07.11.25 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน
ยุคแห่งการบรรจบพบกันนี้เป็นเวลาที่เป็นสิริมงคลในการกลับมาสูงส่งที่สุด
เพราะเป็นเวลานี้ที่พ่อสอนวิธีที่จะเปลี่ยนจากมนุษย์ธรรมดาให้กลายเป็นนารายณ์แก่ลูก
คำถาม:
ความรู้อะไรที่ลูกๆมีที่ลูกจะไม่ร้องไห้ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด?
คำตอบ:
ลูกมีความรู้ว่าคือละครนี้ที่ถูกกำหนดไว้แล้ว
ลูกรู้ว่าแต่ละดวงวิญญาณมีบทบาทของตนเองเพื่อเล่นในละครนี้
พ่อกำลังให้มรดกแห่งความสุขแก่เรา ดังนั้นทำไมเราควรจะร้องไห้?
เราได้มีความใส่ใจที่จะพบผู้เป็นหนึ่งเดียวผู้อาศัยอยู่เหนือในธาตุบราห์ม
เวลานี้เราได้พบท่านแล้ว ดังนั้นเราจะต้องการอะไรอื่น? ลูกๆผู้มีโชคไม่เคยร้องไห้
โอมชานติ
พ่อทางจิตกำลังนั่งที่นี่และจะอธิบายบางสิ่งแก่ลูกๆ ในรูปภาพเขียนว่า: ตรีมูรติ
ชีพบาบา อธิบายแก่ลูกๆ เมื่อลูกอธิบายแก่บางคน ลูก ดวงวิญญาณพูดว่า:
ชีพบาบาพูดสิ่งนี้ พ่อนี้ก็พูดด้วยเช่นกันว่า: บาบากำลังอธิบายแก่ลูก
ที่นี่ไม่ใช่มนุษย์กำลังอธิบายแก่มนุษย์
แต่เป็นดวงวิญญาณสูงสุดที่กำลังอธิบายแก่ดวงวิญญาณทั้งหลาย
หรือดวงวิญญาณกำลังอธิบายแก่ดวงวิญญาณ
เพียงชีพบาบาเท่านั้นที่เป็นมหาสมุทรแห่งความรู้และท่านเป็นพ่อทางจิต
เป็นเวลานี้ที่ลูกทางจิตได้รับมรดกของลูกจากพ่อทางจิต
ลูกต้องปล่อยวางความภาคภูมิทางโลกใดๆที่นี่
เวลานี้ลูกต้องกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ
ลูกต้องกระทำและเฝ้าแต่ทำธุรกิจของลูกต่อไป ไม่ว่าเวลาใดที่ลูกเวลา
ให้พิจารณาตัวลูกเองว่าเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ และบาปของลูกจะถูกเผาไป
ลูกรู้ว่าชีพบาบาได้เข้ามาในผู้นี้ ท่านเป็นสัจจะและผู้มีชีวิต
ท่านถูกเรียกว่าสัจจะ ผู้มีชีวิตและเป็นตัวแห่งปีติสุข
สิ่งนี้ไม่สามารถเป็นคำยกย่องของบราห์มา, วิษณุ หรือชางก้า หรือของมนุษย์อื่นใด
พระเจ้า, ผู้สูงสุดเหนือสิ่งใด คือผู้เป็นหนึ่งเดียวเท่านั้น
และท่านเป็นดวงวิญญาณสูงสุด เพียงเวลานี้เท่านั้นที่ลูกได้รับความรู้นี้
ลูกไม่ได้รับความรู้นี้อีกครั้ง พ่อมาทุก 5,000
ปีและทำให้ลูกมีสำนึกเป็นดวงวิญญาณเพื่อที่ลูกจะจดจำท่าน
โดยการทำสิ่งนี้ลูกกลับมาสะโตประธานจากตาโมประธาน ไม่มีวิธีอื่นใด
ถึงแม้ว่ามนุษย์ร้องเรียกหา “โอ ผู้ชำระให้บริสุทธิ์ ได้โปรดมา!”
พวกเขาก็ไม่เข้าใจความหมายของสิ่งนั้น ถึงแม้พวกเขาพูดว่า “ราม
ผู้ชำระให้บริสุทธิ์ของสีดา” นั้นก็ดี ลูกทั้งหมดคือสีดา
นั่นคือลูกคือผู้เลื่อมใสศรัทธา ผู้นั้นคือราม, พระเจ้า
ลูกผู้เลื่อมใสศรัทธาต้องการผลของความเลื่อมใสศรัทธาของลูกจากพระเจ้า
การหลุดพ้นและการหลุดพ้นในชีวิตคือผล
เพียงพ่อผู้เดียวคือผู้ประทานการหลุดพ้นและการหลุดพ้นในชีวิต ในละคร,
มีผู้ที่มีบทบาทสูงสุดและผู้ที่มีบทบาทต่ำสุดด้วยเช่นกัน ละครนี้ไม่มีขีดจำกัด
ไม่มีใครอื่นสามารถเข้าใจสิ่งนี้
เวลานี้จากการอยู่อย่างตาโมประธานและตกต่ำมากที่สุด
ลูกกำลังกลับมาสะโตประธานและเป็นมนุษย์ที่สูงส่งมากที่สุด
ผู้ที่สะโตประธานถูกกล่าวว่าสูงส่งมากที่สุด เวลานี้ลูกไม่ได้สูงส่งมากที่สุด
พ่อกำลังทำให้ลูกสูงส่งมากที่สุด ไม่มีใครรู้ว่าวงจรของละครนี้เฝ้าแต่หมุนไปอย่างไร
มียุคเหล็ก ยุคแห่งการบรรจบพบกันและแล้วยุคทอง ใครทำให้โลกเก่าใหม่?
ไม่มีใครนอกจากพ่อสามารถทำสิ่งนี้ พ่อมาในยุคแห่งการบรรจบพบกันเพื่อสอนลูก
พ่อไม่ได้มาในยุคทองหรือในยุคเหล็ก พ่อพูดว่า:
บทบาทของพ่ออยู่ในยุคแห่งการบรรจบพบกัน
เหตุนี้เองยุคแห่งการบรรจบพบกันจึงถูกเรียกว่ายุคแห่งการให้คุณประโยชน์
นี้คือยุคแห่งความเป็นสิริมงคล
ถูกกล่าวว่าเป็นเวลาที่เป็นสิริมงคลมากที่สุดของยุคแห่งการบรรจบพบกัน
เมื่อพ่อมาและเปลี่ยนลูกๆจากมนุษย์ธรรมดาไปเป็นนารายณ์ มนุษย์คือมนุษย์
แต่พวกเขากลายเป็นผู้ที่มีคุณธรรมที่สูงส่ง
และแล้วพวกเขาถูกกล่าวได้ว่าผู้ที่เป็นของศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไป
พ่อพูดว่า: ฉันกำลังก่อตั้งศาสนานี้
และลูกต้องกลับมาบริสุทธิ์เพื่อสิ่งนี้อย่างแน่นอน
เพียงพ่อผู้เดียวคือผู้ชำระให้บริสุทธิ์ ที่เหลือทั้งหมดเป็นเจ้าสาว,
ผู้เลื่อมใสศรัทธา เป็นการดีที่พูดว่า “ราม ผู้ชำระให้บริสุทธิ์ของสีดา”
อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นพวกเขาพูดว่านั้นเป็นกษัตริย์รามของสกุลนักรบ
ดังนั้นสิ่งนั้นกลับมาผิดไป
ผู้คนเฝ้าพูดว่าไม่ว่าอะไรที่เขาต้องการโดยไม่มีความเข้าใจ
พวกเขาเฝ้าแต่พร่ำสวดสิ่งนี้
ลูกรู้ว่าศาสนาของจันทราวงศ์กำลังได้รับการก่อตั้งเวลานี้ด้วย
พ่อมาและก่อตั้งศาสนาสกุลบราห์มิน สิ่งนี้ไม่ได้ถูกเรียกว่าราชวงศ์ นี่เป็นครอบครัว
ไม่มีอาณาจักรของพันดาวาสหรือฆราวาสที่นี่
ผู้ที่ได้ศึกษากีตะจะสามารถเข้าใจสิ่งเหล่านี้อย่างรวดเร็วมาก นี้คือกีตะด้วย
ใครกำลังพูดสิ่งนี้? พระเจ้า! ก่อนอื่นใดลูกๆต้องอธิบายว่าใครคือพระเจ้าของกีตะ
พวกเขาพูดว่า: “พระเจ้าศรีกฤษณะพูด” อย่างไรก็ตามศรีกฤษณะคงอยู่ในยุคทอง
ดวงวิญญาณที่อยู่ในเขาไม่สูญสลาย ชื่อของร่างกายเปลี่ยนไป
ชื่อของดวงวิญญาณไม่เคยเปลี่ยน
ร่างกายของดวงวิญญาณศรีกฤษณะเพียงคงอยู่ในรูปนั้นในยุคทอง
เขาประกาศสิทธิ์ในอันดับหนึ่ง มีลักษมีและนารายณ์ที่หนึ่ง ที่สอง ที่สาม
ดังนั้นคะแนนของพวกเขาจะต้องน้อยลงมากเท่านั้น สร้อยประคำถูกสร้างขึ้น
พ่อได้อธิบายว่ามีสร้อยประคำของรุนด้าและสร้อยประคำของรูดร้า
พวกเขาแสดงสร้อยประคำของรุนด้ารอบคอวิษณุ
ลูกๆกลายเป็นนายของดินแดนของวิษณุต่างลำดับกันไป
เป็นราวกับว่าลูกได้กลายเป็นพวงมาลัยรอบคอของวิษณุ
ก่อนอื่นใดลูกกลายเป็นพวงมาลัยรอบคอชีวา นั้นถูกเรียกว่าสร้อยประคำของรูดร้า
ซึ่งผู้คนหมุน สร้อยประคำไม่เคยได้รับการกราบไหว้บูชา
มีการหมุนลูกปัดของสร้อยประคำในการจดจำระลึกถึง
ผู้ที่เข้าไปสู่อาณาจักรของดินแดนของวิษณุกลายเป็นลูกปัดของสร้อยประคำต่างลำดับกันไป
ในสร้อยประคำมีพู่(ดอกไม้) เป็นอันดับแรก และแล้วจึงเป็นลูกปัดคู่
นั้นแสดงถึงหนทางครอบครัว หนทางครอบครัวเริ่มต้นด้วยบราห์มา, สรัสวตีและลูกๆ
ผู้ซึ่งจะกลายเป็นเทพ ลักษมีและนารายณ์เป็นที่หนึ่ง เหนือเขาทั้งสองคือพู่(ดอกไม้)
ชีพบาบา หลังจากผู้คนได้หมุนลูกปัดของสร้อยประคำ พวกเขาคารวะพู่ (ดอกไม้)
ชีพบาบาคือพู่ (ดอกไม้) ท่านไม่ได้ใช้ชาติเกิด ท่านเข้ามาในผู้นี้ ท่านอธิบายแก่ลูก
ดวงวิญญาณของผู้นี้เป็นของเขาเอง
ผู้นี้ดำเนินชีวิตไปด้วยการหาเลี้ยงชีพของร่างกายของเขา
ในขณะที่หน้าที่ของผู้เดียวนั้นคือการให้ความรู้นี้แก่ลูก
เมื่อภรรยาหรือพ่อของบางคนตาย
ดวงวิญญาณนั้นถูกปลุกเรียกให้เข้ามาในร่างของพระบราห์มิน
ในสมัยก่อนดวงวิญญาณนั้นจะมา
อย่างไรก็ตามดวงวิญญาณนั้นจะไม่ละทิ้งร่างกายของเขาและมา
สิ่งนี้ถูกกำหนดไว้ในละครล่วงหน้า ทั้งหมดนั้นคือหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา
ดวงวิญญาณนั้นได้ไปและรับอีกร่างหนึ่ง เวลานี้ลูกๆกำลังได้รับความรู้ทั้งหมดนี้
ดังนั้นเมื่อบางคนตายลูกไม่ต้องวิตกกังวลเกี่ยวกับสิ่งใด ถึงแม้ว่าแม่ของลูกตาย
ลูกก็รับประทานฮาลวา ลูกสาว (ชานต้าเบน) ได้ไปอธิบายแก่พวกเขาและถามพวกเขาว่า: “เหตุใดท่านจึงร้องไห้?
ดวงวิญญาณนั้นได้ไปและรับอีกร่างหนึ่ง
ดวงวิญญาณนั้นจะไม่กลับมาด้วยการร้องไห้ของท่าน” ผู้ที่มีโชคจะไม่ร้องไห้
เธอได้ทำให้ทุกคนหยุดร้องไห้และเริ่มอธิบายแก่พวกเขา
ลูกสาวมากมายไปและอธิบายในวิธีนี้ “เวลานี้จงหยุดร้อง!
อย่าได้เลี้ยงอาหารบราห์มินปลอม ฉันจะนำบราห์มินที่แท้จริงมาที่นี่”
และแล้วเมื่อพวกเขารับฟังความรู้นี้
พวกเขาก็เข้าใจว่าสิ่งที่เธอกำลังพูดนั้นถูกต้อง
โดยการรับฟังความรู้นี้พวกเขาก็กลับมามีความสงบ แม้ว่าเมื่อผู้คนอ่านภควัดเป็นเวลา
7 วัน ความทุกข์ของพวกเขาก็ไม่ถูกขจัดออกไป
อย่างไรก็ตามลูกสาวสามารถขจัดความทุกข์ของทุกคนได้
ลูกเข้าใจว่าไม่มีความจำเป็นใดเลยที่ต้องร้องไห้ ละครนี้ถูกกำหนดไว้แล้ว
แต่ละคนมีบทบาทของตนเองที่จะเล่น ลูกไม่ควรร้องไห้เลยไม่ว่าในสถานการณ์ใด
ลูกได้พบพ่อ ครูและกูรูที่ไม่มีขีดจำกัดแล้ว ผู้ซึ่งลูกได้แสวงหามาตลอด
เวลานี้ลูกได้พบพ่อสูงสุด, ดวงวิญญาณสูงสุด ผู้ซึ่งอาศัยอยู่เหนือธาตุบราห์ม
ดังนั้นอะไรอื่นเล่าที่ลูกต้องการ? พ่อเท่านั้นที่ให้มรดกแห่งความสุข
เมื่อลูกลืมพ่อ ลูกก็จบลงด้วยการร้องไห้ ถ้าลูกจดจำพ่อ ลูกจะมีประสบการณ์ของความสุข
โอ้โห! เรากำลังกลายเป็นนายของโลก! และแล้วเราจะไม่ร้องไห้เป็นเวลา 21 ชั่วอายุ 21
ชั่วอายุหมายถึงจนกระทั่งถึงวัยชราในแต่ละชาติเกิด
นี้หมายถึงจะไม่มีการตายก่อนเวลาอันควรเลย
ดังนั้นลูกควรมีความสุขที่แฝงตัวอย่างมากภายในลูก
ลูกรู้ว่าลูกจะมีชัยชนะเหนือมายาและกลายเป็นผู้มีชัยชนะเหนือโลก
ไม่มีเรื่องของอาวุธใดเลยฯลฯ ลูกคือชีพชัคตี
ลูกมีดาบของความรู้และลูกธนูของความรู้นี้
ผู้คนในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาได้มีการวาดภาพเทวีที่มีคันธนูและลูกศรฯลฯ
พ่อพูดว่า: ลูกต้องเอาชนะกิเลสด้วยดาบของความรู้นี้
เหล่าเทวีไม่สามารถก้าวร้าวรุนแรงได้ ทั้งหมดนั้นเป็นหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา
นักบวชนักบุญฯลฯ เป็นของหนทางแยกตัว พวกเขาไม่เชื่อในหนทางครอบครัวใดๆ
ลูกสละละทิ้งทั้งหมดของโลกเก่าและร่างกายเก่า เวลานี้ถ้าลูกดวงวิญญาณจดจำพ่อ
ลูกจะกลับมาบริสุทธิ์ ลูกจะนำเอาสันสการ์ของความรู้นี้ไปกับลูก
และแล้วใช้ชาติเกิดในโลกใหม่ตามสันสการ์เหล่านั้น ถ้าลูกใช้ชาติเกิดที่นี่
และแล้วสันสการ์ของลูกจะนำลูกไปสู่บ้านที่ดี, บ้านราชาหรือบ้านที่ฝักใฝ่ในศาสนา
ลูกจะเป็นที่รักของทุกคน พวกเขาจะพูดว่าลูกคือเทวี
ผู้คนร้องเพลงสรรเสริญศรีกฤษณะอย่างมาก
พวกเขาพูดว่ากฤษณะขโมยเนยและทำหม้อดินดินเผาแตกในวันเยาว์ของเขาและได้ทำสิ่งนี้สิ่งนั้น
พวกเขากล่าวโทษกฤษณะในหลายๆสิ่ง อัจชะ
เหตุใดพวกเขาจึงแสดงศรีกฤษณะเป็นสีน้ำเงินคล้ำ? กฤษณะจะสวยงามมากที่นั่น
ร่างกายเฝ้าแต่เปลี่ยนไปและชื่อก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน
ศรีกฤษณะเป็นเจ้าชายองค์แรกของยุคทอง และเหตุใดพวกเขาจึงทำให้กฤษณะเป็นสีน้ำเงิน?
ไม่มีใครบอกลูกได้ งู ฯลฯ ไม่ได้คงอยู่ที่นั่นที่จะทำให้ใครก็ตามเป็นสีน้ำเงิน
ที่นี่เมื่อบางคนได้รับยาพิษ เขาจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน
สิ่งต่างๆเช่นนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นที่นั่นได้
เวลานี้ลูกกำลังกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของชุมนุมเทพ
ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับชุมนุมบราห์มินนี้
ก่อนอื่นใดพ่อนำลูกบราห์มินมาเลี้ยงดูผ่านบราห์มา เนื่องจากประชาบิดาคงอยู่
จะมีผู้คนของเขามากมายด้วยเช่นกัน มีการพูดว่าสรัสวตีคือลูกสาวของบราห์มา
ท่านไม่ได้เป็นภรรยาของบราห์มา ไม่มีใครรู้สิ่งนี้
สิ่งสร้างของประชาบิดาบราห์มาเกิดจากปากเท่านั้น ไม่มีเรื่องของภรรยา
พ่อเข้ามาในเขาและพูดว่า: ลูกคือลูกๆของฉัน ฉันได้ให้ชื่อผู้นี้ว่า “บราห์มา”
ชื่อของผู้ที่ได้กลายเป็นลูกๆของท่านทั้งหมดถูกเปลี่ยนไป
เวลานี้ลูกๆกำลังเอาชัยชนะมายา นี่ถูกเรียกว่าละครของชัยชนะและการพ่ายแพ้
พ่อสามารถทำให้ลูกทำการต่อรองที่ดีเช่นนั้น! ถึงกระนั้น
มายาทำให้ลูกพ่ายแพ้และทำให้ลูกวิ่งหนีไป กิเลสทั้งห้าของมายาทำให้ลูกพ่ายแพ้
ผู้ที่มีกิเลสทั้งห้าถูกกล่าวว่าเป็นส่วนหนึ่งของชุมนุมปีศาจร้าย
ผู้คนไปเบื้องหน้ารูปปั้นของเทวีทั้งหลายในวัดต่างๆและร้องเพลงสรรเสริญพวกเขาว่า: “ท่านเต็มเปี่ยมไปด้วยทุกคุณธรรม…”
พ่ออธิบายแก่ลูกว่า: ลูกเคยเป็นเทพที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา
และแล้วลูกได้กลายเป็นผู้กราบไหว้บูชาเป็นเวลา 63 ชาติเกิด
เวลานี้ลูกกำลังกลับมามีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาอีกครั้งหนึ่ง
พ่อทำให้ลูกมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา ในขณะที่ราวันทำให้ลูกไปเป็นผู้กราบไหว้บูชา
สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ถูกกล่าวไว้ในคัมภีร์ พ่อไม่ได้ศึกษาคัมภีร์ใดๆ
ท่านเป็นมหาสมุทรแห่งความรู้ ท่านเป็นผู้ทรงอำนาจโลก
ทรงอำนาจหมายถึงผู้เดียวที่มีพลังทั้งหมด พ่อพูดว่า:
พ่อรู้พระเวทย์และคัมภีร์ทั้งหมด
ทั้งหมดนั้นคือเครื่องประกอบของหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา
พ่อรู้สิ่งเหล่านั้นทั้งหมด ลูกกลายเป็นผู้กราบไหว้บูชาในยุคทองแดง
ในยุคทองและยุคเงินไม่มีการกราบไหว้บูชาใดเลย
นั้นคือราชวงศ์ของผู้ที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา
และแล้วมีราชวงศ์ของผู้กราบไหว้บูชา เวลานี้ทั้งหมดเป็นผู้กราบไหว้บูชา
ไม่มีใครรู้สิ่งเหล่านี้ พ่อมาและบอกลูกถึงเรื่องราวของ 84 ชาติเกิด
การเล่นบทของการมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาและการเป็นผู้กราบไหว้บูชาขึ้นอยู่กับลูก
ผู้คนพูดถึงศาสนาฮินดู แท้จริงแล้วเคยมีศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไปในบารัต
ไม่ใช่ศาสนาฮินดู ดังนั้นต้องอธิบายสิ่งต่างๆมากมาย การศึกษานี้ใช้เวลาเพียง 1
วินาที แม้กระนั้นการศึกษานี้ก็ได้ใช้เวลาที่ยาวนาน มีการกล่าวว่า: “แม้ท่านเปลี่ยนมหาสมุทรไปเป็นน้ำหมึกและเปลี่ยนป่าไปเป็นปากกา
นั้นก็ไม่สามารถมีที่สิ้นสุดของความรู้นี้ได้”
พ่อจะเฝ้าแต่ถ่ายทอดความรู้นี้แก่ลูกจนกระทั่งเวลาสุดท้าย
ลูกจะทำตีพิมพ์หนังสือนี้ได้มากมายเพียงใด?
ในสมัยก่อนบาบาเคยตื่นแต่เช้าตรู่และเขียน และแล้วมาม่าจะอ่านสิ่งนั้น
จากเวลานั้นสิ่งนั้นได้ถูกพิมพ์ขึ้น กระดาษได้ถูกใช้ไปอย่างมาก กีตะเล็กมาก
พวกเขาแม้กระทั่งทำล็อคเก็ตของกีตะ กีตะมีผลกระทบอย่างมาก
แต่พวกเขาได้ลืมพระเจ้าของกีตะ, ผู้ประทานความรู้ไปแล้ว อัจชะ
ถึงลูกๆ
ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก
ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
จงเอาชนะกิเลสด้วยดาบของความรู้นี้ เติมเต็มตนเองด้วยสันสการ์ของความรู้นี้
สละละทิ้งโลกเก่าและร่างเก่าของลูก
2.
คงความสุขของการอยู่อย่างมีโชค อย่าได้วิตกกังวลเกี่ยวกับสิ่งใด
อย่าหลั่งน้ำตาของความทุกข์แม้เมื่อบางคนจากร่างกายของเขาไป
พร:
ขอให้ลูกสอบผ่านข้อสอบในหนึ่งวินาทีด้วยพลังในการควบคุมของลูกและสอบผ่านด้วยเกียรตินิยม
เข้ามาในร่างกายของลูกชั่วขณะหนึ่งและกลับมาละวางจากร่างกายของลูกในช่วงขณะต่อมาและมั่นคงอยู่ในสภาพอะแวค
มากเท่าที่มีความโกลาหล จงให้สภาพของลูกมีความสงบอย่างเท่าๆกัน
สำหรับสิ่งนี้ลูกต้องใช้พลังในการเก็บแต่สิ่งที่ให้ประโยชน์
ในหนึ่งวินาทีไปจากการขยายตัวมาสู่สาระ และในหนึ่งวินาทีจากสาระไปสู่การขยายตัว
เพียงผู้ที่มีพลังในการควบคุมเช่นนั้นเท่านั้นที่สามารถควบคุมโลกได้
เป็นการฝึกฝนนี้ที่จะทำให้ลูกสามารถสอบผ่านด้วยเกียรตินิยมในข้อสอบสุดท้ายของหนึ่งวินาที
คติพจน์:
มีประสบการณ์และให้ประสบการณ์ของสภาพที่ปลดเกษียณแก่ผู้อื่นและเกมในวัยเด็กทั้งหมดจะจบสิ้นลง
สัญญาณที่ละเอียดอ่อน:
เพิ่มการฝึกฝนสภาพปราศจากร่าง(ashariri and videhi)
กลายเป็นอรชุน (ผู้ริเริ่ม)
ในการกลับมาปราศจากร่าง
คุณสมบัติพิเศษของอรชุนคือการเป็นตัวของรูปจุดและกลายเป็นผู้ได้รับชัยชนะ
ผู้ที่เป็นผู้ทำลายความความผูกพันยึดมั่นและเป็นตัวแห่งการจดจำระลึกถึงคืออรชุน
อรชุนคือผู้ที่ฟังความรู้นี้ของกีตะและไตร่ตรองสิ่งนั้นอย่างสม่ำเสมอ
ทุกคนต้องกลับมาปราศจากร่างในลักษณะนี้และตายในขณะมีชีวิตอยู่
ผู้ที่มีทัศนคติของการวางเฉยอย่างไม่มีขีดจำกัดเช่นนี้คืออรชุน