08.08.25 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน รักษาความสุขไว้อย่างสม่ำเสมอว่าลูกได้จบสิ้นวงจรของ 84
ชาติเกิดแล้ว และเวลานี้ลูกกำลังจะกลับบ้าน
ความทุกข์ทรมานของกรรมเวลานี้จะยังคงอยู่อีกเพียงไม่กี่วันเท่านั้น
คำถาม:
ลูกๆที่กลับมาเอาชนะการกระทำที่เป็นบาปให้ความใส่ใจอย่างมากกับประเด็นใดเพื่อที่จะอยู่อย่างปลอดภัยจากการกระทำที่เป็นบาป?
คำตอบ:
ให้ความใส่ใจว่าลูกไม่มีทางกลับมามีสำนึกที่เป็นร่าง
สำนึกที่เป็นร่างคือรากเหง้าของการกระทำที่เป็นบาปทั้งหมด ดังนั้น
จงกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ลูกได้รับผลของกรรมทั้งดีและไม่ดีอย่างแน่นอน
ในเวลาสุดท้ายจิตสำนึกของลูกจะกัดกร่อนลูก
ดังนั้นเพื่อที่จะทำให้ภาระของบาปในชาติเกิดนี้ของลูกเบาบางลง
จงบอกทุกสิ่งกับพ่ออย่างซื่อสัตย์มาก
โอมชานติ
จุดหมายปลายทางที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือจุดหมายของการจดจำระลึกถึง
หลายคนใส่ใจต่อการรับฟังความรู้นี้เท่านั้น
เป็นสิ่งที่ง่ายมากที่จะเข้าใจความรู้นี้ ลูกเพียงแค่ต้องเข้าใจวงจรของ 84
ชาติเกิดและกลายเป็นผู้ควงกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเอง
ไม่มีสิ่งใดมากไปกว่าสิ่งนั้น ลูกๆ
เข้าใจว่าลูกทั้งหมดคือผู้ควงกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเอง
ไม่ใช่ว่าลูกนั้นจะตัดคอของบางคนด้วยกงจักรอย่างที่พวกเขาได้แสดงให้เห็นว่าศรีกฤษณะทำ
ลักษมีและนารายณ์คือรูปคู่ของวิษณุ พวกเขามีกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเองหรือ?
ดังนั้นเหตุใดพวกเขาจึงได้แสดงศรีกฤษณะพร้อมกับกงจักร?
มีวารสารที่มีภาพเช่นนั้นของศรีกฤษณะอยู่มากมาย พ่อมาเพื่อสอนราชาโยคะแก่ลูก
ท่านไม่ได้ตัดคอปีศาจด้วยกงจักร ปีศาจคือคนที่มีธรรมชาติที่ชั่วร้าย
แต่ไม่เช่นนั้นมนุษย์ก็เป็นมนุษย์
ไม่ใช่ว่าท่านจะฆ่าทุกคนด้วยกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเอง มองดูที่ภาพต่างๆ
ทั้งหมดที่พวกเขาได้สร้างขึ้นในหนทางความเลื่อมใสศรัทธา
มีความแตกต่างของกลางวันและกลางคืน ลูกๆ ต้องรู้จักทั้งวงจรและละครที่สมบูรณ์
เพราะว่าทุกคนคือนักแสดง นักแสดงที่มีขีดจำกัดเหล่านั้นรู้จักละครของเขา
ละครนี้ไม่มีขีดจำกัด สิ่งนี้ไม่สามารถถูกทำให้เข้าใจในรายละเอียดได้
ละครเหล่านั้นคงอยู่เป็นเวลาสองชั่วโมง
รายละเอียดของบทบาทของแต่ละคนนั้นเป็นที่รู้จัก ที่นี่เป็นเรื่องของการรู้ 84
ชาติเกิด พ่ออธิบายแล้วว่า: พ่อเข้ามาในพาหนะของบราห์มา ต้องมีเรื่องราวของ 84
ชาติเกิดของบราห์มาด้วยเช่นกัน สิ่งต่างๆ
เหล่านี้ไม่สามารถเข้าไปสู่สติปัญญาของมนุษย์ พวกเขาไม่เข้าใจแม้กระทั่งว่ามี 8.4
ล้านชาติเกิดหรือ 84 ชาติเกิด พ่อพูดว่า: พ่อบอกเรื่องราวของ 84
ชาติเกิดของลูกแก่ลูก หากจะเป็น 8.4 ล้านชาติเกิด ก็จะใช้เวลาหลายปีที่จะบอก
ลูกรู้ทุกสิ่งภายในหนึ่งวินาที นี่คือเรื่องราวของ 84 ชาติเกิด
เราได้วนไปรอบวงจรของ 84 ชาติเกิดอย่างไร? หากจะเป็น 8.4
ล้านชาติเกิดก็จะเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าใจสิ่งเหล่านั้นในหนึ่งวินาที ไม่ได้มี 8.4
ล้านชาติเกิด ลูกๆควรมีความสุขที่ลูกที่ตอนนี้ลูกได้จบสิ้นวงจรของ 84 ชาติเกิดแล้ว
และเวลานี้ลูกกำลังจะกลับบ้าน
ความทุกข์ทรมานของกรรมหลงเหลืออยู่อีกเพียงไม่กี่วันเท่านั้น
ได้มีการแสดงให้ลูกเห็นวิธีการที่จะเผาบาปของลูก
และวิธีที่ลูกจะไปถึงสภาพที่อยู่เหนือบ่วงกรรมของลูก พ่ออธิบาย:
เขียนบาปทั้งหมดที่ลูกได้เคยทำมาในชาติเกิดนี้ให้แก่บาบาและภาระของลูกก็จะเบาลง
ไม่มีลูกคนใดสามารถเขียนถึงบาปของหลายต่อหลายชาติเกิดของลูกได้
การกระทำที่เป็นบาปยังคงมีการทำกันต่อไป ตั้งแต่อาณาจักรของราวันได้เริ่มขึ้น
การกระทำก็ได้กลายเป็นบาป ในยุคทองการกระทำเป็นกลาง พระเจ้าพูด:
พ่ออธิบายแก่ลูกถึงปรัชญาของกรรม กรรมที่ไม่ดีและกรรมที่เป็นกลาง
ยุคของผู้เอาชนะบาปเริ่มต้นด้วยลักษมีและนารายณ์
สิ่งนี้ชัดเจนอย่างมากในภาพของบันได ประเด็นเหล่านี้ไม่ได้กล่าวไว้ในคัมภีร์ ลูกๆ
เข้าใจถึงความลับของอาณาจักรสุริยวงศ์และจันทราวงศ์ และลูกคือผู้เดียวกันอย่างไร
พวกเขาได้ทำภาพมากมายของสัญลักษณ์ที่มีรูปที่หลากหลายแต่พวกเขาไม่เข้าใจความหมายของสิ่งนั้น
ไม่มีใครนอกจากพ่อสามารถอธิบายสิ่งนั้นได้
จะต้องมีบางคนที่อยู่เหนือบราห์มาขึ้นไปที่มาสอนเขาใช่ไหม? หากกูรูได้สอนเขา
แล้วก็จะไม่ได้มีเพียงสาวกเดียว พ่อพูดว่า: ลูกต้องกลับมาไม่บริสุทธิ์จากบริสุทธิ์
และบริสุทธิ์จากไม่บริสุทธิ์ สิ่งนี้ก็ถูกกำหนดไว้แล้วในละครด้วย
ลูกวนไปรอบวงจรนี้หลายต่อหลายครั้ง ลูกก็จะยังคงผ่านวงจรนี้ต่อไป
ลูกคือนักแสดงที่รอบด้าน ไม่มีใครอื่นเล่นบทบาทตั้งแต่ตอนเริ่มต้นถึงตอนสิ้นสุด
พ่ออธิบายสิ่งนี้แก่ลูกเท่านั้น
ลูกก็รู้ด้วยเช่นกันว่าผู้คนของศาสนาอื่นๆมาในเวลานั้นๆ
ในขณะที่ลูกนั้นมีบทบาทรอบด้าน ลูกจะไม่พูดว่าชาวคริสต์เตียนมีชีวิตอยู่ในยุคทอง
พวกเขามาในช่วงกลางของยุคทองแดง
ความรู้นี้อยู่ในสติปัญญาของลูกๆเท่านั้นและลูกก็สามารถที่จะอธิบายความรู้นี้แก่ใครก็ตาม
ไม่มีใครอื่นรู้ถึงตอนเริ่ม ตอนกลางและตอนจบของโลก พวกเขาไม่รู้จักผู้สร้าง
ดังนั้นพวกเขาจะสามารถรู้เกี่ยวกับสิ่งสร้างได้อย่างไร
บาบาได้บอกลูกให้พิมพ์สิ่งที่มีศีลธรรมจรรยาเหล่านี้และโปรยสิ่งพิมพ์นี้ในทุกๆที่จากเครื่องบิน
นั่งและเขียนเกี่ยวกับประเด็นและหัวข้อเหล่านี้
ลูกบางคนก็พูดว่าพวกเขาไม่มีงานรับใช้ที่จะทำ บาบาพูดว่า: มีงานรับใช้มากมายที่จะทำ
ลูกสามารถนั่งในสันโดษที่นี่และทำงานนี้ได้
ลูกต้องปลุกองค์กรใหญ่ๆทั้งหมดและกีตะพาทชาลาฯลฯ ลูกต้องให้สาสน์แก่ทุกคนว่า:
นี่คือยุคบรรจบพบกันที่สูงส่งที่สุด ผู้ที่รู้คิดจะเข้าใจได้อย่างเร็วมาก
การก่อตั้งโลกใหม่และการทำลายล้างโลกเก่านั้นต้องเกิดขึ้นในยุคบรรจบพบกันอย่างแน่นอน
ในยุคทองมนุษย์สูงส่ง ที่นี่มนุษย์ไม่บริสุทธิ์และมีธรรมชาติที่ชั่วร้ายเช่นปีศาจ
บาบาได้อธิบายด้วยเช่นกันว่าผู้คนมากมายไปอาบน้ำที่กุมภาเมล่า
ทำไมพวกเขาถึงไปอาบที่นั่น? เพราะพวกเขาต้องการที่จะกลับมาบริสุทธิ์
ไปที่ใดก็ตามที่ผู้คนไปอาบน้ำและทำงานรับใช้ที่นั่น
อธิบายให้กับผู้คนว่าน้ำไม่ใช่ผู้ชำระให้บริสุทธิ์ ลูกมีภาพด้วยเช่นกัน
ไปที่กีตะพาทชาลาและแจกแผ่นพับเหล่านี้ ลูกๆบางคนก็ร้องของานรับใช้ที่จะทำ
นั่งและเขียนว่าพระเจ้าแห่งกีตะคือพ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด ชีวาและไม่ใช่ศรีกฤษณะ
เขียนคำยกย่องชีวประวัติของท่านและเขียนชีวประวัติของชีพบาบาด้วยเช่นกัน
และแล้วพวกเขาก็สามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง
เขียนประเด็นลงไปด้วยเช่นกันว่าผู้ชำระให้บริสุทธิ์คือใคร
และแล้วแสดงความแตกต่างระหว่างชีวาและชังการ์
บาบาได้อธิบายด้วยเช่นกันว่าชีวาแยกจากชังการ์อย่างไร วงจรมี 5,000 ปี มนุษย์ใช้ 84
ชาติเกิด ไม่ใช่ 8.4 ล้านชาติเกิด เขียนประเด็นหลักเหล่านี้สั้นๆ
เพื่อที่จะสามารถโปรยแผ่นพับลงมาจากเครื่องบินได้และลูกก็จะสามารถอธิบายด้วยแผ่นพับเหล่านั้นด้วยเช่นกัน
เป็นสิ่งที่ชัดเจนในภาพของวงจรที่ศาสนานั้นๆ ได้มีการก่อตั้งขึ้นในเวลานั้นๆ
ลูกควรจะมีภาพของวงจรนี้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นลูกสามารถพิมพ์ปฏิทินที่มีรูปภาพ 12
ภาพหลักซึ่งสามารถให้ความรู้ทั้งหมดนี้ได้และแล้วงานรับใช้ก็จะสามารถเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย
ภาพเหล่านี้มีความสำคัญอย่างแท้จริง นั่งและเขียนว่าลูกต้องสร้างภาพอะไร
และลูกต้องเขียนประเด็นอะไรลงไปในภาพเหล่านั้น
ลูกกำลังเปลี่ยนโลกเก่านี้ในวิธีที่แฝงตัว ลูกคือนักรบนิรนาม ไม่มีใครรู้จักลูก
บาบาแฝงตัวและความรู้นี้ก็แฝงตัว ไม่มีการสร้างคัมภีร์ใดๆ จากสิ่งนั้น
ผู้ก่อตั้งศาสนาอื่นๆ มีการพิมพ์คัมภีร์ไบเบิลของพวกเขาฯลฯ
ซึ่งผู้คนก็ยังคงอ่านกันต่อไป แต่ละคนก็มีการตีพิมพ์คัมภีร์ของเขาเอง
ของลูกได้มีการตีพิมพ์ในหนทางความเลื่อมใสศรัทธา
ไม่ได้มีการตีพิมพ์ในปัจจุบันเพราะคัมภีร์ทั้งหมดฯลฯ เวลานี้กำลังจะถูกทำลาย
ปัจจุบันลูกเพียงต้องมีการจดจำระลึกถึงในสติปัญญาของลูก
พ่อมีความรู้นี้ในสติปัญญาของพ่อด้วยเช่นกัน พ่อไม่ได้ศึกษาคัมภีร์ฯลฯ
พ่อเต็มไปด้วยความรู้ ผู้คนคิดว่า “ผู้ที่เต็มไปด้วยความรู้”
หมายถึงผู้ที่ล่วงรู้สิ่งที่อยู่ในหัวใจของแต่ละคน
ที่พระเจ้าเห็นทุกสิ่งและเหตุนี้เองท่านจึงให้ผลของการกระทำที่ลูกทำ พ่อพูดว่า:
สิ่งนี้ถูกกำหนดไว้แล้วในละครเช่นกัน ไม่ว่าลูกจะทำบาปอะไรก็ตามในละคร,ก็ยังคงมีการลงโทษสำหรับสิ่งนั้นต่อไป
ลูกต้องได้รับผลตอบแทนของกรรมดีและไม่ดีอย่างแน่นอน
ไม่มีอะไรเขียนไว้เป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับเรื่องนี้
มนุษย์เข้าใจว่าพวกเขาได้รับผลของการกระทำในชาติเกิดถัดไปอย่างแน่นอน
ในช่วงวาระสุดท้ายของพวกเขาจิตสำนึกของพวกเขาก็จะกัดกร่อนพวกเขาอย่างมากสำหรับบาปต่างๆที่พวกเขาได้ทำลงไป
พวกเขาจดจำทุกสิ่ง การกระทำของลูกเป็นเช่นไรชาติเกิดที่ลูกได้รับก็เป็นเช่นนั้น
เวลานี้ลูกกำลังจะกลายเป็นผู้เอาชนะบาป ดังนั้นจึงไม่ควรกระทำบาปใดๆ เช่นนั้น
กิเลสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการมีสำนึกที่เป็นร่าง
บาบาบอกลูกซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้กลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ
ลูกต้องอยู่อย่างบริสุทธิ์ บาปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการใช้ดาบของตัณหาราคะ
เป็นสิ่งนี้เองที่สร้างความทุกข์ตั้งแต่ตอนเริ่มต้นจนถึงตอนกลางและตอนจบ
เหตุนี้เองซันยาสซีจึงกล่าวว่าความสุขเป็นเหมือนมูลกา
ไม่มีการกล่าวถึงความทุกข์ที่นั่น ที่นี่มีแต่ความทุกข์และความทุกข์เท่านั้น
เหตุนี้เองซันยาสซีจึงมีการวางเฉย อย่างไรก็ตามพวกเขาเข้าไปในป่า
การวางเฉยของพวกเขามีขีดจำกัด ในขณะที่การวางเฉยของลูกไม่มีขีดจำกัด
นี่คือโลกที่สกปรก
ทุกคนพูดว่าบาบาได้โปรดมาและขจัดความทุกข์ของเราและประทานความสุขให้แก่เรา
เพียงพ่อเท่านั้นคือผู้ขจัดความทุกข์และเป็นผู้ประทานความสุข
มีเพียงลูกๆเท่านั้นที่เข้าใจว่ามีอาณาจักรของเหล่าเทพในโลกใหม่
ไม่มีรูปแบบใดของความทุกข์ที่นั่น เมื่อบางคนออกจากร่างของเขา
ถึงแม้ว่าผู้คนจะบอกว่าเขาได้กลายเป็นผู้อาศัยในสวรรค์
พวกเขาก็ไม่เชื่อว่าตนเองนั้นอยู่ในนรกหรือว่าพวกเขาสามารถไปสวรรค์ได้เมื่อพวกเขาตาย
คนที่ตายไปแล้วจะไปสวรรค์หรือจะกลับมาที่นี่ในนรก? พวกเขาไม่เข้าใจอะไรเลย
ลูกๆสามารถอธิบายความลับของทั้งสามพ่อให้แก่ทุกคน ทุกคนสามารถเข้าใจเกี่ยวกับสองพ่อ:
พ่อทางโลกและเหนือโลก
พ่อที่สามคือประชาบิดาบราห์มาพ่อทางจิตที่มีอยู่ในยุคบรรจบพบกัน
บราห์มินเป็นที่ต้องการด้วยเช่นกัน
พราหมณ์เหล่านั้นไม่ใช่สิ่งสร้างที่เกิดขึ้นมาจากปากของบราห์มา
ผู้คนเข้าใจว่าบราห์มามีอยู่จริงซึ่งเป็นเหตุให้พวกเขากล่าวว่า “ขอคารวะต่อบราห์มินผู้ที่จะกลายเป็นเทพ”
ผู้คนไม่รู้ว่าพวกเขาพูดถึงใครและพวกเขาหมายถึงบราห์มินไหน
ลูกคือบราห์มินที่เป็นของยุคบรรจบพบกันที่สูงส่งที่สุด พวกเขาเป็นของยุคเหล็ก
นี่คือยุคบรรจบพบกันที่สูงส่งที่สุด เมื่อลูกเปลี่ยนจากมนุษย์ธรรมดาไปเป็นเทพ
เวลานี้ศาสนาเทพกำลังมีการก่อตั้ง ลูกๆ
ต้องซึมซับประเด็นเหล่านี้ทั้งหมดและแล้วก็ทำงานรับใช้
ในช่วงเวลาของกราบไหว้บูชาและการให้อาหารแก่จิตวิญญาณที่จากไป
พวกเขาจะเชิญนักบวชพราหมณ์ ลูกสามารถพูดคุยกับพวกเขาและบอกพวกเขาว่า: “เราสามารถทำให้ท่านไปเป็นบราห์มินที่แท้จริงได้”
ตอนนี้เป็นเดือนพิเศษของการให้อาหารจิตวิญญาณที่จากไปแล้ว
ต้องมีการทำสิ่งนี้อย่างมีไหวพริบ
ไม่เช่นนั้นจะมีการกล่าวว่าหลังจากที่ผู้คนไปที่บราห์มากุมารีพวกเขาก็หยุดที่จะทำทุกสิ่ง
ลูกต้องไม่ทำสิ่งใดที่ทำให้ใครไม่พอใจ
ลูกสามารถให้ความรู้นี้อย่างมีไหวพริบที่ดีแก่พวกเขา
บราห์มินเหล่านั้นจะมาอย่างแน่นอน
และแล้วเมื่อนั้นลูกก็จะสามารถให้ความรู้นี้แก่พวกเขาได้
ลูกสามารถทำงานรับใช้พราหมณ์ทางโลกได้มากมายในเดือนนี้ บอกพวกเขาว่า: “คุณคือพราหมณ์ลูกๆ
ของประชาบิดาบราห์มา บอกเราซิว่าใครเป็นผู้ก่อตั้งศาสนาพราหมณ์”
ลูกสามารถให้ประโยชน์กับพวกเขาขณะที่นั่งอยู่ที่บ้าน
ผู้คนที่ไปจาริกแสวงบุญที่อัมนาถจะไม่สามารถเข้าใจได้มากนักจากสิ่งที่มีการเขียนไว้
นั่งที่นั่นและอธิบายให้กับพวกเขา: เราจะบอกท่านถึงเรื่องราวที่แท้จริงของอัมนาถ
มีเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่ถูกเรียกว่าอัมนาถ
อัมนาถหมายถึงผู้ที่ก่อตั้งดินแดนแห่งความเป็นอมตะ แผ่นดินนั้นคือยุคทอง
ให้รับใช้พวกเขาในวิธีนี้ ลูกต้องเดินเท้าไปที่นั่น
ไปที่นั่นและอธิบายให้กับคนที่ดีและมีชื่อเสียง
ลูกยังสามารถให้ความรู้นี้แก่ซันยาสซีด้วยเช่นกัน
ลูกคือผู้ให้คุณประโยชน์ต่อทั้งโลก
สติปัญญาของลูกควรมีความซาบซึ้งที่ลูกกำลังนำคุณประโยชน์มาให้กับทั้งโลกด้วยการทำตามศรีมัท
อัจชะ
ถึงลูกๆ
ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก
ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
เมื่อลูกมีเวลา ให้นั่งในสันโดษและไตร่ตรองประเด็นที่ดีของความรู้นี้
และแล้วก็เขียนเกี่ยวประเด็นเหล่านั้น
คิดหาวิธีที่จะให้สาสน์แก่ทุกคนและจะให้ทุกคนได้รับคุณประโยชน์ย่างไร
2.
เพื่อที่จะอยู่อย่างปลอดภัยจากการกระทำที่เป็นบาป
จงมีจิตสำนึกเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ ลูกต้องไม่ทำกรรมที่เป็นบาปอีกต่อไป
บอกบัพดาดาเกี่ยวกับบาปที่ลูกได้ทำไปในชาตินี้อย่างซื่อสัตย์
พร:
ขอให้ลูกมีพลังอย่างสม่ำเสมอและทำให้งานที่สูงส่งในทางปฏิบัติในขณะที่รู้ว่าโชคชะตาถูกกำหนดไว้แล้ว
แม้ว่าโลกใหม่ที่สูงส่งถูกกำหนดไว้แล้ว
ลูกๆที่ได้รับพรจากการเป็นผู้ที่มีพลังที่จะกลายเป็นเครื่องมือในการดำเนินงานบนพื้นฐานของปรัชญาแห่งกรรมและผลของกรรม
ความพยายามและรางวัลของความพยายาม
และการรู้ว่าพวกเขาเป็นเครื่องมือและการมีความถ่อมตน
ผู้คนในโลกไม่สามารถมองเห็นความหวังใดๆ
ในขณะที่ลูกพูดว่างานนี้มีการดำเนินมาหลายต่อหลายครั้งและมันก็ประสบความสำเร็จแม้กระทั่งในเวลานี้
นี่เป็นเพราะเบื้องหน้าของข้อพิสูจน์ในทางปฏิบัติของการเปลี่ยนแปลงตนเองไม่จำเป็นต้องมีข้อพิสูจน์ประเภทอื่นใด
พร้อมกันกับสิ่งนั้นงานของพระเจ้าก็ประสบความสำเร็จอยู่เสมอ
คติพจน์:
เป้าหมายที่สูงส่งของการพูดน้อยและทำมากจะทำให้ลูกยิ่งใหญ่
สัญญาณที่ละเอียดอ่อน:
เพื่อที่จะเป็นโยคีที่ง่ายดาย จงมีประสบการณ์ในความรักของพระเจ้า
เพื่อได้รับความสำเร็จในงานรับใช้ที่ลูกทำและเพื่อสภาพที่สูงขึ้นของการมีความรักที่ไม่ขาดตอนต่อพ่อผู้เดียวของลูก
อย่าให้สิ่งใดปรากฏชัดเจนนอกจากพ่อผู้เดียว เมื่อลูกมีบาบาอยู่ในความคิดของลูก
บาบาอยู่ในคำพูดของลูก และเป็นมิตรร่วมทางของพ่อในการกระทำของลูก
เมื่อลูกมีสภาพของการถูกหลอมอยู่ในความรักและพูดแม้เพียงคำพูดเดียวเช่นนั้น
คำพูดของความรักนั้นก็จะมัดดวงวิญญาณอื่นๆ ไว้ในความรักด้วยเช่นกัน แม้เพียงคำว่า "บาบา"
เพียงคำพูดเดียวที่พูดโดยดวงวิญญาณที่ถูกหลอมอยู่ในความรักก็จะทำงานเหมือนกับมนตราที่มหัศจรรย์