02.05.25 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน นั่งในสันโดษและพูดกับตนเอง ฝึกฝน “ฉันคือดวงวิญญาณที่ไม่สูญสลายและรับฟังพ่อ”
คำถาม:
คำพูดใดที่ออกมาจากปากของลูกๆ ผู้ที่ไม่ระมัดระวังเกี่ยวกับการจดจำระลึกถึง?
คำตอบ:
พวกเขาพูดว่า:
“ถึงอย่างไรฉันก็เป็นลูกของชีพบาบา ฉันก็อยู่ในการจดจำระลึกถึงอยู่แล้ว”
อย่างไรก็ตามบาบาพูดว่า: ทั้งหมดนั้นเป็นการพูดเท็จและความประมาท
ลูกต้องทำความพยายามที่จะมีการจดจำระลึกถึง
ตื่นแต่เช้าตรู่และนั่งในการจดจำระลึกถึงในขณะที่พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ
มีการสนทนาอย่างเปิดอกและเป็นการส่วนตัว เป็นดวงวิญญาณที่พูด
เวลานี้ลูกกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ
เพียงลูกๆที่มีสำนึกเป็นดวงวิญญาณเท่านั้นที่จะรักษาชาร์ทของการจดจำระลึกถึง
พวกเขาจะไม่เพียงแค่บอกเรื่องราวของความรู้นี้
เพลง:
มองใบหน้าในกระจกหัวใจของท่าน!…
โอมชานติ
พ่อได้บอกลูกๆ ทางจิตแล้วว่าแต่ละดวงวิญญาณนั้นถูกเรียกว่าผู้มีชีวิต
เวลานี้พ่ออธิบายแก่ดวงวิญญาณ เพลงนั้นเป็นของหนทางความเลื่อมใสศรัทธา
ได้มีการอธิบายแต่เพียงสาระเท่านั้นแก่ลูก
ในขณะที่ลูกนั่งที่นี่ให้พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ ละทิ้งสำนึกของร่างกาย ฉัน,ดวงวิญญาณนี้
เป็นจุดที่เล็กมาก ฉันเล่นบทบาทของฉันผ่านร่างนี้
ไม่มีใครอื่นมีความรู้ของดวงวิญญาณนี้ พ่ออธิบายว่า: พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ
ฉันเป็นดวงวิญญาณที่แสนเล็ก เป็นดวงวิญญาณที่เล่นบทบาททั้งหมดผ่านร่างกาย
และแล้วสำนึกที่เป็นร่างจะถูกขจัดออกไป นี่คือความพยายามที่ลูกต้องทำ
เราดวงวิญญาณคือนักแสดงของละครทั้งหมด นักแสดงสูงสุดนั้นคือพ่อสูงสุด
ดวงวิญญาณสูงสุด
มันอยู่ในสติปัญญาว่าท่านก็เป็นจุดที่แสนเล็กเช่นกันแต่คำการยกย่องของท่านนั้นยิ่งใหญ่มาก
ท่านคือมหาสมุทรแห่งความรู้และมหาสมุทรแห่งความสุขและท่านยังเป็นจุดที่แสนเล็ก
เราดวงวิญญาณเป็นจุดที่แสนเล็กด้วยเช่นกัน
ดวงวิญญาณไม่สามารถมองเห็นได้นอกจากในนิมิตที่สูงส่ง
ลูกได้ยินประเด็นใหม่ๆเหล่านี้เวลานี้ โลกรู้อะไรเกี่ยวกับสิ่งนี้?
อย่างไรก็ตามในบรรดาลูกๆเช่นกันเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เข้าใจสิ่งนี้อย่างถูกต้องและเก็บไว้ในสติปัญญาของลูกว่าลูกเป็นดวงวิญญาณเป็นจุดที่เล็กมาก
พ่อของเราเป็นนักแสดงหลักในละครนี้ นักแสดงสูงสุดในบรรดาทั้งหมดคือพ่อ
และแล้วก็มีคนอื่นๆทั้งหมดที่มา ลูกรู้ว่าทั้งๆที่พ่อเป็นมหาสมุทรแห่งความรู้
ท่านก็ไม่สามารถพูดความรู้โดยไม่มีร่างกายได้
เป็นเพียงเมื่อท่านมีร่างกายเท่านั้นที่ท่านสามารถพูดได้ เมื่อดวงวิญญาณปราศจากร่าง
ดวงวิญญาณก็แยกออกจากอวัยวะของพวกเขา
ผู้คนในหนทางความเลื่อมใสศรัทธาจดจำผู้มีร่างกายเท่านั้นอย่างสม่ำเสมอ
พวกเขาไม่รู้จักชื่อ รูป ดินแดน หรือเวลาของพ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด
พวกเขาเพียงแค่พูดว่าท่านอยู่เหนือรูปและนาม พ่ออธิบายว่า:
ตามละครลูกที่เป็นผู้ที่สะโตประธานอันดับหนึ่งต้องกลับมาสะโตประธานอีกครั้ง
เพื่อที่จะเปลี่ยนกลับจากตาโมประธานเป็นสะโตประธานลูกต้องทำให้สภาพของลูกเข้มแข็ง:
ฉันคือดวงวิญญาณ ดวงวิญญาณกำลังพูดผ่านร่างกายนี้ ดวงวิญญาณมีความรู้ ความรู้นี้
ความรู้ของบทบาทที่ไม่สูญสลาย 84
ชาติเกิดที่ถูกบันทึกไว้ในแต่ละดวงวิญญาณไม่อยู่ในสติปัญญาของคนอื่น
เหล่านี้เป็นประเด็นที่ใหม่มาก นั่งในสันโดษและพูดกับตนเองเช่นนี้ “ฉันคือดวงวิญญาณ
ฉันรับฟังพ่อ ฉันดวงวิญญาณนี้ซึมซับความรู้นี้ ดวงวิญญาณนี้เต็มไปด้วยบทบาทนี้
ฉันคือดวงวิญญาณที่ไม่สูญสลาย” ลูกต้องบดสิ่งนี้ภายในตัวลูกเอง
เราต้องเปลี่ยนจากตาโมประธานไปเป็นสะโตประธาน
มนุษย์ที่มีสำนึกที่เป็นร่างไม่มีแม้กระทั่งมีความรู้ว่าดวงวิญญาณคืออะไร
พวกเขาเก็บหนังสือเล่มใหญ่มากไว้กับเขา พวกเขามีความหยิ่งยโสอย่างมาก
นี่คือโลกที่ตาโมประธาน ไม่มีดวงวิญญาณที่สูงสุดเหนือสิ่งใดที่นี่
เวลานี้ลูกรู้ว่าลูกต้องทำความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงจากตาโมประธานไปเป็นสะโตประธาน
บดประเด็นนี้ไปสู่ภายในตนเอง
ลูกหลายคนสามารถถ่ายทอดความรู้นี้ได้แต่ลูกไม่มีการจดจำระลึกถึงนั้น
ควรจะมีการสำรวจตรวจสอบภายในตนเอง
ลูกต้องเปลี่ยนจากไม่บริสุทธิ์ไปเป็นบริสุทธิ์โดยการมีการจดจำระลึกถึงพ่อ
อย่าได้กลับมาเป็นเพียงแค่บัณฑิต
มีตัวอย่างของบัณฑิตที่บอกให้ผู้เป็นแม่บางคนพูดว่า “ราม ราม”
เพื่อที่พวกเขาสามารถข้ามแม่น้ำได้ อย่าได้พูดเท็จเช่นนั้น
มีหลายคนผู้ที่เป็นเช่นนั้น บางคนอธิบายได้ดีมาก แต่พวกเขาไม่มีโยคะใดๆเลย
พวกเขาอยู่อย่างมีสำนึกที่เป็นร่างตลอดทั้งวัน มิฉะนั้นแล้ว
พวกเขาก็จะส่งชาร์ทของเขาให้แก่บาบาโดยบอกว่าพวกเขาตื่นกี่โมงและพวกเขามีการจดจำระลึกถึงมากเท่าไหร่
บางคนไม่ส่งข่าวใดๆเลย
พวกเขาเพียงแค่พูดความรู้นี้มากมายโดยไม่จำเป็นและไม่มีโยคะเลย
แม้ว่าพวกเขาจะให้ความรู้นี้แก่บุคคลสำคัญ พวกเขาเองก็อ่อนแอในโยคะ
ตื่นแต่เช้าตรู่และจดจำพ่อ: บาบา ท่านคือผู้เป็นที่รักที่สุด
นี่คือละครที่ถูกกำหนดไว้แล้วที่พิเศษสุดมาก ไม่มีใครเข้าใจความลับของละครนี้
พวกเขาไม่เข้าใจว่าดวงวิญญาณคืออะไรและดวงวิญญาณสูงสุดคืออะไร
เวลานี้มนุษย์นั้นเลวร้ายยิ่งกว่าสัตว์ เราก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน
ลูกได้มาถึงสภาพที่เลวร้ายมากในอาณาจักรของมายา ลูกสามารถให้ความรู้นี้แก่ใครก็ตาม
บอกพวกเขาว่า: “ท่านคือดวงวิญญาณผู้ที่เวลานี้กลับมาตาโมประธาน
ท่านต้องกลับมาสะโตประธานอีกครั้ง ก่อนอื่นใดพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ”
เป็นสิ่งที่ง่ายกว่าสำหรับผู้ที่ยากจน ผู้ที่มั่งคั่งนั้นก็มีความซับซ้อนมากมาย
พ่อพูดว่า: พ่อเข้ามาในร่างที่ธรรมดา เขาไม่ได้เป็นคนจนมากหรือรวยมาก
เวลานี้ลูกรู้ว่าพ่อมาเวลานี้ทุกวงจรและแนะนำว่าจะกลับมาบริสุทธิ์อย่างไรแก่เรา
บาบาไม่ได้มาเพื่อแนะนำลูกเกี่ยวกับความซับซ้อนของธุรกิจของลูก ลูกเรียกหา: “โอ
ผู้ชำระให้บริสุทธิ์ได้โปรดมา!”
ดังนั้นบาบาจึงได้แสดงวิธีที่จะกลับมาบริสุทธิ์ให้แก่ลูก บราห์มานี้ก็ไม่รู้อะไรเลย
หากลูกเป็นนักแสดงและไม่รู้ตอนเริ่มตอนกลางและตอนจบของละครของลูก
ลูกจะถูกเรียกว่าอะไร? เราดวงวิญญาณเป็นนักแสดงในวงจรโลกนี้ แต่ไม่มีใครรู้สิ่งนี้
แม้ว่าพวกเขาจะพูดว่าดวงวิญญาณอาศัยอยู่ในโลกที่ไม่มีตัวตน
พวกเขาก็ไม่พูดสิ่งนั้นจากประสบการณ์
เวลานี้ลูกดวงวิญญาณรู้ว่าลูกคือผู้อาศัยของโลกที่ไม่มีตัวตนในทางปฏิบัติ
ลูกดวงวิญญาณนั้นไม่สูญสลาย เก็บสิ่งนี้ไว้ในสติปัญญาของลูก
มีลูกมากมายผู้ที่ไม่มีโยคะเลยและแล้วเนื่องจากการมีสำนึกที่เป็นร่าง
พวกเขาจึงทำผิดมากมาย สิ่งหลักคือการกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ
ลูกควรจะมีความใส่ใจเกี่ยวกับการกลับมาสะโตประธาน
ลูกๆผู้ที่มีความใส่ใจที่จะกลับมาสะโตประธานไม่เคยให้ก้อนหินออกมาจากปากของพวกเขา
หากพวกเขาทำผิด พวกเขาจะรายงานสิ่งนั้นกับพ่อในทันทีว่า: “บาบา ฉันทำความผิดนี้
ได้โปรดยกโทษให้ฉัน!” พวกเขาจะไม่ซ่อนเร้นสิ่งนั้น เมื่อมีการซ่อนเร้น
สิ่งนั้นก็จะเพิ่มมากขึ้น บอกข่าวของลูกกับบาบาอยู่เรื่อยๆ บาบาจะตอบว่า
โยคะของลูกไม่ถูกต้อง สิ่งหลักคือการกลับมาบริสุทธิ์ เรื่องราวของ 84
ชาติเกิดอยู่ในสติปัญญาของลูกๆ มากเท่าที่เป็นไปได้
เพียงแค่ใส่ใจเกี่ยวกับการกลับมาสะโตประธาน ละทิ้งสำนึกที่เป็นร่าง ลูกคือราชาฤๅษี
หฐโยคีไม่สามารถสอนราชาโยคะ เพียงพ่อเท่านั้นที่สามารถสอนราชาโยคะ
เพียงพ่อเท่านั้นที่ให้ความรู้นี้ เวลานี้ความเลื่อมใสศรัทธามีความตาโมประธาน
พ่อมาในยุคบรรจบพบกันเท่านั้นเพื่อให้ความรู้นี้ เวลานี้พ่อมาแล้ว
ความเลื่อมใสศรัทธาต้องจบสิ้นลงและโลกนี้ต้องจบสิ้นลงเช่นกัน
ยุคทองได้รับการก่อตั้งผ่านความรู้และโยคะนี้
ความเลื่อมใสศรัทธาแยกจากกันอย่างสมบูรณ์
ผู้คนพูดว่าความสุขและความทุกข์ทั้งสองคงอยู่ที่นี่ ลูกๆมีความรับผิดชอบอย่างมาก
สร้างวิธีการต่อไปที่จะให้ประโยชน์แก่ตนเอง
มีการอธิบายแล้วด้วยเช่นกันว่าโลกที่บริสุทธิ์คือดินแดนแห่งความสงบและดินแดนแห่งความสุข
นี่คือดินแดนของความไม่สงบ ดินแดนแห่งความทุกข์ สิ่งแรกและสิ่งหลักคือโยคะ
หากลูกไม่มีโยคะลูกก็เพียงแค่พูดความรู้มากมายนี้โดยไม่จำเป็นเหมือนบัณฑิต
ทุกวันนี้มีพลังลี้ลับมากมาย ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความรู้นี้
ผู้คนติดกับในความโกหกอย่างมาก พวกเขาไม่บริสุทธิ์ พ่อเองพูดว่า
พ่อเข้ามาในโลกที่ไม่บริสุทธิ์นี้ เข้ามาในร่างที่ไม่บริสุทธิ์
ไม่มีใครที่นี่ที่บริสุทธิ์ ผู้นี้ไม่ได้เรียกตนเองว่าเป็นพระเจ้า เขาพูดว่า: “ฉันก็ไม่บริสุทธิ์เช่นกัน
เมื่อฉันกลับมาบริสุทธิ์ ฉันก็จะกลายเป็นเทวดานางฟ้า”
ลูกก็จะกลายเป็นเทวดานางฟ้าที่บริสุทธิ์เช่นกัน
สิ่งหลักก็คือเราจะกลับมาบริสุทธิ์ได้อย่างไร
การจดจำระลึกถึงนั้นเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากสำหรับสิ่งนี้
ลูกๆที่ไม่ใส่ใจเกี่ยวกับการจดจำระลึกถึงก็พูดว่า: “ถึงอย่างไรเรานั้นก็เป็นลูกของชีพบาบา
เราอยู่ในการจดจำระลึกถึงบาบาอยู่แล้ว”
อย่างไรก็ตามบาบาพูดว่าทั้งหมดนั้นคือการพูดเท็จ! เป็นความไม่ระมัดระวัง
ลูกต้องทำความพยายามสำหรับการจดจำระลึกถึงนี้
ตื่นแต่เช้าตรู่และนั่งในการจดจำระลึกถึงด้วยการพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ
มีการสนทนาจากใจถึงใจ เป็นดวงวิญญาณที่พูด
เวลานี้ลูกกำลังกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ
มีการร้องเพลงยกย่องผู้ที่ให้ประโยชน์แก่ผู้อื่น นั่นคือการยกย่องของร่างกาย
ในขณะที่คำยกย่องนี้เป็นของพ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด ผู้ไม่มีตัวตน
ลูกเข้าใจสิ่งนี้ ความรู้เกี่ยวกับบันไดและเราใช้ 84
ชาติเกิดอย่างไรในขณะที่เราลงมาจะไม่อยู่ในสติปัญญาของคนอื่น
เวลานี้ไหของบาปเต็มแล้ว จะสามารถทำความสะอาดได้อย่างไร? เหตุนี้เองลูกจึงเรียกพ่อ
ลูกเป็นของชุมนุมพันดาวา ลูกคือผู้ที่เกี่ยวข้องกับศาสนาและการเมือง
บาบาอธิบายสิ่งต่างๆของทุกศาสนา
ไม่มีใครสามารถอธิบายสิ่งเหล่านั้นให้แก่ลูกได้เช่นนี้
ผู้ก่อตั้งศาสนาทั้งหมดทำอะไร? สาวกของพวกเขาต้องลงมาหลังจากพวกเขา
พวกเขาไม่สามารถให้การหลุดพ้นตลอดไปแก่ใครได้
เมื่อพ่อมาในเวลาสุดท้ายเท่านั้นที่ทุกคนจะถูกทำให้บริสุทธิ์และถูกพากลับบ้าน
เหตุนี้เองจึงไม่มีคำยกย่องใครนอกจากท่าน ไม่มีคำยกย่องของบราห์มาหรือของลูก
ลูกจะทำอะไรได้ถ้าบาบาไม่ได้มา? เวลานี้พ่อได้นำลูกไปสู่สภาพของการขึ้นของลูก
ได้มีการร้องเพลง: เมื่อสภาพของลูกขึ้นไปทุกคนจะได้รับประโยชน์
อย่างไรก็ตามไม่มีใครเข้าใจความหมายของสิ่งนี้
พวกเขาเพียงแค่ร้องเพลงสรรเสริญอย่างมากมาย เวลานี้พ่อได้อธิบายแล้วว่า
เป็นแต่ละดวงวิญญาณที่เป็นอมตะและนี่คือบัลลังก์ของดวงวิญญาณ ดวงวิญญาณไม่สูญสลาย
พวกเขาไม่มีวันตาย ดวงวิญญาณออกจากร่างของเขาและรับอีกร่างหนึ่งเพื่อเล่นบทบาทอื่น
ไม่ใช่ว่าปีศาจแห่งความตายมาและพาเขาไป เมื่อใครบางคนออกจากร่างของเขา
ลูกก็ไม่ควรรู้สึกไม่มีความสุข
ดวงวิญญาณนั้นเพียงแค่ละทิ้งร่างหนึ่งแล้วก็จากไปเพื่อเล่นอีกบทบาทหนึ่ง
จะมีการร้องไห้เกี่ยวกับอะไรหรือ?
เวลานี้ลูกเข้าใจแล้วว่าเราดวงวิญญาณทั้งหมดนั้นคือพี่น้องกันอย่างไร มีการร้องเพลง:
“ดวงวิญญาณอยู่แยกห่างจากดวงวิญญาณสูงสุดเป็นเวลายาวนาน”
พ่อมาเพื่อที่จะพบลูกที่ไหน? พวกเขาไม่รู้แม้กระทั่งสิ่งนี้
เวลานี้ได้มีการอธิบายทุกสิ่งแก่ลูก
ลูกได้ยินสิ่งต่างๆเหล่านี้มาเป็นเวลาที่ยาวนานเช่นนั้น!
ผู้นั้นไม่ได้มีหนังสือใดๆฯลฯ
ท่านเพียงแค่อ้างอิงถึงสิ่งเหล่านั้นเพื่อที่จะอธิบายให้กับลูก พ่อคือสัจจะ
และดังนั้นท่านจึงสร้างสิ่งสร้างที่แท้จริง ท่านบอกสัจจะแก่ลูก
มีชัยชนะผ่านสัจจะและการพ่ายแพ้ผ่ายความหลอกลวง
พ่อที่แท้จริงก่อตั้งดินแดนแห่งสัจจะ ลูกนั้นพ่ายแพ้ราวันมาหลายครั้ง
ทั้งหมดนี้ถูกกำหนดไว้แล้วในละคร
ลูกรู้ว่าเวลานี้อาณาจักรของลูกกำลังถูกก่อตั้งขึ้น และแล้วทั้งหมดนี้ก็จะไม่คงอยู่
ทั้งหมดนี้มาในภายหลัง
เป็นสิ่งที่ง่ายดายมากที่จะเก็บวงจรโลกนี้ไว้ในสติปัญญาของลูก
ลูกๆที่ทำความพยายามจะไม่กลับมามีความสุขเพียงแค่กับข้อเท็จจริงที่ว่าพวกเขาพูดความรู้นี้ได้ดีมาก
พร้อมกับสิ่งนั้นพวกเขาจะมีโยคะและสร้างสมกิริยามารยาทที่ดีด้วย
ลูกต้องกลับมาอ่อนหวานมาก ลูกต้องไม่เป็นเหตุที่ทำให้ใครเป็นทุกข์
อธิบายแก่ผู้อื่นด้วยความรักอย่างมาก มีความปั่นป่วนอย่างมากเนื่องจากความบริสุทธิ์
สิ่งนี้เกิดขึ้นตามละคร เป็นสิ่งที่ถูกกำหนดไว้แล้วในละคร
อย่างไรก็ตามไม่ใช่ว่าลูกจะได้รับบางสิ่งถ้าสิ่งนั้นอยู่ในละคร ไม่เลย,
ลูกยังคงต้องทำความพยายามเพื่อสิ่งนั้น
ลูกต้องสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่งเช่นที่เหล่าเทพมี ลูกต้องไม่กลายเป็นเช่นน้ำเกลือ
ตรวจสอบดูว่าลูกไม่ได้ประพฤติตนไม่ดีและทำให้เกียรติของพ่อเสียหาย
ใครก็ตามที่ประณามสัตกูรูไม่สามารถประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูง
ผู้เดียวนั้นคือพ่อที่แท้จริงและเป็นครูที่แท้จริง
เวลานี้ลูกดวงวิญญาณได้ตระหนักว่าพ่อคือมหาสมุทรแห่งความรู้และมหาสมุทรแห่งความสุข
ท่านให้ความรู้นี้มาก่อนหน้านี้และจากไปอย่างแน่นอน เหตุนี้เองท่านจึงได้รับการจดจำ
ดวงวิญญาณของผู้นี้ไม่เคยมีความรู้นี้มาก่อน
ไม่มีใครรู้ว่าดวงวิญญาณคืออะไรหรือละครคืออะไร มนุษย์ต้องได้รับความรู้นี้
ผู้คนสร้างไฟบูชายัญของรูดร้า และพวกเขากราบไหว้บูชาดวงวิญญาณ
กราบไหว้บูชาดวงวิญญาณดีกว่ากราบไหว้บูชาร่างกายของชีวิตที่สูงส่งหรือไม่?
ร่างกายถูกสร้างขึ้นมาจากวัตถุธาตุทั้งห้า
เหตุนี้เองเพียงการกราบไหว้บูชาชีพบาบาเท่านั้นที่ไม่มีสิ่งใดเจือปน
เวลานี้ลูกต้องรับฟังผู้เดียวนั้นเท่านั้น ดังนั้นจึงมีคำกล่าวว่า:
อย่าได้ยินสิ่งที่เลวร้าย! หยุดรับฟังสิ่งที่เป็นการประณาม ฟังพ่อผู้เดียวเท่านั้น
ความรู้นี้ไม่มีสิ่งใดเจือปน
สิ่งหลักคือเมื่อจิตสำนึกที่เป็นร่างของลูกแตกสลายลูกก็สามารถกลับมาเยือกเย็นและสงบได้
หากลูกอยู่ในการจดจำระลึกถึงพ่อลูกก็จะไม่เคยพูดสิ่งที่ผิด
จะไม่มีสายตาที่เลวร้ายเช่นกัน
ในขณะที่ดูทุกสิ่งก็จะเหมือนราวกับว่าลูกไม่ได้เห็นสิ่งใดเลย
ตาที่สามของความรู้ของเราเปิดแล้วเวลานี้
พ่อมาและทำให้เราเป็นตรีเนตรและตรีกาลดาร์ชิ
เวลานี้ลูกมีความรู้ของรูปกาลเวลาทั้งสามและสามโลก อัจชะ
ถึงลูกๆ
ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก
ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
พร้อมกับการรับฟังความรู้นี้จงอยู่ในโยคะด้วยเช่นกัน สร้างสมกิริยามารยาทที่ดี
กลับมาอ่อนหวานมาก อย่าปล่อยให้ก้อนหินออกมาจากปากของลูก
2. นั่งในสันโดษ
กลับมาสำรวจตรวจสอบตนเอง และพูดกับตนเอง สร้างวิธีที่จะกลับมาบริสุทธิ์
ตื่นแต่เช้าตรู่และจดจำพ่อด้วยความรักอย่างมาก
พร:
ขอให้ลูกกลับมาปราศจากกิเลส(viceless)
และดังนั้นจึงจับทิศทางสุดท้ายได้ด้วยชุดอุปกรณ์ไร้สาย(wireless)ของลูก
ในช่วงเวลาของการทำลายล้าง
เพื่อที่จะจับทิศทางสุดท้ายในช่วงเวลาของการทำลายล้าง
ลูกต้องการสติปัญญาที่ปราศจากกิเลส
เช่นที่ผู้คนเหล่านั้นสื่อสารกันผ่านชุดอุปกรณ์ไร้สาย(wireless set)
ในทำนองเดียวกันที่นี่ลูกก็มีอุปกรณ์ไร้สาย(wireless) ของการปราศจากกิเลส (viceless)
ด้วยระบบไร้สายนี้ลูกจะได้ยินเสียงที่บอกให้ลูกไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยโดยเฉพาะ
ลูกๆที่อยู่ในการจำระลึกถึงพ่อและกลับมาปราศจากกิเลสและลูกผู้ที่มีการฝึกฝนของการปราศจากกิเลสจะไม่ถูกทำลายในช่วงเวลาของการทำลายล้าง
แต่จะทิ้งร่างกายของพวกเขาตามความต้องการของพวกเขาเอง
คติพจน์:
การไม่สนใจโยคะและกลับมายุ่งกับการกระทำคือความไม่ระมัดระวัง
สัญญาณที่ละเอียดอ่อน:
สร้างสมบุคลิกภาพของความสูงส่งและความบริสุทธิ์ทางจิตวิญญาณ
ความสูงส่งของความบริสุทธิ์หมายถึงการเป็นของผู้เดียว
เพื่อที่จะกลับมาบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์ในชีวิตบราห์มินนี้
จงทำให้บทเรียนของการเป็นของผู้เดียวมั่นคงมาก
จงมีความปรารถนาดีและความรู้สึกบริสุทธิ์ในทัศนคติของลูกและในสายตาของลูก
จงมองทุกคนในจิตสำนึกของการเป็นดวงวิญญาณหรือรูปของเทวดานางฟ้าของพวกเขา
ในการกระทำของลูกจงให้ความสุขและรับความสุขกับแต่ละดวงวิญญาณ
หากมีบางคนเป็นเหตุให้ลูกเสียใจหรือดูหมิ่นลูก
และแล้วจงกลายเป็นเทพธิดาหรือเทพแห่งความอดทน