรียมอาหารให้ตรงเวลาสำหรับใครก็ตามที่เป็นเครื่องมือในงานรับใช้ทุกประเภท
ถึงอย่างไรบัพดาดาก็ขอขอบคุณ โลกกำลังร้องหาน้ำและลูก ๆ
ของพ่อก็ทำงานของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย
บัพดาดายังคงเห็นงานรับใช้ของลูกผู้ที่เฝ้าแต่ทำงานรับใช้ทุกคนอย่างต่อเนื่อง
ผู้ที่อาศัยอยู่ในมธุบันกลายเป็นเครื่องมือและทำให้ลูกได้รับโอกาสอย่างสะดวกสบาย
ลูกเองก็ให้ความร่วมมือใช่หรือไม่?
เช่นเดียวกับที่คนเหล่านั้นให้ความร่วมมือกันและลูกได้รับผลของสิ่งนั้น
ในทำนองเดียวกันหากลูกทุกคนยังคงเดินหน้าไปในทำนองเดียวกันตามเวลาในทุกๆงาน
บราห์มินอื่น ๆ อีกมากมายจะได้รับผลของความร่วมมือของลูกอย่างสม่ำเสมอ
บัพดาดายิ้ม แม่น้ำน้ำนมจะไหลรินในยุคทอง
แต่อย่างน้อยน้ำในยุคบรรจบพบกันก็กลายเป็นเหมือนเนย (คุณค่าของมัน)
แม่น้ำเนยไหลผ่านก๊อก น้ำกลายเป็นเหมือนเนยและมันจึงมีค่ามากใช่หรือไม่?
วิธีนี้หลายคนจะได้รับโอกาส
อย่างไรก็ตามมีความแตกต่างอย่างมากระหว่างโลกกับลูกบราห์มิน
ลูกทุกคนมีความสะดวกสบายมากกว่าผู้ที่อยู่ในสถานที่อื่นมากมายและลูกได้รับการฝึกฝนนี้
ดังนั้นจงเพิ่มการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องของการเป็นคนที่เข้าใจนัยสำคัญของความลับทั้งหมดและอยู่อย่างมีความสุขในทุกสถานการณ์
อัจชะ
ถึงโยคีที่สม่ำเสมอ ผู้รับใช้ที่สม่ำเสมอ ดวงวิญญาณที่สูงส่งทั้งหมด
ถึงผู้ที่เป็นตรีกาลดารชิอยู่เสมอและและผู้ที่มีสิทธิ์ที่จะประสบความสำเร็จ
ถึงดวงวิญญาณที่สูงส่ง ที่มีความสุขและพอใจอย่างสม่ำเสมอ
ถึงลูกๆที่มีประสบการณ์กับพรในทุกวินาที ด้วยความรัก ระลึกถึง และนมัสเต จาก
บัพดาดา, ผู้ประทานโชคและผู้ประทานพร
ถึงดาดี้จี: ลูกมีความคิดและทุกคนก็ได้รับผลของความคิดที่สูงส่งนั้น
ลูกได้รับพวงมาลัยมากมาย
นอกจากการสรรเสริญพ่อแล้วผู้คนยังร้องเพลงสรรเสริญผู้ที่กลายเป็นเครื่องมือด้วย
ด้วยเหตุนี้เองลูกๆจึงได้รับการกราบไหว้บูชาพร้อมกับพ่อด้วยเช่นกัน
พ่อไม่ได้รับการกราบไหว้บูชาเพียงผู้เดียว ทุกคนได้รับความสุขมากมาย
พวงมาลัยแห่งพรเหล่านี้ทำให้ลูกมีสิทธิ์ที่จะได้รับพวงมาลัยบนหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา
อะแวกบัพดาดาพบกลุ่ม:
1) ลูกทุกคนดวงวิญญาณที่สูงส่งดับความกระหายของทุกคนใช่หรือไม่?
นั่นคือน้ำทางกายภาพในขณะที่ลูกมีน้ำทิพย์แห่งความรู้
น้ำช่วยดับกระหายชั่วคราวและทำให้ลูกเป็นดวงวิญญาณที่พอใจ
ดังนั้นลูกกลายเป็นเครื่องมือที่จะทำให้ทุกดวงวิญญาณพอใจด้วยน้ำทิพย์ใช่หรือไม่?
ลูกมีความกระตือรือร้นนี้อยู่เสมอหรือไม่?
เพราะการดับกระหายของใครบางคนถือเป็นบุญที่ยิ่งใหญ่
ผู้ที่ดับความกระหายของดวงวิญญาณที่กระหายกล่าวกันว่าเป็นดวงวิญญาณที่ใจบุญ
ลูกก็เป็นผู้ที่กลายเป็นดวงวิญญาณที่ใจบุญอย่างมากและดับความกระหายของทุกคนเช่นกัน
ผู้คนจะหมดหวังเมื่อพวกเขากระหายน้ำ
ถ้าพวกเขาไม่ได้รับน้ำพวกเขาจะหมดหวังอย่างมากใช่หรือไม่?
ในทำนองเดียวกันเนื่องจากไม่ได้รับน้ำทิพย์แห่งความรู้ดวงวิญญาณจึงร้องไห้ออกมาด้วยความทุกข์และความไม่สงบ
ดังนั้นลูกคือดวงวิญญาณที่ใจบุญที่ให้น้ำทิพย์แห่งความรู้และดับกระหายแก่พวกเขา
ดังนั้นลูกกำลังสะสมในบัญชีบุญของลูกสำหรับหลายชาติเกิดใช่หรือไม่?
ในชาติเกิดเดียวลูกสะสมไว้ในบัญชีของลูกสำหรับหลายๆชาติเกิดใช่หรือไม่?
ในชาติเกิดเดียวลูกสะสมในบัญชีของลูกสำหรับหลายๆชาติเกิด
ดังนั้นลูกสะสมได้มากขนาดนี้แล้วใช่ไหม?
ลูกเต็มไปด้วยสมบัติที่มีค่ามากมายที่ลูกสามารถแจกจ่ายให้คนอื่นได้
ลูกได้สะสมเพื่อตนเองและยังกลายเป็นผู้ประทานให้กับผู้อื่นด้วย
ดังนั้นควรตรวจสอบอยู่เสมอ:
ฉันเป็นดวงวิญญาณที่ใจบุญตลอดทั้งวันและฉันได้ทำบุญหรือไม่
หรือเพียงแค่กินดื่มและสนุกกับตนเอง? ผู้ที่สะสมนั้นกล่าวได้ว่ารู้คิด
ในขณะที่ผู้ที่หามาได้แล้วนำไปใช้จ่ายนั้นไม่ได้ถูกกล่าวว่ารู้คิด
เช่นที่ลูกหาเวลาเพื่อทานอาหารของลูกเพราะลูกรู้ว่าสิ่งนั้นสำคัญ
ในทำนองเดียวกันการทำบุญนี้ก็เป็นสิ่งสำคัญ
ดังนั้นลูกเป็นดวงวิญญาณที่ใจบุญเสมอไม่ใช่แค่บางครั้ง
ไม่ใช่ว่าลูกจะทำสิ่งนี้ถ้าลูกมีโอกาส ลูกต้องใช้โอกาส ไม่ใช่ว่าลูกไม่มีเวลา
แต่ต้องให้เวลา แล้วเมื่อนั้นลูกจะสามารถสะสมได้
ในเวลานี้ลูกสามารถขีดเส้นโชคของลูกได้ยาวเท่าที่ลูกต้องการเพราะพ่อเป็นผู้ประทานโชคและผู้ประทานพร
พ่อประทานปากกาของความรู้ที่สูงส่งให้แก่ลูกของท่าน
ด้วยปากกานี้ลูกสามารถลากเส้นได้ยาวเท่าที่ลูกต้องการ อัจชะ
2) ลูกทุกคนเป็นราชฤๅษีใช่ไหม? ราชหมายถึงผู้ที่มีสิทธิ์และฤๅษีหมายถึงตาปาสวี
พลังของตาปาเซียเป็นวิธีที่ลูกสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างง่ายดาย
ด้วยความรักที่มีต่อพระเจ้าลูกสามารถทำให้ตนเองและโลกปราศจากอุปสรรคได้ตลอดเวลา
เพื่อที่จะปราศจากอุปสรรคและทำให้ผู้อื่นปราศจากอุปสรรค -
ลูกทำงานรับใช้นี้ใช่หรือไม่?
ลูกคือผู้ที่ปลดปล่อยดวงวิญญาณทั้งหมดจากอุปสรรคทุกประเภท
ลูกเป็นผู้ที่ประกาศสิทธิ์ในพรแห่งการหลุดพ้นในชีวิตจากพ่อและลูกให้กับผู้อื่นใช่หรือไม่?
“ปราศจากอุปสรรค” หมายถึงการหลุดพ้นในชีวิต
3) เมื่อลูกมีความกล้าหาญพ่อช่วยเหลือ
เมื่อลูกมีความกล้าหาญลูกจะได้รับความช่วยเหลือจากพ่อหลายล้านเท่า ภาระอยู่ที่พ่อ
แต่จงเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์และเฝ้าแต่เคลื่อนไปข้างหน้าอย่างสม่ำเสมอด้วยการจดจำระลึกถึงพ่อ
การจดจำระลึกถึงพ่อคือร่มฉัตรแห่งการปกป้องคุ้มครอง บัญชีในอดีตเป็นเหมือนไม้กางเขน
แต่ด้วยความช่วยเหลือของพ่อสิ่งเหล่านั้นจะกลายเป็นเหมือนหนาม
สถานการณ์ที่เลวร้ายจะมาถึงแน่นอนเพราะทุกสิ่งต้องถูกชำระสะสางที่นี่
อย่างไรก็ตามความช่วยเหลือของพ่อทำให้ทุกสิ่งกลายเป็นหนาม
ทำให้เรื่องใหญ่เป็นเรื่องเล็กเพราะพ่อที่ยิ่งใหญ่อยู่กับลูก
จงมีศรัทธาอย่างสม่ำเสมอและลูกจะก้าวหน้าต่อไป เป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ในทุกขั้นตอน
ผู้ดูแลผลประโยชน์หมายถึงทุกสิ่งเป็น "ของท่าน" และจิตสำนึกทั้งหมดของ "ของฉัน"
จะจบสิ้น ผู้ครองเรือนหมายถึง “ของฉัน” เมื่อลูกพูดว่า “ของท่าน”
แม้กระทั่งสถานการณ์ที่ใหญ่จะกลายเป็นเรื่องเล็ก ในขณะที่เมื่อเป็น“ของฉัน”
แม้แต่เรื่องเล็กน้อยก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ จิตสำนึกของ "ของท่าน" ทำให้ลูกเบาสบาย
และจิตสำนึกของ "ของฉัน" ทำให้ลูกหนัก
ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่ลูกรู้สึกว่าตนเองมีความหนักให้ตรวจสอบว่าไม่มีจิตสำนึกของ“ของฉัน”เลย
เปลี่ยน "ของฉัน" เป็น "ของท่าน"
แล้วลูกจะกลายเป็นแสงในช่วงเวลานั้นและภาระทั้งหมดของลูกจะจบสิ้นในหนึ่งวินาที
พร:
ขอให้ลูกเป็นภาพลักษณ์ที่ให้พรและเป็นที่รักของทุกคนเป็นพิเศษ
เพราะคุณสมบัติพิเศษของความพอใจและความยิ่งใหญ่ของลูก
เพียงผู้ที่อยู่อย่างพอใจกับตนเองและกับผู้อื่นอยู่เสมอเท่านั้นที่จะกลายเป็นเทพที่รักเป็นพิเศษและเป็นส่วนหนึ่งของเทพพิเศษทั้งแปด
เรียกสิ่งนี้ว่า คุณธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด การให้ทาน
คุณสมบัติพิเศษหรือความยิ่งใหญ่ นั่นคือความพอใจ
มีเพียงดวงวิญญาณที่พอใจเท่านั้นที่เป็นที่รักของพระเจ้า เป็นที่รักของผู้คน
และเป็นที่รักของตนเอง
ดวงวิญญาณที่พอใจเช่นนั้นเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นดวงวิญญาณที่ให้พร
ตอนนี้ในช่วงเวลาสุดท้ายยิ่งกว่าในรูปของผู้ให้ทานที่ยิ่งใหญ่
งานรับใช้มากมายจะเกิดขึ้นโดยผ่านรูปของผู้ที่ให้พร
คติพจน์:
เพชรพลอยแห่งชัยชนะคือผู้ที่มีติลักแห่งชัยชนะเปล่งประกายอยู่บนหน้าผากอย่างสม่ำเสมอ