04.05.25 Avyakt Bapdada Thai Murli
20.02.2005 Om Shanti Madhuban
พูดว่า “บาบาของฉัน!”
จากหัวใจของลูก และเป็นนายของสมบัติที่ไม่สูญสลายทั้งหมด
แล้วกลายเป็นจักรพรรดิที่ไร้กังวล
วันนี้ บัพดาดา ผู้ประทานโชค กำลังมองเห็นเส้นโชคตรงกลางหน้าผากของลูกทุกคน
เส้นของดวงดาวที่สูงส่งที่เปล่งประกายนั้นปรากฏให้เห็นบนหน้าผากของลูกทุกคน
บาบากำลังมองเห็นเส้นของความรักและพลังในดวงตาของแต่ละคน
บาบากำลังมองเห็นเส้นของคำพูดที่สูงส่งและอ่อนหวานบนริมฝีปากของลูก
เส้นของรอยยิ้มอันแสนหวานกำลังเปล่งประกายบนริมฝีปากของลูก
บาบากำลังมองเห็นเส้นของการหลอมรวมในความรักของผู้ปลอบประโลมใจในหัวใจของลูก
บาบากำลังมองเห็นเส้นของการเต็มไปด้วยสมบัติที่มีค่าทั้งหมดบนมือของลูก
บาบากำลังมองเห็นเส้นของการหารายได้หลายล้านในทุกย่างก้าวของลูก
ไม่มีใครอีกแล้วตลอดทั้งวงจรที่มีโชคที่สูงส่งเช่นนี้เท่ากับลูกๆที่บรรลุถึงยุคบรรจบกันนี้
ลูกกำลังมีประสบการณ์ว่าโชคของลูกเป็นเช่นนี้หรือไม่?
ลูกมีประสบการณ์กับความซาบซึ้งทางจิตของโชคที่สูงส่งเช่นนี้หรือไม่? ในหัวใจของลูก
เพลงที่เล่นโดยอัตโนมัติคือ: "ว้า โชคของฉัน!"
โชคของยุคบรรจบกันนี้กลายเป็นโชคที่ไม่สูญสลาย เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น?
เพราะลูกได้รับโชคที่ไม่สูญสลายจากพ่อผู้ไม่สูญสลาย อย่างไรก็ตาม
ลูกได้มาซึ่งสิ่งนี้ในยุคบรรจบกันนี้เท่านั้น
มีเพียงยุคบรรจบกันนี้เท่านั้นที่ลูกจะได้สัมผัสกับการบรรลุผลพิเศษของยุคบรรจบกันนี้
ดังนั้นประสบการณ์ของโชคที่สูงส่งเช่นนี้ปรากฏออกมาอยู่เสมอหรือไม่?
หรือบางครั้งมันหลอมรวมและบางครั้งก็ปรากฏออกมา?
ลูกได้พยายามทำอย่างไรบ้างเพื่อสิ่งนี้?
การพยายามสำหรับโชคที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้เป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก
ลูกเพียงแค่ตระหนักรู้ ยอมรับ และทำให้บาบาเป็นของลูกโดยพูดว่า "บาบาของฉัน!"
ลูกตระหนักรู้ในหัวใจของลูกว่า "ฉันเป็นของบาบาและบาบาเป็นของฉัน"
การยอมรับบาบาเป็น "ของฉัน" หมายความว่าเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ทั้งหมด
และลูกมีสิทธิ์มากมายเช่นนั้น ลองคิดดู เมื่อใครบางคนถามลูกว่าลูกได้รับอะไร
ลูกจะตอบว่าอย่างไร? “ฉันได้มาซึ่งสิ่งที่ฉันต้องการแล้ว
ไม่มีสมบัติอันล้ำค่าใดของพระเจ้าที่ไม่ได้รับ”
ลูกเคยมีประสบการณ์กับตนเองว่าเป็นตัวของการบรรลุผลเช่นนั้นหรือไม่
หรือลูกยังคงอยู่ในกระบวนการของการมีประสบการณ์กับสิ่งนั้น?
อนาคตเป็นเรื่องที่แตกต่างออกไป
แต่เพียงในยุคบรรจบกันนี้เท่านั้นที่ลูกจะสัมผัสได้ถึงการเป็นตัวของการบรรลุผล
หากลูกไม่สัมผัสกับสิ่งนี้ในยุคบรรจบกันนี้
ลูกก็จะไม่สามารถสัมผัสสิ่งนี้ได้ในอนาคตเช่นกัน เพราะเหตุใด? อนาคตคือรางวัล
แต่รางวัลนั้นถูกสร้างขึ้นจากการกระทำอันสูงส่งของความพยายามที่ลูกทำในตอนนี้
ไม่ใช่ว่าลูกจะกลายเป็นตัวของประสบการณ์ในเวลาสุดท้าย
ประสบการณ์นี้มาจากช่วงระยะเวลาที่ยาวนานในยุคบรรจบกันนี้
ประสบการณ์พิเศษของการได้รับการหลุดพ้นในชีวิตคือช่วงเวลาปัจจุบัน
ตอนนี้ลูกได้รับประสบการณ์ของการเป็นจักรพรรดิที่ไร้กังวล
แล้วลูกทุกคนเป็นจักรพรรดิที่ไร้กังวลหรือไม่ หรือลูกมีความกังวลใดๆหรือไม่?
ผู้ที่กลายเป็นจักรพรรดิที่ไร้กังวล ยกมือขึ้น
ลูกกลายเป็นเช่นนั้นแล้วหรือลูกกำลังจะกลายเป็นเช่นนั้น? ลูกมีความกังวลอะไรไหม?
ในเมื่อลูกเป็นลูกของผู้ประทาน แล้วมีอะไรที่จะต้องกังวลอีกหรือ?
ลูกกลายเป็นสิ่งนั้นแล้วใช่ไหม? ทันทีที่ลูกยอมรับ "บาบาของฉัน!"
ตะกร้าของภาระมากมายก็ถูกยกออกไป ลูกมีภาระใดๆหรือไม่?
ลูกกำลังมองเห็นเกมของวัตถุธาตุและเกมของมายา อย่างไรก็ตาม
ลูกมองเห็นเกมเหล่านั้นอย่างเป็นจักรพรรดิที่ไร้กังวลและผู้สังเกตการณ์ที่ละวาง
ผู้คนในโลกต่างหวาดกลัวและสงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้น ลูกมีความกลัวนั้นหรือไม่?
ลูกกลัวหรือไม่? ลูกมีศรัทธา (nischay) และมันถูกกำหนด (nischit)
ไว้แล้วว่าอะไรก็ตามที่จะเกิดขึ้นจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะเหตุใด?
ลูกเฝ้าดูทุกฉากอย่างเป็นตรีกาลดาชิ (ผู้ที่รู้รูปกาลเวลาทั้งสาม)
ลูกรู้ดีว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นและพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น
ลูกมีความรู้ที่เต็มเปี่ยมใช่ไหม?
เบื้องหน้าลูกทุกคนมันชัดเจนมากว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากยุคบรรจบกันใช่ไหม?
ยุคใหม่ต้องมาถึง ผู้คนในโลกถามลูกว่า "มันจะมาไหม?"
พวกเขามีคำถามนี้และลูกตอบว่าอย่างไร? "มันใกล้จะมาถึงแล้ว"
ด้วยเหตุนี้ลูกจึงไม่ควรตั้งคำถามว่าอะไรจะเกิดขึ้น
ลูกรู้ว่ายุคทองอันงดงามนั้นต้องมาถึง หลังจากกลางคืน
ตอนนี้คือรุ่งอรุณของยุคบรรจบกัน มันคือเวลาอมฤต และหลังจากเวลาอมฤต
กลางวันก็ต้องมาถึง ผู้ที่มีศรัทธาเช่นนี้จะอยู่อย่างเป็นอิสระจากความกังวล
พวกเขาจะไม่มีความกังวลใดๆ พวกเขาจะอยู่อย่างไร้กังวล
ลูกได้รับความรู้ที่ชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งสร้างนี้จากผู้สร้างโลก
บัพดาดาเห็นว่าลูกๆที่มีความรักและให้ความร่วมมือหรือที่มีการติดต่อกัน
ต่างก็ผูกพันด้วยความรักและได้มาถึงบ้านของตนเองแล้ว
บัพดาดาขอแสดงความยินดีกับลูกๆที่มีความรัก ลูกๆที่ให้ความร่วมมือ
และลูกๆที่มีการติดต่อกัน ที่ได้มาถึงบ้านของลูกเพื่อที่จะประกาศสิทธิของตนเอง
ขอแสดงความยินดี! ขอแสดงความยินดี!
บัพดาดามีความรักต่อลูกๆมากกว่าหรือลูกๆมีความรักต่อบัพดาดามากกว่า?
ความรักของใครมากกว่ากัน? เป็นความรักของลูกหรือของพ่อ? พ่อพูดว่า
ความรักของลูกๆมากกว่า ดูสิ เพราะลูกๆมีความรัก
ลูกจึงมาที่นี่จากสถานที่ที่ห่างไกลเช่นนี้ ลูกๆมาจากกี่ประเทศ? (50 ประเทศ)
ลูกมาจาก 50 ประเทศ แต่ใครมาจากที่ไกลที่สุด? ลูกๆจากอเมริกามาจากที่ไกลไหม?
ลูกมาจากที่ไกลเช่นกัน แต่บัพดาดามาจากพารามดำ
อเมริกาอยู่ตรงไหนเมื่อเทียบกับที่นั่น? อเมริกาอยู่ไกลหรือพารามดำอยู่ไกล?
บัพดาดาเป็นผู้อาศัยในดินแดนที่ห่างไกลที่สุด
ลูกๆทั้งหลายจดจำพ่อและท่านก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าลูก เวลานี้พ่อต้องการอะไรจากลูกๆ?
ลูกถามว่าพ่อต้องการอะไรจากลูก?
บัพดาดาต้องการให้ลูกที่สุดแสนหวานแต่ละคนกลายเป็นราชาที่มีอำนาจในการปกครองตนเอง
ลูกทุกคนเป็นราชาหรือไม่? ลูกมีอำนาจในการปกครองเหนือตนเองหรือไม่?
ลูกที่คิดว่าตนเองกลายเป็นราชาที่มีอำนาจในการปกครองตนเอง ยกมือขึ้น! (หลายคนยกมือขึ้น)
ดีมาก บัพดาดารู้สึกรักลูกๆเมื่อท่านเห็นลูก เพราะลูกทำงานหนักมากเป็นเวลา 63
ชาติเกิดเพื่อไปให้ไกลจากความทุกข์และความไม่สงบ
ดังนั้นเวลานี้พ่อจึงต้องการให้ลูกแต่ละคนกลายเป็นผู้ที่มีอำนาจในการปกครองตนเอง
เป็นนายของตนเอง เป็นนายของจิตใจ สติปัญญา และซันสการ์ของลูก เป็นราชา
ลูกต้องสามารถเปลี่ยนแปลงจิตใจ สติปัญญา
และซันสการ์ของลูกได้เมื่อใดก็ตามที่ลูกต้องการ ที่ไหนก็ตามที่ลูกต้องการ
และอย่างไรก็ตามที่ลูกต้องการ
ให้ประสบการณ์ของชีวิตที่ปราศจากความตึงเครียดปรากฏออกมาอยู่เสมอ
บัพดาดาเห็นว่าบางครั้งสิ่งนี้ก็กลับมาหลอมรวม ลูกคิดว่า "ฉันต้องไม่ทำสิ่งนี้
สิ่งนี้ถูกต้อง สิ่งนั้นไม่ถูกต้อง" อย่างไรก็ตาม ลูกเพียงแค่คิดถึงมัน
แต่ไม่ได้นำไปปฏิบัติ การคิดถึงมันหมายความว่ามันยังคงหลอมรวมอยู่
ในขณะที่การนำไปปฏิบัติหมายความว่ามันยังคงปรากฏออกมา ลูกไม่ได้รอเวลาใช่ไหม?
บางครั้งลูกก็รอเวลา เมื่อลูกได้มีการสนทนาจากใจถึงใจ
ลูกบางคนบอกว่าทุกสิ่งจะดีเองเมื่อถึงเวลา อย่างไรก็ตาม เวลาคือสิ่งสร้างของลูก
ลูกเป็นผู้สร้างที่เป็นนายใช่ไหม?
ดังนั้นผู้สร้างที่เป็นนายจึงไม่สามารถดำเนินไปบนพื้นฐานของสิ่งสร้างได้
ผู้สร้างที่เป็นนายจะต้องทำให้ความสมบูรณ์ของเวลานั้นใกล้เข้ามา
ลูกสามารถกลายเป็นนายของจิตใจของลูกในหนึ่งวินาทีและสั่งจิตใจของลูกได้หรือไม่?
ลูกสามารถทำสิ่งนี้ได้หรือไม่? ลูกสามารถจดจ่อจิตใจของลูกได้หรือไม่?
ลูกสามารถใส่จุดฟูลสต๊อปได้หรือไม่?
หรือว่าลูกพยายามจะใส่จุดฟูลสต๊อปแต่กลับกลายเป็นเครื่องหมายคำถามแทน? "อะไร? ทำไม?
อย่างไร? นี่คืออะไร? นั่นคืออะไร?" ไม่ควรมีแม้กระทั่งเครื่องหมายอัศเจรีย์ด้วยซ้ำ
มันควรเป็นจุดฟูลสต๊อป กลายเป็นจุดในหนึ่งวินาที ไม่มีการทำงานหนักอื่นใด
เพียงแค่นำคำว่า "จุด" คำเดียวไปใช้ในทางปฏิบัติ ลูกแต่ละคนต้องกลายเป็นตัวของจุด
ใส่จุด (ฟูลสต๊อป) ให้กับสิ่งที่ไร้ประโยชน์ทั้งหมด
และไตร่ตรองจุดของคำพูดในเวอร์ชั่นที่สูงส่งที่ลูกได้ยิน ไม่มีความยากลำบากใดๆ
จดจำจุด ใส่จุด และกลายเป็นจุด ไม่ว่าลูกจะยุ่งแค่ไหนตลอดทั้งวัน
พยายามฝึกฝนสิ่งนี้เป็นครั้งคราว: ลูกสามารถกลายเป็นจุดในหนึ่งวินาทีได้หรือไม่?
ลูกสามารถใส่จุดในหนึ่งวินาทีได้หรือไม่?
เมื่อลูกฝึกฝนสิ่งนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเท่านั้น ลูกก็จะสามารถได้รับคะแนนเต็ม
คะแนนเต็มในช่วงเวลาสุดท้ายที่กำลังจะมาถึงและสอบผ่านด้วยเกียรตินิยม
นี่คือการศึกษาของพระเจ้า นี่คือการหล่อเลี้ยงของพระเจ้า
ใครก็ตามที่มา และแม้กระทั่งผู้ที่มาเป็นครั้งแรก
ผู้ที่มาเฉลิมฉลองการพบปะเป็นครั้งแรก ยกมือขึ้น! มีหลายคนที่มา ยินดีต้อนรับ
เช่นที่ลูกมาเป็นครั้งแรก ลูกก็ต้องประกาศสิทธิ์เป็นอันดับแรกด้วยเช่นกัน
ลูกยังมีโอกาส ลูกอาจคิดว่าลูกเพิ่งมาเป็นครั้งแรก
และยังมีอีกหลายคนอยู่ข้างหน้าลูก
แต่ละครนี้ก็ยังรักษาโอกาสไว้ซึ่งผู้ที่มาทีหลังสามารถไปเร็วได้และผู้ที่ไปเร็วก็สามารถมาเป็นอันดับแรกได้
ลูกมีโอกาส และบัพดาดาเรียกผู้ที่ใช้โอกาสนี้ว่าผู้มีโอกาส ดังนั้นจงเป็นผู้มีโอกาส
ลูกอยากเป็นผู้มีโอกาสไหม? ลูกต้องการเป็นไหม? ผู้ที่คิดว่าลูกจะเป็นผู้มีโอกาส
ยกมือขึ้น ลูกจะเป็นผู้ที่มีโอกาสหรือไม่? ว้า! ขอแสดงความยินดี
บัพดาดาเห็นว่าทุกคนที่มาที่นี่กำลังยกมือขึ้น ส่วนใหญ่กำลังยกมือขึ้น
ขอแสดงความยินดี ขอแสดงความยินดี
บัพดาดาจดจำลูกๆที่น่ารักและแสนหวานทุกคนที่มาที่นี่เป็นพิเศษ ทำไมบาบาจึงจดจำลูก?
(วันนี้มีแขก VIP จากดินแดนนี้และจากต่างประเทศมานั่งในชุมนุมเป็นจำนวนมาก)
ทำไมลูกถึงได้รับการเชื้อเชิญ? ลูกรู้ไหม? ดูสิ
มีมากมายหลายคนที่ได้รับการเชื้อเชิญ แต่ลูกที่จะมาก็ได้มาถึงที่นี่แล้ว
ทำไมบัพดาดาถึงจดจำลูก?
เป็นเพราะบัพดาดารู้ว่าลูกทุกคนที่มาล้วนเป็นดวงวิญญาณที่มีคุณภาพที่จะกลายเป็นโยคีที่ง่ายดาย
(สะหัจโยคี) จากการมีความรักและความร่วมมือ (สหะโยคี) หากลูกยังคงมีความกล้าหาญ
ลูกจะกลายเป็นโยคีที่ง่ายดาย
และสามารถกลายเป็นผู้นำสาส์นและให้สาส์นของโยคะที่ง่ายดายแก่ผู้อื่นได้
การให้สาส์นหมายถึงการเป็นผู้นำสาส์นของพระเจ้า
หมายถึงการปลดปล่อยดวงวิญญาณจากความทุกข์และความไม่สงบ อย่างไรก็ตาม
พวกเขาคือพี่น้องชายหญิงของลูกใช่ไหม?
ดังนั้นการให้สาส์นของพระเจ้าแก่พี่น้องชายหญิงของลูกจึงหมายถึงการปลดปล่อยพวกเขา
ลูกได้รับพรมากมายจากสิ่งนี้
ลูกได้รับพรมากมายจากการปลดปล่อยดวงวิญญาณใดๆจากความทุกข์และความไม่สงบ
และเมื่อได้รับพร ลูกจะรู้สึกถึงความสุขที่เหนือประสาทสัมผัสภายในมากมาย
เพราะเหตุใด? เพราะลูกได้แบ่งปันความสุข และด้วยการแบ่งปันความสุข
ความสุขของลูกก็เพิ่มขึ้น ลูกทุกคนมีความสุขหรือไม่?
บัพดาดากำลังถามลูกทุกคนโดยเฉพาะ - ไม่ใช่ในฐานะแขก แต่ในฐานะผู้ที่มีสิทธิ์ -
ว่าลูกทุกคนมีความสุขหรือไม่ อย่าคิดว่าตนเองเป็นแขก ลูกเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ ดังนั้น
ลูกทุกคนมีความสุขหรือไม่? ใช่ บาบากำลังถามลูกทุกคนที่มาที่นี่ (ผู้ที่มาร่วมทรีทแขกนานาชาติ)
ลูกถูกเรียกว่าแขก แต่ลูกไม่ใช่แขก
ลูกเป็นผู้ที่จะกลับมายิ่งใหญ่และทำให้ผู้อื่นยิ่งใหญ่ด้วย ดังนั้น ถามตนเองว่า:
ฉันมีความสุขไหม? หากลูกมีความสุข ก็ให้โบกมือของลูก ตอนนี้ลูกมีความสุข
แล้วลูกจะทำอะไรเมื่อกลับไป? ลูกจะแบ่งปันความสุขนั้นใช่หรือไม่?
แบ่งปันความสุขมากมายกับทุกคน ยิ่งลูกแบ่งปันมากเท่าไหร่
ความสุขก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น โอเค อัจชะ
ลูกจะปรบมือให้มากเท่าที่ต้องการก็ได้ (ทุกคนปรบมือเป็นอย่างมาก)
เช่นเดียวกับที่ลูกปรบมือในตอนนี้
ขอให้มีการปรบมือแห่งความสุขเช่นนี้อยู่เสมอโดยอัตโนมัติเช่นกัน อัจชะ
บัพดาดาจะพูดกับครูอยู่เสมอว่า ครูคือผู้ที่มีคุณลักษณะที่ทำให้มองเห็นอนาคตได้
ลูกเป็นครูเช่นนั้นใช่ไหม? เมื่อผู้คนเห็นลูก
ให้พวกเขามีความรู้สึกถึงความสุขแห่งสวรรค์ ให้พวกเขาได้สัมผัสความสงบ
ลูกควรได้รับการมองเห็นว่าเป็นเทวดานางฟ้าเมื่อลูกเดินและเคลื่อนไหว
ลูกเป็นครูเช่นนั้นใช่ไหม? นี่เป็นสิ่งที่ดี
ไม่ว่าลูกจะอยู่ที่บ้านหรือเป็นเครื่องมือในการทำงานรับใช้
ลูกทุกคนเป็นผู้ที่มีสติปัญญาที่มีศรัทธาและจะกลับมาทัดเทียมกับบัพดาดา
ถึงดวงวิญญาณที่สูงส่งและมีโชคอยู่เสมอ
ไม่ว่าลูกจะนั่งอยู่เบื้องหน้าบาบาในรูปที่มีตัวตน
หรืออยู่ใกล้หัวใจแม้ในขณะที่นั่งอยู่ห่างไกลก็ตาม
ถึงดวงวิญญาณพิเศษที่กลายเป็นเครื่องมือและดำเนินงานของการสร้างใหม่ให้ประสบความสำเร็จอยู่เสมอ
ถึงลูกที่กล้าหาญซึ่งก้าวเดินด้วยความจริงจังและความกระตือรือร้นที่จะกลับมาทัดเทียมกับพ่อ
ถึงดวงวิญญาณที่มั่งคั่งหลายล้านเท่าในโลกซึ่งสะสมรายได้หลายล้านในทุกย่างก้าว
ถึงดวงวิญญาณที่เต็มเปี่ยมอยู่เสมอ รัก ระลึกถึง และนมัสเต จากบัพดาดา
ถึงซิสเตอร์ดับเบิ้ลฟอเรนเนอร์ผู้เป็นเครื่องมืออาวุโส:
ลูกกำลังให้ข้อพิสูจน์ของงานรับใช้ที่ดี โดยผ่านสิ่งนี้ที่เสียงจะแพร่กระจายออกไป
โดยการบอกเล่าประสบการณ์ของลูก ประสบการณ์ของผู้อื่นก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
ดังนั้นบัพดาดาจึงพอใจ
ผู้ที่เป็นเครื่องมือสำหรับการทำงานรับใช้ในต่างประเทศอยู่อย่างไม่ว่างเว้นในการทำงานรับใช้ด้วยความจริงจังและความกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก
ลูกได้ออกจากดินแดนนี้
แต่ลูกกำลังทำงานรับใช้ผู้คนในต่างแดนราวกับว่าลูกมาจากดินแดนนั้น
ลูกทำให้พวกเขารู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง ที่ลูกทุกคนมาจากทุกหนแห่ง
ไม่ใช่แค่จากสถานที่เดียว ลูกไม่ได้มาจากแค่ลอนดอนหรืออเมริกา
ลูกเป็นผู้รับใช้ที่ไม่มีขีดจำกัด ลูกมีความรับผิดชอบต่อโลกใช่ไหม? ดังนั้น
บัพดาดาจึงขอแสดงความยินดีกับลูก ลูกกำลังทำได้ดีมาก เมื่อลูกก้าวหน้า
ลูกจะโบยบินต่อไปได้ดีมากและทำให้ผู้อื่นโบยบินด้วยเช่นกัน อัจชะ
ลูกทุกคนเป็นหงส์ศักดิ์สิทธิ์และมีความสุข งานของหงส์คืออะไร?
หงส์มีพลังในการแยกแยะมาก
ดังนั้นลูกก็เป็นหงส์ศักดิ์สิทธิ์และมีความสุขเช่นกันที่จบสิ้นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ทั้งหมด
และโดยการกลับมามีพลัง ลูกก็จะทำให้ผู้อื่นมีพลังด้วย ลูกทุกคนมีความสุขเสมอหรือไม่?
มีความสุขเสมอตลอดเวลาไหม? ตอนนี้ อย่าปล่อยให้ความทุกข์เข้ามา
ลูกได้หย่าขาดจากความทุกข์แล้ว
เมื่อนั้นลูกก็จะสามารถเยียวยารักษาความทุกข์ของผู้อื่นได้ ดังนั้น
ลูกต้องอยู่อย่างมีความสุขและให้ความสุขกับผู้อื่น ลูกจะทำงานนี้ใช่ไหม?
เก็บความสุขที่ลูกได้รับจากที่นี่ไว้อย่างปลอดภัยภายในตัวลูก
เมื่อใดก็ตามที่เกิดบางสิ่งขึ้น เพียงแค่พูดว่า "บาบา บาบาที่แสนหวาน
โปรดรับความทุกข์นี้ไป" อย่าได้เก็บมันไว้กับลูก
ลูกจะเก็บสิ่งเลวร้ายไว้กับลูกหรือไม่? ความทุกข์เป็นสิ่งที่ไม่ดีใช่หรือไม่?
ดังนั้น จงขจัดความทุกข์นั้นออกไปและอยู่อย่างมีความสุข
ดังนั้นนี่คือกลุ่มที่มีความสุข กลุ่มที่ให้ความสุข
จงให้ความสุขต่อไปในขณะที่เดินและเคลื่อนไหว ลูกจะได้รับพรมากมาย ดังนั้น
กลุ่มนี้จึงมีค่าควรแก่การได้รับพร (ถึงแขกคนหนึ่งซึ่งมีน้ำตา) ลูกมีความสุขใช่ไหม?
ตอนนี้ยิ้มเข้าไว้ เพียงแค่ยิ้มต่อไป ร่ายรำอย่างมีความสุข
พร:
ขอให้ลูกมีสิทธิ์ในอาณาจักรและสัมผัสประสบการณ์กับสภาพที่โบยบินด้วยการมีความสมดุลระหว่างการจดจำระลึกถึงและงานรับใช้
เมื่อลูกมีความสมดุลระหว่างการจดจำระลึกถึงและการทำงานรับใช้
ลูกจะสัมผัสประสบการณ์กับสภาพที่โบยบินในทุกย่างก้าว
เมื่อลูกทำงานรับใช้ในทุกความคิด ลูกจะเป็นอิสระจากสิ่งที่ไร้ประโยชน์ทั้งหมด
ให้งานรับใช้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตลูก (อวัยวะ)
เช่นเดียวกับที่ทุกส่วนของร่างกายของลูกมีความจำเป็น ในทำนองเดียวกัน
งานรับใช้ก็เป็นส่วนพิเศษของชีวิตบราห์มิน การมีโอกาสมากมายในการทำงานรับใช้
การมีสถานที่และมิตรร่วมทางก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงโชคของลูกเช่นกัน
เพียงผู้ที่คว้าโอกาสทองในการทำงานรับใช้เท่านั้นที่จะประกาศสิทธิ์ในอาณาจักรได้
คติพจน์:
รูปของการหล่อเลี้ยงของความรักของพระเจ้าคือชีวิตโยคีที่ง่ายดาย
สัญญาณที่ละเอียดอ่อน:
สร้างสมบุคลิกภาพของความสูงส่งและความบริสุทธิ์ทางจิตวิญญาณ
ความบริสุทธิ์เป็นเครื่องประดับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของลูกบราห์มิน
ความบริสุทธิ์โดยสมบูรณ์เป็นคุณสมบัติ, ความสูงส่ง, และบุคลิกภาพ
ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของลูก ซึมซับสิ่งนี้ไว้และมีความพร้อมอยู่เสมอ
และวัตถุธาตุต่างๆจะเริ่มทำงานของพวกเขา ผู้ที่มีบุคลิกภาพของความบริสุทธิ์
จึงกลายเป็นดวงวิญญาณที่สูงส่งเพียบพร้อมและสมบูรณ์พร้อม
และได้รับการเรียกว่าเป็นเทพเจ้าแห่งมารยาท