09.06.25 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน ลูกๆเป็นผู้ช่วยของพ่อผู้ก่อตั้งอาณาจักรแห่งความสงบทั่วทั้งโลก
เวลานี้โลกแห่งความสงบและความสุขอยู่เบื้องหน้าลูก
คำถาม:
เหตุใดพ่อถึงมาสอนลูกๆ? สาระของการศึกษานี้คืออะไร?
คำตอบ:
พ่อสอนลูกๆเพื่อที่จะทำให้ลูกกลายเป็นเจ้าชายแห่งสวรรค์ เป็นนายของโลก พ่อพูดว่า:
ลูกๆ สาระของการศึกษานี้คือ: สละละทิ้งทุกสิ่งของโลก
อย่าคิดว่าลูกมีเป็นล้านหรือเป็นแสนๆ ลูกจะไม่สามารถยึดสิ่งใดได้เลย
ดังนั้นทำความเพียรพยายามเป็นอย่างดีและใส่ใจต่อการศึกษานี้
เพลง:
ในที่สุดวันที่เรารอคอยก็มาถึง!
โอมชานติ
ลูกๆได้ยินเพลงนี้แล้ว: ในที่สุดเวลาก็มาถึงที่จะมีความสงบในโลกนี้
ทุกคนถามว่าจะมีความสงบในโลกนี้ได้อย่างไร
ผู้ที่ให้คำแนะนำที่ดีสำหรับสิ่งนี้จะได้รับรางวัล เนห์รูได้ให้คำแนะนำไว้ด้วย
แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จในการสร้างความสงบ เขาเพียงแค่ให้คำอธิบายไว้แล้วก็จากไป
สิ่งนั้นอยู่ในสติปัญญาของลูกๆว่ามีความสงบ,ความสุขและเจริญรุ่งเรืองฯลฯในทั้งโลกในช่วงเวลาหนึ่ง
สิ่งนั้นไม่ได้คงอยู่อีกต่อไปแล้ว มันจะกลับมาอีกครั้ง วงจรต้องหมุนไป
สิ่งนี้อยู่ในสติปัญญาของลูกบราห์มินของยุคบรรจบพบกัน
ลูกรู้ว่าบารัตจะกลายเป็นทองอีกครั้ง บารัตถูกเรียกว่า “นกกระจอกทอง”
แม้ว่าผู้คนจะร้องเพลงสรรเสริญก็เป็นเพียงแค่เพื่อผลประโยชน์
เวลานี้ลูกกำลังทำความเพียรพยายามในทางปฏิบัติสำหรับสิ่งนี้
เวลานี้ลูกรู้ว่าเพียงอีกไม่กี่วันเท่านั้นที่หลงเหลืออยู่
ดังนั้นลูกจึงสามารถลืมสิ่งที่มีความทุกข์ทั้งหมดของนรก
สติปัญญาของลูกรู้ว่าโลกแห่งความสุขอยู่เบื้องหน้าลูก
ก่อนหน้านี้การเดินทางมาจากต่างประเทศต้องใช้เวลานาน
ลูกเข้าใจว่าเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้นก่อนที่ลูกจะไปถึงจุดหมายปลายทางของลูก
เวลานี้ลูกสามารถไปถึงจุดหมายปลายทางของลูกได้อย่างรวดเร็วมากด้วยเครื่องบิน
เวลานี้อยู่ในสติปัญญาของลูกๆว่าวันแห่งความสุขของลูกจะกลับมาอีกครั้ง
ลูกกำลังเพียรพยายามเพื่อสิ่งนี้
บาบาได้แสดงให้ลูกเห็นวิธีที่จะทำความเพียรพยายามอย่างง่ายดายมาก
ตามละครสิ่งนี้แน่นอนเหมือนวงจรที่ผ่านมา ลูกเป็นเทพ
เวลานี้มีการสร้างวัดสำหรับเทพมากมาย ลูกๆรู้ว่าพวกเขาจะทำสิ่งใดหลังจากสร้างวัดฯลฯ
เวลานี้เหลือเวลาอีกกี่วัน? ลูกๆคือผู้มีอำนาจของความรู้นี้ ได้มีการกล่าวว่า:
พ่อสูงสุด, ดวงวิญญาณสูงสุดคือผู้ทรงพลังอำนาจ
ลูกคือผู้มีอำนาจของความรู้นี้และพวกเขาคือผู้มีอำนาจของความเลื่อมใสศรัทธา
พ่อถูกเรียกว่านายผู้ทรงอำนาจ
ลูกๆกลายเป็นสิ่งนี้ตามลำดับกันไปตามความพยายามที่ลูกทำ
ลูกมีความรู้ของตอนเริ่มตอนกลางและตอนจบของโลก
ลูกรู้ว่าลูกกำลังทำความพยายามที่จะประกาศสิทธิ์ในมรดกของลูกจากพ่อ
ผู้ที่เป็นผู้มีอำนาจของความเลื่อมใสศรัทธาเพียงพูดถึงความเลื่อมใสศรัทธากับทุกคนเท่านั้น
ลูกคือผู้มีอำนาจของความรู้นี้ ดังนั้นลูกพูดถึงความรู้นี้เท่านั้น
ไม่มีความเลื่อมใสศรัทธาในยุคทอง ที่นั่นไม่มีผู้กราบไหว้บูชาแม้เพียงคนเดียว
ทุกคนที่นั่นมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา
ครึ่งแรกของวงจรลูกมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาและอีกครึ่งหนึ่งของวงจรลูกเป็นผู้กราบไหว้บูชา
สิ่งนี้อ้างถึงผู้คนของบารัตเท่านั้น
เมื่อพวกเขามีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาบารัตก็เป็นสวรรค์
ผู้คนของบารัตกลายเป็นผู้กราบไหว้บูชาและเวลานี้บารัตกลายเป็นนรก
เวลานี้ลูกกำลังสร้างชีวิตของลูกในทางปฏิบัติ
ลูกยังคงเฝ้าแต่อธิบายแก่ทุกคนตามลำดับกันไปตามความพยายามของตนเอง
จำนวนของลูกเติบโตขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้ถูกกำหนดไว้แล้วล่วงหน้าในละคร
ละครนี้ดลใจลูกให้ทำความพยายามและลูกจะทำสิ่งนี้ต่อไป
ลูกรู้ว่าลูกมีบทบาทที่ไม่สูญสลายที่จะเล่นในละครนี้
ใครบ้างในโลกที่จะรู้เกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้? เรามีบทบาทนี้ในละครนี้
ผู้ที่พูดเกี่ยวกับสิ่งนี้เข้าใจว่าเรามีบทบาทในละครนี้อย่างไร
วงจรโลกนี้ยังคงหมุนต่อไป ไม่มีใครนอกจากลูกที่รู้ประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ของโลก
ไม่มีใครในโลกที่รู้ว่าใครเป็นผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใด ฤๅษีและมุนีฯลฯ เคยพูดว่า:
เราไม่รู้ พวกเขาจะพูดว่า: เนติ เนติ (ไม่ใช่สิ่งนี้และสิ่งนั้น ….)
เวลานี้ลูกๆรู้ว่าพ่อคือผู้สร้าง และเวลานี้ท่านกำลังสอนเรา
บาบาได้บอกลูกซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า: เมื่อลูกนั่งที่นี่
นั่งในสภาพของจิตสำนึกเป็นดวงวิญญาณ
เพียงพ่อผู้เดียวเท่านั้นที่สอนราชาโยคะแก่ลูกและอธิบายประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ของโลกแก่ลูก
พ่อพูดว่า: พ่อไม่ใช่ผู้อ่านความคิด โลกนี้ใหญ่มาก
ทำไมพ่อต้องอ่านอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้? พ่อเองพูดว่า:
พ่อมาเพื่อที่จะชำระลูกให้บริสุทธิ์ตามสิ่งที่กำหนดไว้ในละคร
พ่อมาเพื่อที่จะเล่นบทบาทที่พ่อมีในละคร แต่พ่อไม่ได้อ่านความคิดของใคร
พ่อบอกลูกว่าพ่อเล่นบทบาทใดและลูกเล่นบทบาทใด ลูกศึกษาความรู้นี้และสอนผู้อื่น
บทบาทของพ่อคือการชำระผู้ที่ไม่บริสุทธิ์ให้บริสุทธิ์
เพียงลูกๆเท่านั้นที่รู้สิ่งนี้ ลูกรู้วันและเวลาฯลฯ ไม่มีใครอื่นในโลกรู้สิ่งนี้
พ่อกำลังสอนลูก และแล้วเมื่อวงจรถัดไปมาถึงจุดจบ บาบาก็จะกลับมาอีกครั้ง
ไม่ว่าจะเล่นฉากใดก็ตามเวลานี้ก็จะซ้ำรอยหลังจากหนึ่งวงจร
หนึ่งวินาทีไม่สามารถเหมือนกันกับในวินาทีถัดไป ละครนี้ยังคงหมุนต่อไป
เวลานี้ลูกๆรู้เกี่ยวกับการละเล่นที่ไม่มีขีดจำกัดนี้
ทั้งๆที่เป็นเช่นนั้นลูกก็ลืมซ้ำแล้วซ้ำเล่า บาบาพูดว่า:
เพียงแค่จดจำว่าบาบาคือพ่อของลูก ท่านคือครูและกูรูของลูกด้วยเช่นกัน
สติปัญญาของลูกควรจะไปในทิศทางนั้น
ลูกดวงวิญญาณกลับมามีความสุขเมื่อได้ยินคำยกย่องของพ่อ ทุกคนพูดว่า:
บาบาของเราคือพ่อและครูของเราและท่านไม่ได้เป็นอะไรนอกจากสัจจะ
การศึกษานี้จริงแท้และสมบูรณ์ด้วยเช่นกัน การศึกษาของผู้อื่นนั้นไม่สมบูรณ์
ลูกๆควรมีความสุขมากมายในสติปัญญาของลูก
ผู้ที่สอบผ่านการสอบในระดับสูงจะมีความสุขอย่างมากในสติปัญญาของพวกเขา
ลูกกำลังศึกษาคำสอนที่สูงส่งเช่นนั้น
ดังนั้นหัวของลูกควรจะระเบิดด้วยความสุขที่ลูกได้สัมผัส พระเจ้า, บาบา,
พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดกำลังสอนเรา! ลูกควรจะขนลุก
บทเดียวกันของกีตะกำลังซ้ำรอยเวลานี้ ไม่มีใครนอกจากลูกที่รู้สิ่งนี้
พวกเขาได้ยืดระยะเวลาของวงจรให้ยาวออกไป เรื่องราวทั้งหมดของ 5000
ปียังคงหมุนวนต่อไปในสติปัญญาของลูก
สิ่งนี้ถูกเรียกว่ากงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเอง ลูกบางคนพูดว่า: บาบา
มีพายุมากมายมาและดังนั้นฉันจึงลืมท่าน บาบาถามว่า: ลูกลืมใคร?
ลูกจะลืมพ่อผู้ที่กำลังทำให้ลูกกลายเป็นนายของโลกที่มีมงกุฎสองชั้นได้อย่างไร?
ลูกจะไม่ลืมคนอื่น ลูกจดจำทุกคน, ภรรยา, ลูกๆ, ลุงป้าน้าอา,เพื่อนฝูงและญาติมิตรฯลฯของลูก
ดังนั้นลูกจะลืมประเด็นนี้ได้อย่างไร? การต่อสู้รบราของลูกอยู่ในการจดจำสิ่งนี้
อยู่ในการจดจำระลึกถึงให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อที่จะทำความก้าวหน้า,
ลูกๆควรจะตื่นแต่เช้าตรู่และออกไปเดินในการจดจำระลึกถึงบาบา
ลูกสามารถไปที่ดาดฟ้าหรือออกไปข้างนอกในสายลมเย็น
ไม่จำเป็นที่จะต้องมาและนั่งที่นี่ ลูกสามารถไปข้างนอก ไม่มีเรื่องของความกลัวฯลฯ
ในตอนเช้าตรู่ ลูกสามารถออกไปเดินของนอก
พูดคุยกันเองในบรรดาลูกๆว่าใครจดจำบาบามากที่สุด
และแล้วแบ่งปันกับผู้อื่นว่าลูกได้จดจำบาบามากแค่ไหนและสติปัญญาของลูกไปที่ไหนสำหรับเวลาที่เหลือ
สิ่งนี้ถูกเรียกว่าการสร้างความก้าวหน้าซึ่งกันและกัน
จดบันทึกลงไปว่าลูกได้จดจำพ่อนานแค่ไหน บาบาบอกลูกถึงการฝึกฝนของท่านเอง
แม้ว่าลูกจะเดินในการจดจำระลึกถึงเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงขาของลูกก็จะไม่เมื่อยล้า
บาปมากมายสามารถถูกตัดออกไปได้โดยการจดจำระลึกถึง ลูกรู้จักวงจร
ทั้งวันทั้งคืนเก็บไว้ในสติปัญญาของลูกเท่านั้นกับความจริงที่ว่าเวลานี้ลูกกลับบ้านแล้ว
ลูกกำลังทำความพยายาม มนุษย์ยุคเหล็กไม่รู้สิ่งนี้เลย
พวกเขาทำความเลื่อมใสศรัทธาอย่างมากเพื่อที่จะได้มาซึ่งการหลุดพ้น
มีความคิดเห็นมากมาย ลูกๆบราห์มินมีความคิดเห็นเดียวเท่านั้น
ลูกทั้งหมดผู้ที่กลายเป็นบราห์มินมีศรีมัทที่จะทำตาม
ลูกกลายเป็นเทพด้วยการทำตามศรีมัทของพ่อ เทพไม่มีศรีมัท
เวลานี้เท่านั้นที่ลูกกลายเป็นบราห์มินและได้รับศรีมัท พระเจ้าคือผู้ที่ไม่มีตัวตน
ท่านกำลังสอนราชาโยคะแก่ลูกที่ลูกประกาศสิทธิ์ในโชคของอาณาจักรของลูกและกลายเป็นนายที่สูงส่งของโลก
มีพระเวทย์และคัมภีร์ฯลฯมากมายในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา
อย่างไรก็ตามมีเพียงกีตะเดียวเท่านั้นที่เป็นประโยชน์ พระเจ้ามาและสอนราชาโยคะ
คำสอนเหล่านี้เท่านั้นที่ถูกเรียกว่ากีตะ
เวลานี้ลูกกำลังศึกษากับพ่อผู้ที่ลูกประกาศสิทธิ์ในอาณาจักรแห่งสวรรค์
ผู้ที่ศึกษาเล่าเรียนก็ประกาศสิทธิ์ในสิ่งนั้น นี่คือบทบาทในละครที่ลูกเล่น
เพียงพ่อผู้เดียวเท่านั้นที่เป็นมหาสมุทรแห่งความรู้และเพียงท่านเท่านั้นที่พูดความรู้นี้แก่ลูก
ตามแผนของละครท่านมาในยุคบรรจบพบกันเท่านั้น
ท่านมาระหว่างตอนสิ้นสุดของยุคเหล็กและตอนเริ่มต้นของยุคทอง
อย่าได้สับสนเกี่ยวกับสิ่งใด พ่อเข้ามาในผู้นี้และสอนลูก
ไม่มีใครอื่นสามารถสอนลูกได้ ถ้าผู้นี้(ดาด้า)ศึกษากับคนอื่นแล้ว
คนอื่นๆอีกหลายคนก็จะศึกษากับคนเดียวกันนั้นด้วยเช่นกัน พ่อพูดว่า:
พ่อมาเพื่อที่จะยกระดับกูรูฯลฯ ทั้งหมดด้วย
เวลานี้เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของลูกๆอยู่เบื้องหน้าลูกแล้ว
เรากำลังกลายเป็นสิ่งนี้
นี่คือเรื่องราวที่แท้จริงของการกลายเป็นนารายณ์จากมนุษย์ธรรมดา
และแล้วท่านได้รับการยกย่องในหนทางความเลื่อมใสศรัทธา
ระบบของหนทางความเลื่อมใสศรัทธาดำเนินต่อไป อาณาจักรของราวันเวลานี้จบสิ้นลง
ลูกไม่ได้ไปที่ใดอีกต่อไปเพื่อที่จะเฉลิมฉลองดาเซร่าฯลฯ
ลูกไปเพื่อที่จะอธิบายแก่พวกเขาว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่ นั่นคืองานของเด็กทารก
ผู้คนที่มีชื่อเสียงทั้งหมดไปเพื่อดูว่าพวกเขาเผาราวันอย่างไร
ไม่มีใครรู้ว่าราวันคือใคร นี่คืออาณาจักรของราวัน
ผู้คนเฉลิมฉลองดาเซร่าด้วยความสุขมากมาย พวกเขายังคงเผาราวันในเทศกาลนั้น
ความทุกข์ของพวกเขายังคงอยู่ต่อไป พวกเขาไม่มีความเข้าใจ
เวลานี้ลูกเข้าใจว่าลูกไม่รู้คิดอย่างไร ราวันทำให้ลูกไม่รู้คิด เวลานี้ลูกพูดว่า:
บาบาเราจะกลายเป็นลักษมีหรือนารายณ์อย่างแน่นอน เราจะไม่ลดการทำความพยายามลง
นี่คือโรงเรียนเดียวของเราเท่านั้นและการศึกษานี้ง่ายดายมาก
หากลูกผู้เป็นแม่ที่แก่ชราไม่สามารถจดจำสิ่งใดได้ อย่างน้อยลูกก็สามารถจดจำพ่อได้ “โอ้ราม!”
ออกมาจากปากของพวกเธอ บาบาบอกสิ่งนี้แก่ลูกด้วยวิธีที่ง่ายดายมาก: ลูกคือดวงวิญญาณ
จดจำพ่อดวงวิญญาณสูงสุดและเรือของลูกจะข้ามฟากไป ลูกจะไปที่ไหน?
ไปยังดินแดนแห่งความสงบและดินแดนแห่งความสุข ลืมทุกสิ่งอื่น
ลืมสิ่งใดก็ตามที่ลูกเคยได้ยินหรือศึกษามาก่อนหน้านี้
พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อและลูกจะได้รับมรดกของลูกจากพ่ออย่างแน่นอน
เป็นเพียงด้วยการจดจำระลึกถึงนี้เท่านั้นที่บาปของลูกจะถูกตัดออกออกไป
เป็นสิ่งที่ง่ายดายมาก มีการกล่าวว่า: “ดวงดาวที่มหัศจรรย์ส่องประกายอยู่ตรงกลางหน้าผาก”
ดังนั้นดวงวิญญาณนั้นเล็กมากอย่างแน่นอน
แพทย์พยายามอย่างหนักมากที่จะเห็นดวงวิญญาณแต่ดวงวิญญาณละเอียดอ่อนมาก
ไม่มีใครสามารถมองเห็นดวงวิญญาณด้วยการใช้วิธีการทางกายภาพประเภทใดก็ตาม
พ่อก็เป็นเพียงจุดเช่นกัน ท่านพูดว่า: เช่นที่ลูกนั้นธรรมดา
พ่อเองก็กลับมาธรรมดาเพื่อที่จะสอนลูก จะมีใครรู้ว่าพระเจ้ากำลังสอนเราอย่างไร?
หากศรีกฤษณะจะสอนลูก ผู้คนจากอเมริกา ญี่ปุ่นและที่อื่นๆก็จะมาที่นี่
เขามีแรงดึงดูดมากมายขนาดนั้น ทุกคนรักศรีกฤษณะ
ลูกๆรู้ว่าเวลานี้ลูกกำลังกลายเป็นเช่นเขา ศรีกฤษณะคือเจ้าชาย
หากลูกต้องการนำกฤษณะมาไว้บนตักของลูก ลูกต้องทำความพยายาม นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่
พ่อสอนลูกๆเพื่อทำให้ลูกไปเป็นเจ้าชายแห่งสวรรค์ นายของโลก พ่อพูดว่า: ลูกๆ
สาระของการศึกษานี้คือการละทิ้งทุกสิ่งของโลกนี้
อย่าได้คิดว่าลูกมีหลายล้านหรือหลายแสน ลูกจะไม่สามารถยึดสิ่งใดได้เลย
ดังนั้นทำความพยายามอย่างดีมาก เมื่อลูกมาหาพ่อ ท่านก็บ่นว่า:
ลูกได้เข้าชั้นเรียนมาเป็นเวลาแปดเดือนแล้ว
และตลอดเวลานั้นลูกยังไม่ได้พบกับพ่อผู้ที่ลูกได้รับอำนาจการปกครองสวรรค์เลย
ลูกเหล่านั้นก็ตอบบาบาว่าพวกเขามีงานนี้หรืองานนั้น โอ้! แต่ถ้าลูกตายล่ะ?
ลูกจะสามารถมาที่นี่ได้อย่างไร? ข้ออ้างเหล่านี้จะใช้ไม่ได้
พ่อกำลังสอนราชาโยคะแก่ลูกแต่ลูกไม่ได้ศึกษาเล่าเรียน
สำหรับผู้ที่ได้ทำความเลื่อมใสศรัทธาอย่างมาก คงจะต้องใช้เวลาถึงเจ็ดวันเลยทีเดียว
แต่เพียงเสี้ยววินาทีสำหรับลูกธนูที่จะพุ่งไปที่พวกเขา
ลูกสามารถกลายเป็นนายของโลกในหนึ่งวินาที ผู้นี้ที่มีประสบการณ์กำลังนั่งที่นี่
เขามีนิมิตของการทำลายล้างและภาพลักษณ์ที่มีสี่แขนและเข้าใจว่าท่านจะกลายเป็นนายของโลก
จากนิมิตที่ท่านได้ท่านกลับมามีความกระตือรือร้นและละทิ้งทุกสิ่ง
ลูกๆรู้ว่าพ่อมาที่นี่เพื่อที่จะให้อำนาจการปกครองสวรรค์แก่ลูก พ่อถามว่า:
ลูกมีศรัทธานี้มานานเท่าไหร่แล้ว? ลูกตอบว่า: เป็นเวลาแปดเดือน
บาบาได้อธิบายว่าสิ่งหลักคือการจดจำระลึกถึงและความรู้นี้ นิมิตนั้นไม่เป็นประโยชน์
เมื่อลูกได้ตระหนักรู้จักพ่อแล้วลูกก็เริ่มที่จะศึกษาเล่าเรียนและแล้วลูกจะกลายเป็นเช่นนั้น
ลูกสามารถอธิบายประเด็นต่างๆที่ลูกได้รับแก่ทุกคน อธิบายด้วยความอ่อนหวานอย่างมาก:
ชีพบาบาผู้ชำระให้บริสุทธิ์พูดว่า:
จดจำพ่อและลูกจะกลายเป็นนายที่บริสุทธิ์ของโลกที่บริสุทธิ์
อธิบายด้วยความฉลาดอย่างมาก: ลูกต้องการพระเจ้า, พ่อ,
ที่จะปลดปล่อยลูกและพาลูกกลับไปบ้านที่แสนหวานของลูกใช่ไหม? ดีแล้ว
เพื่อที่จะขจัดสนิมที่กำลังเกาะกุมลูกดวงวิญญาณ พ่อพูดว่า: จดจำพ่อ! อัจชะ
ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ
ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
ตื่นแต่เช้าตรู่และออกไปเดินในการจดจำระลึกถึงพ่อ
มีการสนทนาจากใจถึงใจที่แสนหวานระหว่างลูกเพื่อดูว่าลูกแต่ละคนจดจำบาบาได้นานเท่าไรและแล้วแบ่งปันประสบการณ์ของลูก
2.
เมื่อลูกๆได้ตระหนักรู้จักพ่อแล้วอย่าได้มีข้ออ้างใดๆ
แต่อยู่อย่างไม่ว่างเว้นอยู่ในการศึกษานี้ อย่าได้ขาดมุรลี
พร:
ในขณะที่มองเห็นคุณธรรมของทุกคนขอให้ลูกซึมซับคุณธรรมของพ่อไว้ในตนเองและกลายเป็นตัวของคุณธรรม
ในยุคบรรจบพบกัน ลูกๆ
ที่สวมพวงมาลัยแห่งคุณธรรมเข้าไปสู่สร้อยประคำแห่งชัยชนะ
เพราะฉะนั้นลูกต้องกลายเป็นหงส์ที่ศักดิ์สิทธิ์และในขณะที่มองเห็นคุณธรรมของทุกคน
ลูกเองก็ต้องซึมซับคุณธรรมของพ่อ
ขอให้พวงมาลัยแห่งคุณธรรมนี้อยู่รอบคอของลูกแต่ละคน
มากเท่าที่ลูกซึมซับคุณธรรมของพ่อ ลูกจะมีพวงมาลัยขนาดใหญ่รอบคอของลูกมากตามนั้น
ด้วยการหมุนลูกปัดของสร้อยประคำแห่งคุณธรรมตัวลูกเองจะกลายเป็นตัวแห่งคุณธรรม
เพื่อเป็นอนุสรณ์ในสิ่งนี้ จึงมีการแสดงพวงมาลัยรอบคอของเหล่าเทพและชักตี (เทพเจ้า)
คติพจน์:
สภาพของผู้สังเกตการณ์ที่ละวางคือบัลลังก์สำหรับการตัดสินที่ถูกต้อง
สัญญาณที่ละเอียดอ่อน:
ฝึกฝนการอยู่ในสภาพสำนึกเป็นดวงวิญญาณ อยู่อย่างสำรวจตน
ด้วยการทำทุกสิ่งในขณะที่อยู่อย่างสำรวจตน
ลูกจะปลอดภัยจากอุปสรรคและความคิดที่ไร้ประโยชน์ และประหยัดเวลาของลูกด้วยเช่นกัน
เมื่อลูกอยู่อย่างสำรวจตน คุณจะพัฒนาพลังของการตระหนักรู้
และดวงตาของลูกดวงวิญญาณจะกลับมามีพลัง และแล้ว เมื่อมีอุปสรรคใดๆ เกิดขึ้น
คุณจะรู้สึกล่วงหน้าว่าลูกกำลังจะมีข้อสอบในวันนั้น
ยิ่งลูกรู้สิ่งนั้นล่วงหน้ามากเท่าไร ลูกก็จะประสบความสำเร็จมากขึ้นตามนั้น
เพราะว่าลูกอยู่อย่างฉลาด