07.10.25 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน อยู่ในการจาริกแสวงบุญแห่งการจดจำระลึกถึงด้วยการใช้วิธีการต่างๆ
ลืมโลกเก่านี้ จดจำบ้านที่แสนหวานของลูกและโลกใหม่
คำถาม:
การกระทำใด
นั่นคือความเพียรพยายามใดที่เกิดขึ้นเพียงในเวลานี้เท่านั้นและไม่ใช่ในเวลาอื่นของวงจร?
คำตอบ:
ในทั้งวงจรเป็นเพียงในเวลาของยุคบรรจบพบกันเท่านั้นที่ความเพียรพยายามที่จะอยู่ในการจาริกแสวงบุญแห่งการจดจำระลึกถึงและทำให้ดวงวิญญาณบริสุทธิ์ถูกทำขึ้น
และการกระทำของการทำให้ทั้งโลกบริสุทธิ์เกิดขึ้น การกระทำเหล่านี้ซ้ำรอยทุกๆวงจร
ลูกๆ เข้าใจความลับที่น่ามหัศจรรย์เหล่านี้ของละครที่คงอยู่ตลอดไปและไม่สูญสลาย
โอมชานติ
พ่อทางจิตนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูกๆ ทางจิต
ดังนั้นลูกๆทางจิตต้องนั่งอยู่ในสำนึกเป็นดวงวิญญาณ ในสภาพทางจิตวิญญาณ
และรับฟังท่านด้วยสติปัญญาที่มีศรัทธาของลูก พ่ออธิบายว่า
เป็นดวงวิญญาณเท่านั้นที่รับฟังด้วยอวัยวะของพวกเขา จดจำสิ่งนี้อย่างมั่นคงมาก
ลูกแต่ละคนต้องเก็บวงจรของการหลุดพ้นในชีวิตและความตกต่ำไว้ในสติปัญญาของลูก
ความรู้นี้และความเลื่อมใสศรัทธานั้นรวมอยู่ในสิ่งนี้
เก็บสิ่งนี้ไว้ในสติปัญญาของลูกในขณะที่เดินเหินและเคลื่อนไหวไปทั่วว่าการแสดงของความรู้นี้และความเลื่อมใสศรัทธา
ความสุขและความทุกข์ กลางวันและกลางคืนดำเนินต่อไปอย่างไร
เราเล่นบทบาทของเราเป็นเวลา 84 ชาติเกิด พ่อจดจำทุกสิ่งและดังนั้นท่านจึงดลใจลูกๆ
ให้ทำความเพียรพยายามที่จะอยู่ในการจดจำระลึกถึง
ผ่านสิ่งนี้บาปของลูกก็จะถูกปลดเปลื้องและลูกได้รับอาณาจักร
ลูกรู้ว่าโลกเก่านี้เวลานี้กำลังจะถูกทำลาย
เมื่อบ้านของลูกกลับมาเก่าและลูกรู้ว่าบ้านใหม่กำลังสร้างขึ้น
ลูกมีศรัทธาอยู่ภายในว่าในไม่ช้าลูกจะไปยังบ้านใหม่ของลูก
อย่างไรก็ตามบางครั้งก็ใช้เวลาหนึ่งถึงสองปีที่จะสร้างบ้านใหม่ ยกตัวอย่าง
เมื่อทำเนียบรัฐบาลถูกสร้างขึ้นในนิวเดลี รัฐบาลพูดว่าพวกเขาจะย้ายไปที่นิวเดลี
ลูกๆ เข้าใจว่าทั้งหมดของโลกที่ไม่มีขีดจำกัดนี้นั้นเก่า
เวลานี้ลูกต้องไปยังโลกใหม่นั้น บาบาแสดงวิธีการมากมายแก่ลูก
รักษาสติปัญญาของลูกให้ไม่ว่างเว้นในการจาริกแสวงบุญแห่งการจดจำระลึกถึงด้วยการใช้วิธีเหล่านี้
เวลานี้เราต้องกลับบ้านและเหตุนี้เองเราจึงต้องจดจำบ้านที่แสนหวานที่ซึ่งผู้คนพยายามอย่างหนัก
มีการอธิบายให้แก่ลูกๆที่สุดแสนหวานว่าเวลานี้ดินแดนแห่งความทุกข์นี้กำลังจะถูกทำลาย
แม้ว่าลูกจะอาศัยอยู่ที่นี่ในโลกเก่านี้ ลูกก็ไม่ชอบ
เวลานี้เราต้องไปยังโลกใหม่นั้น แม้ว่าลูกจะไม่มีรูปภาพอยู่เบื้องหน้าลูก
ลูกเข้าใจว่าเวลานี้เป็นตอนสิ้นสุดของโลกเก่า เวลานี้เราจะไปยังโลกใหม่
ในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธามีรูปภาพมากมาย
เมื่อเปรียบเทียบกับรูปภาพเหล่านั้นลูกมีรูปภาพน้อยมาก
รูปภาพของลูกเป็นรูปภาพของหนทางแห่งความรู้นี้
ในขณะที่รูปภาพของพวกเขาเป็นรูปภาพของหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา
ความเลื่อมใสศรัทธาทั้งหมดเกิดขึ้นด้วยรูปภาพ อย่างไรก็ตามรูปภาพของลูกนั้นจริงแท้
ดังนั้นลูกสามารถอธิบายได้ว่าอะไรถูกและอะไรผิด
บาบาถูกเรียกว่าผู้เดียวที่เต็มไปด้วยความรู้ ลูกมีความรู้นี้
ลูกรู้ว่าลูกได้ใช้กี่ชาติเกิดตลอดทั้งวงจร ลูกรู้ว่าวงจรหมุนไปอย่างไร
ลูกต้องอยู่ในการจดจำระลึกถึงพ่ออย่างสม่ำเสมอ
และเก็บความรู้นี้ไว้กับลูกด้วยเช่นกัน
พ่อให้ความรู้ทั้งหมดนี้ของผู้สร้างและสิ่งสร้างแก่ลูก
ดังนั้นลูกจดจำระลึกถึงพ่อด้วยเช่นกัน บาบาได้อธิบายว่า พ่อคือพ่อ ครู
และสัทกูรูของลูก เพียงแต่อธิบายว่าบาบาพูดว่า: ลูกเรียกพ่อว่าผู้ชำระให้บริสุทธิ์
ผู้ปลดปล่อยและผู้นำทาง ผู้นำทางไปสู่ที่ไหน?
ผู้นำทางไปสู่ดินแดนแห่งความสงบและการหลุดพ้น
พ่อพาลูกไปที่นั่นและปล่อยลูกไว้ที่นั่น ท่านสอนลูกๆ ท่านให้การศึกษาแก่ลูก
ท่านทำให้ลูกสวยงามและพาลูกกลับบ้านและปล่อยลูกไว้ที่นั่น
ไม่ว่าใครจะมีความรู้ของวัตถุธาตุและธาตุบราห์มมากแค่ไหน
ก็ไม่มีใครนอกจากพ่อสามารถพาลูกไปที่นั่นได้
พวกเขาคิดว่าพวกเขาจะหลอมรวมกับธาตุบราห์ม
มันอยู่ในสติปัญญาของลูกว่าดินแดนแห่งความสงบคือบ้านของลูก
ก่อนอื่นลูกจะกลับไปที่นั่นและแล้วลูกจะเป็นคนชุดแรกที่เข้ามาสู่โลกใหม่
คนอื่นจะมาทีหลัง ลูกรู้ว่าผู้คนของศาสนาอื่นๆ ทั้งหมดนั้นมาต่างลำดับกันไปอย่างไร
มีอาณาจักรของใครในยุคทองและยุคเงิน? คัมภีร์ศาสนาของพวกเขาคืออะไร?
ผู้คนของสุริยวงศ์และจันทราวงศ์มีเพียงคัมภีร์เดียว อย่างไรก็ตามกีตะนั้นไม่จริงแท้
เพราะความรู้นี้ที่ลูกได้รับเวลานี้จบสิ้นลงที่นี่ ไม่มีคัมภีร์ใดที่นั่น
คัมภีร์ของทุกศาสนาทั้งหมดที่มาหลังจากยุคทองแดงนั้นดำรงอยู่ตลอดเวลา
คัมภีร์เหล่านั้นดำเนินต่อไปนับจากนั้น
ศาสนาเดียวเวลานี้กำลังถูกก่อตั้งและศาสนาอื่นๆทั้งหมดจะถูกทำลาย
ผู้คนเฝ้าแต่พูดถึงอาณาจักรเดียว ศาสนาเดียว ภาษาเดียวและการกำหนดเดียว
สิ่งนั้นเพียงสามารถก่อตั้งได้โดยผู้เดียวเท่านั้น ลูกๆ
มีความรู้ของทุกสิ่งในสติปัญญาของลูกตั้งแต่ยุคทองจนถึงยุคเหล็ก พ่อพูดว่า:
เวลานี้ทำความเพียรพยายามที่จะกลับมาบริสุทธิ์
ลูกใช้เวลาครึ่งวงจรที่กลับมาไม่บริสุทธิ์
อันที่จริงลูกสามารถพูดได้กระทั่งว่าทั้งวงจร
เป็นเพียงเวลานี้เท่านั้นที่ลูกเรียนรู้ที่จะอยู่ในการจาริกแสวงบุญแห่งการจดจำระลึกถึง
การศึกษานี้ไม่ได้มีอยู่ที่นั่น
เหล่าเทพไม่ได้ทำความเพียรพยายามที่จะกลับมาบริสุทธิ์จากไม่บริสุทธิ์
ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยศึกษาราชาโยคะและไปที่นั่นหลังจากกลับมาบริสุทธิ์ที่นี่
นั่นเรียกว่าดินแดนแห่งความสุข
ลูกรู้ว่าเป็นเพียงเวลานี้เท่านั้นในทั้งวงจรที่ลูกทำความเพียรพยายามที่จะอยู่ในการจาริกแสวงบุญแห่งการจดจำระลึกถึง
ลูกรู้ว่าความเพียรพยายามนั่นคือการกระทำของการทำให้โลกที่ไม่บริสุทธิ์บริสุทธิ์นั้นจะซ้ำรอยในวงจรถัดไป
อย่างแน่นอนที่ลูกไปรอบวงจร สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดว่านี่เป็นการแสดงอย่างไร
และดวงวิญญาณทั้งหมดเป็นนักแสดงที่มีบทบาทไม่สูญสลายบันทึกไว้ในพวกเขาอย่างไร
อยู่ในสติปัญญาของลูก มันเป็นเหมือนละคร
แต่ฟิล์มภาพยนตร์เหล่านั้นชำรุดเสียหายเมื่อมันเก่า ภาพยนตร์นี้ไม่สูญสลาย
มันน่าอัศจรรย์เช่นกันว่าบทบาททั้งหมดถูกบันทึกไว้ในดวงวิญญาณที่สุดแสนเล็กเช่นนั้นอย่างไร
พ่ออธิบายสิ่งที่ละเอียดอ่อนและลึกล้ำมากแก่ลูก
เมื่อผู้อื่นได้ยินสิ่งเหล่านี้พวกเขาจะพูดว่ามีการอธิบายสิ่งมหัศจรรย์มากที่นี่
เวลานี้เราเข้าใจว่าดวงวิญญาณคืออะไร ทุกคนเข้าใจเกี่ยวกับร่างกาย
แพทย์สามารถเอาหัวใจของมนุษย์ออกมาและใส่กลับเข้าไปใหม่ได้อีกครั้ง
แต่ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับดวงวิญญาณ
ไม่มีใครรู้แม้กระทั่งว่าดวงวิญญาณกลับมาบริสุทธิ์จากไม่บริสุทธิ์อย่างไร
พวกเขาพูดถึงดวงวิญญาณที่ไม่บริสุทธิ์ ดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์
และดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ ทุกคนร้องเรียกหา: โอ
ผู้ชำระให้บริสุทธิ์ได้โปรดมาและชำระฉันให้บริสุทธิ์ด้วย!
อย่างไรก็ตามดวงวิญญาณจะสามารถกลับมาบริสุทธิ์ได้อย่างไร?
ศัลยแพทย์ที่เป็นนิรันดร์เป็นที่ต้องการสำหรับสิ่งนั้น
ดวงวิญญาณเรียกหาผู้เดียวที่อยู่เหนือการเกิด
เพียงท่านเท่านั้นที่มีการรักษาที่จะทำให้ดวงวิญญาณบริสุทธิ์
ดังนั้นลูกๆควรจะขนลุกด้วยความสุขที่รู้ว่าพระเจ้ากำลังสอนลูก
ท่านจะทำให้ลูกเป็นเทวาและเทวีอย่างแน่นอน
ในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาลักษมีและนารายณ์เรียกว่าเป็นเทวาและเทวี
ราชาและราชินีเป็นเช่นไรปวงประชาก็เป็นเช่นนั้น
ท่านทำให้ลูกบริสุทธิ์เช่นเดียวกับตัวท่านเอง
ท่านทำให้ลูกกลายเป็นมหาสมุทรแห่งความรู้นี้ด้วยเช่นกัน
และแล้วก็ทำให้ลูกยิ่งใหญ่กว่าตัวท่านเอง ท่านทำให้ลูกกลายเป็นนายของโลก
ลูกแต่ละคนต้องเล่นบทบาทที่สมบูรณ์ของการกลับมาบริสุทธิ์และไม่บริสุทธิ์
ลูกรู้ว่าบาบาได้มาอีกครั้งเพื่อก่อตั้งศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไป
เป็นไปกับศาสนานี้ที่มีการกล่าวว่าศาสนาได้หายไป
ได้มีการเปรียบเทียบกับต้นบันยันที่มีกิ่งก้านปรากฏออกมามากมาย แต่ไม่มีลำต้น
ที่นี่เช่นกัน กิ่งก้านของศาสนาต่างๆ มากมายได้ปรากฏออกมา
แต่รากฐานของศาสนาเทพไม่ได้ดำรงอยู่อีกต่อไป มันได้หายไปแล้ว พ่อพูดว่า:
ศาสนานั้นดำรงอยู่ แต่พวกเขาได้เปลี่ยนชื่อของมัน เพราะพวกเขาไม่บริสุทธิ์อีกต่อไป
พวกเขาไม่สามารถเรียกตนเองว่าเทพ
เป็นเพียงเพราะศาสนาเทพไม่ได้คงอยู่อีกต่อไปที่พ่อมาเพื่อสร้างสิ่งสร้าง
ลูกเข้าใจว่าลูกเคยเป็นเทพที่บริสุทธิ์ และเวลานี้ลูกได้กลับมาไม่บริสุทธิ์
เป็นเช่นเดียวกันสำหรับทุกสิ่งลูกๆไม่ควรลืมสิ่งนี้
จุดหมายปลายทางแรกและหลักคือการจดจำพ่อผู้ที่ลูกกลับมาบริสุทธิ์ผ่านท่าน
ทุกคนพูดว่า: โปรดมาและชำระเราให้บริสุทธิ์เถิด
พวกเขาไม่ได้ร้องขอเพื่อถูกทำให้เป็นราชาและราชินี ดังนั้นลูกๆ
ควรมีความซาบซึ้งอย่างใหญ่หลวง ลูกรู้ว่าลูกคือลูกๆ ของพระเจ้า
อย่างแน่นอนที่เราควรได้รับมรดกของเราในเวลานี้
เราได้เล่นบทบาทเหล่านั้นวงจรแล้ววงจรเล่า ต้นไม้เฝ้าแต่เติบโต
บาบาได้อธิบายรูปภาพแก่ลูกและอธิบายว่านี่คือรูปภาพของการหลุดพ้นเพื่อชีวิตใหม่ได้อย่างไร
ลูกสามารถอธิบายด้วยปากเปล่าพร้อมกับรูปภาพได้ ความลับของตอนเริ่ม ตอนกลาง
และตอนจบของโลกอยู่ในรูปภาพเหล่านี้ของลูก
ลูกๆทำงานรับใช้เพื่อที่จะทำให้ผู้อื่นเป็นเช่นเดียวกับตัวลูกเอง
ลูกต้องศึกษาเล่าเรียนและพยายามที่จะสอนผู้อื่นด้วยเช่นกัน ยิ่งลูกศึกษามากเท่าไหร่
ลูกก็จะยิ่งประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูงมากขึ้นเท่านั้น พ่อพูดว่า:
พ่อดลใจลูกให้ทำความเพียรพยายาม แต่มันก็ต้องอยู่ในโชคของลูกด้วย
ลูกแต่ละคนเฝ้าแต่ทำความเพียรพยายามตามละคร
พ่อได้อธิบายความลับของละครแก่ลูกเช่นกัน พ่อคือพ่อและครูด้วยเช่นกัน
พร้อมกับสิ่งนี้ท่านก็เป็นสัทกูรูที่แท้จริงด้วยผู้ที่พาลูกกลับไปกับท่าน
พ่อคือภาพลักษณ์ที่เป็นอมตะ
นี่คือบัลลังก์ของดวงวิญญาณนี้ที่ซึ่งผู้นี้เล่นบทบาทของเขา
พ่อก็ต้องการบัลลังก์เช่นกันเพื่อที่จะเล่นบทบาทของท่านและประทานการหลุดพ้นเพื่อชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลส
พ่อพูดว่า: พ่อต้องเข้ามาในร่างที่ธรรมดา พ่อไม่สามารถมีความโอฬารตระการตาใดๆ
สาวกของกูรูเหล่านั้นมีบัลลังก์ทองคำสำหรับกูรูของพวกเขา
พวกเขาให้มีการสร้างพระราชวังฯลฯ แล้วลูกจะสร้างอะไร?
ลูกคือลูกๆและเป็นนักเรียนด้วยเช่นกัน ดังนั้นลูกจะทำอะไรให้ท่าน?
ลูกจะทำสิ่งนั้นที่ไหน? ผู้นี้นั้นธรรมดา
ได้มีการอธิบายแก่ลูกๆว่าลูกต้องรับใช้หญิงโสเภณีด้วยเช่นกัน
ลูกต้องยกระดับผู้ที่ยากจนเช่นกัน ลูกบางคนกำลังทำความเพียรพยายามที่จะทำสิ่งนี้
พวกเขาแม้กระทั่งเคยไปที่พาราณสี หากลูกยกระดับพวกเขา
ผู้คนจะพูดว่าบีเคกำลังแสดงความมหัศจรรย์
และพูดว่าพวกเขาแม้กระทั่งให้ความรู้นี้แก่หญิงโสเภณี
ลูกต้องอธิบายแก่พวกเธอเช่นกันว่าพวกเธอต้องละทิ้งธุรกิจนั้น
และกลายเป็นนายของวัดของชีวา ศึกษาความรู้นี้แล้วให้ความรู้แก่ผู้อื่น
แล้วหญิงโสเภณีก็จะสามารถให้ความรู้แก่ผู้อื่นได้
เมื่อผู้คนศึกษาความรู้นี้และกลับมาฉลาด
พวกเขาก็สามารถอธิบายสิ่งนี้แก่เจ้าหน้าที่ของพวกเขาได้ด้วยเช่นกัน
เก็บรูปภาพไว้ในห้องโถงและอธิบายรูปภาพเหล่านั้นแก่ผู้อื่น และทุกคนก็จะพูดว่า:
เป็นความมหัศจรรย์ว่าบีเคได้กลายเป็นเครื่องมือทำให้หญิงโสเภณีเป็นผู้อยู่อาศัยของวัดของชีวาได้อย่างไร
ลูกๆ ควรมีความคิดของงานรับใช้เช่นนั้น ลูกมีความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่มาก
ลูกต้องยกระดับผู้ที่มีสติปัญญาเป็นหิน คนหลังค่อม ชาวบ้าน และผู้ที่ไม่มีคุณธรรม
เป็นที่จดจำกันว่าแม้กระทั่งผู้รู้ก็ได้รับการยกระดับ
ลูกเข้าใจว่าผู้รู้จะถูกยกระดับในเวลาสุดท้าย หากพวกเขาจะมาและเป็นของลูกในเวลานี้
หนทางของความเลื่อมใสศรัทธาก็จะสิ้นสุดลง จะมีการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่
ซันยาสซีก็จะออกจากอาศรมของพวกเขาและพูดว่าพวกเขาพ่ายแพ้แล้ว
สิ่งนั้นจะเกิดขึ้นในเวลาสุดท้าย
บาบาเฝ้าแต่ให้การกำหนดแก่ลูกเกี่ยวกับวิธีที่จะทำทุกสิ่ง
บาบาไม่สามารถออกไปที่ใดได้ พ่อจะพูดว่า: ไปและเรียนรู้จากลูกๆ
ท่านเฝ้าแต่ให้วิธีการต่างๆที่จะอธิบายแก่ลูกๆ
ทำงานเช่นนั้นที่ผู้คนจะร้องสรรเสริญลูก
เป็นที่จดจำกันว่าพระเจ้าเติมเต็มชัคตีด้วยลูกศรแห่งความรู้ นี่คือลูกศรแห่งความรู้
ลูกรู้ว่าลูกศรนี้จะพาลูกจากโลกนี้ไปยังโลกอื่นนั้น
ดังนั้นลูกๆต้องมีสติปัญญาที่กว้างไกลและไม่มีขีดจำกัด
หากชื่อของลูกได้รับการประกาศเกียรติคุณแม้กระทั่งในสถานที่เดียว
แล้วรัฐบาลก็จะตระหนักถึงสิ่งนั้น อิทธิพลของลูกจะกระจายออกไปอย่างมากมาย
หากเจ้าหน้าที่ 5 ถึง 7 คนปรากฏออกมาจากสถานที่หนึ่ง
มันก็จะถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ พวกเขาจะพูดว่า:
บีเคได้ทำให้หญิงโสเภณีทิ้งธุรกิจนั้นและทำให้พวกเธอกลายเป็นนายของวัดของชีวา
จะมีการยกย่องลูกอย่างมาก พวกเขาจะนำเงินทั้งหมดของเขามาด้วยเช่นกัน
ลูกจะทำอะไรกับเงินนั้น? ลูกจะเปิดศูนย์ที่ใหญ่ ลูกสามารถใช้เงินนั้นทำรูปภาพ ฯลฯ
แล้วผู้คนก็จะมองเห็นรูปภาพเหล่านั้นและจะประหลาดใจ พวกเขาจะพูดว่า:
ลูกควรจะเป็นคนแรกที่ได้รับรางวัล พวกเขาจะนำรูปภาพของลูกไปที่ทำเนียบรัฐบาล
พวกเขาจะตกหลุมรักรูปภาพเหล่านั้น
ลูกควรจะมีความปรารถนาในหัวใจของลูกที่จะทำให้มนุษย์ธรรมดากลายเป็นเทพ
ลูกรู้ว่าผู้ที่เคยรับความรู้นี้ในวงจรก่อนหน้านี้ก็จะรับความรู้นี้อีกครั้ง
ต้องใช้ความเพียรพยายามอย่างมากที่จะสละละทิ้งทรัพย์สมบัติทั้งหมด ฯลฯ
บาบาได้อธิบายว่า: พ่อไม่ได้จดจำบ้าน เพื่อนฝูง หรือญาติมิตรของพ่อ พ่อจดจำอะไร?
พ่อไม่จดจำใครนอกจากชีพบาบาและลูกๆ พ่อได้แลกเปลี่ยนทุกสิ่ง
สติปัญญาของพ่อจะสามารถไปที่ใดอื่นได้อีกเล่า? พ่อได้ให้พาหนะนี้แก่บาบา
พ่อกำลังศึกษาเช่นเดียวกับที่ลูกศึกษา
เป็นเพียงสิ่งนั้นที่พ่อได้มอบพาหนะนี้ให้บาบายืมใช้
ลูกรู้ว่าเรากำลังทำความเพียรพยายามที่จะไปยังดินแดนสุริยวงศ์เป็นอันดับแรก
นี่คือเรื่องราวของการกลายเป็นนารายณ์จากมนุษย์ธรรมดา
เป็นดวงวิญญาณที่ได้รับดวงตาที่สาม
ฉันดวงวิญญาณนี้กำลังศึกษาความรู้นี้เพื่อที่จะกลายเป็นเทพ
แล้วฉันก็จะกลายเป็นราชาเหนือราชา ชีพบาบาพูดว่า: พ่อกำลังทำให้ลูกมีมงกุฎสองชั้น
เวลานี้สติปัญญาของลูกได้เปิดกว้างอย่างมาก
เช่นเดียวกับที่พวกเขาได้ทำในวงจรที่แล้วตามละคร
เวลานี้ลูกต้องอยู่ในการจาริกแสวงบุญแห่งการจดจำระลึกถึง
ลูกต้องเฝ้าแต่ควงวงจรโลกด้วยเช่นกัน ขจัดโลกเก่านี้ออกจากสติปัญญาของลูก อัจชะ
ถึงลูกๆ
ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก
ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
เก็บไว้ในสติปัญญาของลูกว่าการก่อตั้งใหม่กำลังเกิดขึ้นเพื่อลูก
โลกเก่าแห่งความทุกข์นี้เวลานี้กำลังจะจบสิ้นลง ลูกไม่ควรชอบโลกนี้เลย
2.
บาบาแลกเปลี่ยนทุกสิ่งที่ท่านมี และดังนั้นสติปัญญาของท่านจึงไม่ได้ไปที่ไหน
ดังนั้นทำตามพ่อ
ความปรารถนาเดียวเท่านั้นที่หัวใจของลูกควรมีคือจะรับใช้มนุษย์อย่างไรเพื่อทำให้พวกเขากลายเป็นเทพ
และจะเปลี่ยนโรงค้าประเวณีนี้ให้กลายเป็นวัดของชีวาอย่างไร
พร:
ขณะที่ลูกเฝ้าดูขอให้ลูกเป็นผู้สังเกตการณ์ที่ละวางผู้ที่จบสิ้นรูปที่สูงศักดิ์ใดๆของสำนึกที่เป็นร่าง
การไม่ให้ความเคารพนับถือต่อความคิดเห็นของผู้อื่นหรือพูดแทรกขัดจังหวะ
คือรูปที่สูงศักดิ์ของสำนึกที่เป็นร่าง สิ่งนี้ทำให้ลูกดูถูกตนเองและผู้อื่น
นี่เป็นเพราะผู้ที่พูดแทรกขัดจังหวะคนอื่นมีความหยิ่งยโส
และคนที่ถูกขัดจังหวะก็จะรู้สึกถูกดูถูก ดังนั้น
รักษาพรของการเป็นผู้สังเกตการณ์ที่ละวางไว้ในสำนึกรู้ของลูก
ขณะที่สร้างทุกความคิดและทำทุกการกระทำ ถือโล่ของละครและคงอยู่บนรางของละคร
และจบสิ้นรูปที่สูงศักดิ์นี้ของ“ฉัน” และให้ความนับถือและความรักกับทุกคน
แล้วพวกเขาก็จะร่วมมือกับลูกตลอดเวลา
คติพจน์:
บนพื้นฐานแห่งน้ำของศรีมัทของพระเจ้า ทำให้เมล็ดของการกระทำทรงพลัง
สัญญาณที่ละเอียดอ่อน:
ทำการทดลองกับตัวเองและผู้อื่นด้วยจิตใจของลูกด้วยพลังของโยคะ
ในทุกขณะตัวลูกเองและผู้อื่น
ควรจะมีประสบการณ์ของการมีกระแสจิตที่บริสุทธิ์ของความปรารถนาดีและความรู้สึกที่บริสุทธิ์ต่อทุกดวงวิญญาณโดยอัตโนมัติ
ในทุกขณะขอให้มีพรปรากฏออกมาจากจิตใจของลูกต่อทุกดวงวิญญาณเสมอ
เช่นที่ลูกได้มีประสบการณ์ในการอยู่อย่างไม่ว่างเว้นในการรับใช้ด้วยคำพูด
ดังนั้นจงรักษาจิตใจของลูกให้ไม่ว่างเว้นในการทำงานรับใช้นี้อย่างสม่ำเสมอ
เมื่อลูกไม่ได้รับมอบหมายให้ทำงานรับใช้ใดๆ ลูกก็มีประสบการณ์ว่าตนเองว่างเปล่า
ขอให้งานรับใช้ด้วยจิตใจของลูกเฝ้าแต่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติในวิธีนี้
เช่นเดียวกับงานรับใช้ที่ทำด้วยคำพูด