10.07.25 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน สละละทิ้งสำนึกที่เป็นร่างและกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ
มีเพียงผู้ที่มีสำนึกเป็นดวงวิญญาณเท่านั้นที่จะเรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวของพระเจ้า
คำถาม:
ชุมนุมทางจิตของลูกๆ แตกต่างจากชุมนุมทางจิตอื่นๆ ทั้งหมดอย่างไร?
คำตอบ:
นี่คือชุมนุมทางจิตเดียวเท่านั้นที่ลูกรับฟังความรู้เกี่ยวกับดวงวิญญาณและดวงวิญญาณสูงสุด
ลูกศึกษาเล่าเรียนที่นี่เพื่อบรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของลูกซึ่งอยู่เบื้องหน้าลูก
ในชุมนุมทางจิตอื่นๆ
พวกเขาไม่ได้ศึกษาเล่าเรียนและพวกเขาก็ไม่ได้มีเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ใดๆ
โอมชานติ
พ่อทางจิตอธิบายแก่ลูกๆ ทางจิต ลูกๆ ทางจิตกำลังรับฟังท่าน ก่อนอื่นพ่ออธิบายว่า:
เมื่อใดก็ตามที่ลูกนั่งที่นี่ นั่งในขณะที่พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ
ห้ามพิจารณาว่าตนเองเป็นร่างกาย
ผู้ที่มีสำนึกที่เป็นร่างกล่าวได้ว่าเป็นของครอบครัวปีศาจ
ผู้ที่มีสำนึกเป็นดวงวิญญาณกล่าวได้ว่าเป็นครอบครัวของพระเจ้า พระเจ้าไม่มีร่างกาย
ท่านมีสำนึกเป็นดวงวิญญาณเสมอ ท่านคือดวงวิญญาณสูงสุด พ่อของดวงวิญญาณทั้งหมด “ดวงวิญญาณสูงสุด”หมายถึง
สูงสุดเหนือสิ่งใด เมื่อผู้คนพูดถึงพระเจ้า, ผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใด
ก็เข้าไปสู่สติปัญญาของพวกเขาว่ารูปของท่านคือสัญลักษณ์รูปไข่วงรีที่ปราศจากตัวตน
สัญลักษณ์รูปไข่วงรีที่ปราศจากตัวตนได้รับการกราบไหว้บูชาด้วยเช่นกัน
ท่านคือดวงวิญญาณสูงสุด ท่านนั้นสูงสุดเหนือดวงวิญญาณทั้งหมด
ท่านเป็นดวงวิญญาณเช่นกัน แต่ท่านนั้นเป็นดวงวิญญาณที่สูงสุดเหนือสิ่งใด
ท่านไม่ได้เข้ามาสู่วงจรของการเกิดและการตาย
ผู้อื่นทั้งหมดกลับมาใช้ชาติเกิดใหม่และพวกเขาทั้งหมดคือสิ่งสร้าง
เพียงพ่อผู้เดียวเท่านั้นคือผู้สร้าง บราห์มา
วิษณุและชางก้าก็เป็นสิ่งสร้างด้วยเช่นกัน โลกมนุษย์ทั้งหมดคือสิ่งสร้าง
ผู้สร้างถูกเรียกว่าพ่อ ผู้ชายก็เรียกว่าเป็นผู้สร้างด้วยเช่นกัน
เขานำภรรยามาเลี้ยงดูและสร้างสิ่งสร้างกับเธอ แล้วเขาก็เลี้ยงดูสิ่งสร้างของเขา
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ทำลายสิ่งสร้างนั้น ผู้ก่อตั้งศาสนาทั้งหมดสร้างศาสนา
แล้วก็หล่อเลี้ยงศาสนานั้นเช่นกัน ไม่มีใครในบรรดาพวกเขาที่ทำลายสิ่งสร้างนั้น
พ่อที่ไร้ขีดจำกัดเรียกว่าดวงวิญญาณสูงสุด เช่นที่รูปของดวงวิญญาณคือจุด
ดังนั้นด้วยรูปของดวงวิญญาณสูงสุดก็เป็นจุด อย่างไรก็ตาม
สัญลักษณ์รูปไข่ขนาดใหญ่ที่พวกเขาทำในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาก็เป็นเพียงเพื่อพวกเขาจะสามารถกราบไหว้บูชาท่าน
ไม่เช่นนั้นแล้วจะมีการกราบไหว้บูชาจุดได้อย่างไร?
ในบารัตเมื่อพวกเขาสร้างไฟบูชายัญพวกเขาก็สร้างชีวาลิงกัมและซาลิแกรม จากดินเหนียว
แล้วก็กราบไหว้บูชาสิ่งเหล่านั้น นั่นเรียกว่าไฟบูชายัญของรูดร้า
ในความเป็นจริงชื่อที่แท้จริงคือราชอัศวะ อัศวเมฆ อาวินาชี รูดร้ากีตะ ญาณยักยะ (
ไฟบูชายัญของความรู้ที่ไม่สูญสลายของกีตะโดยรูดร้าที่มีการสังเวยม้าเพื่อได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองตนเอง
) สิ่งนี้ได้มีการกล่าวไว้ในคัมภีร์เช่นกัน ขณะนี้พ่อบอกลูกๆ:
พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ
ไม่มีสัตซังอื่นใดที่จะมีใครมีความรู้ของดวงวิญญาณหรือดวงวิญญาณสูงสุด
และไม่มีใครสามารถให้ความรู้นั้น ไม่มีเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ใดที่นั่น
ขณะนี้ลูกๆ กำลังศึกษาการศึกษานี้ . ลูกรู้ว่าดวงวิญญาณเข้ามาในร่างกาย
ดวงวิญญาณนั้นไม่สูญสลาย ในขณะที่ร่างกายนั้นสูญสลาย
ดวงวิญญาณเล่นบทบาทของเขาด้วยร่างกายของเขา ดวงวิญญาณนั้นปราศจากร่างใช่ไหม?
มีแม้กระทั่งคำกล่าวที่ว่า “ลูกมาอย่างปราศจากร่าง
และลูกต้องกลับไปอย่างปราศจากร่าง” ลูกได้นำร่างกายมาใช้
แต่ก่อนที่ลูกจะกลับไปลูกต้องอยู่อย่างปราศจากร่าง
พ่อนั่งที่นี่และอธิบายสิ่งนี้แก่ลูกๆ เท่านั้น ลูกๆ
รู้ด้วยเช่นกันว่าเมื่อเคยเป็นยุคทองในบารัตนั้นก็เป็นอาณาจักรของเหล่าเทพ
มีเพียงศาสนาเดียว ผู้คนของบารัตไม่รู้แม้กระทั่งมากเช่นนี้
ผู้ที่ไม่รู้จักพ่อก็ไม่รู้สิ่งใด ฤาษีและมุนีโบราณเองนั้นก็พูดด้วยเช่นกันว่า:
เราไม่รู้จักผู้สร้างหรือสิ่งสร้าง ผู้สร้างคือพ่อที่ไร้ขีดจำกัด
เพียงท่านเท่านั้นที่รู้ตอนเริ่ม ตอนกลางและตอนจบของสิ่งสร้าง
การเริ่มต้นนั้นก็เรียกว่าการเริ่มต้น และช่วงกลางก็คือช่วงเวลาที่อยู่ระหว่างกลาง
ในตอนเริ่มต้นก็มียุคทองซึ่งเรียกว่าเป็นกลางวัน
และแล้วกลางคืนก็คงอยู่มาตั้งแต่ตอนกลางจนถึงตอนสิ้นสุด
กลางวันนั้นก็คงอยู่มาสำหรับยุคทองและยุคเงิน สวรรค์คือสิ่งมหัศจรรย์ของโลก
เพียงบารัตเท่านั้นที่เคยเป็นสวรรค์ที่ซึ่งลักษมีและนารายณ์เคยปกครอง
ผู้คนของบารัตไม่รู้สิ่งนี้ ขณะนี้พ่อกำลังสร้างสวรรค์ พ่อพูดว่า:
พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ ฉันคือดวงวิญญาณชั้นหนึ่ง
ขณะนี้มนุษย์ทั้งหมดมีสำนึกที่เป็นร่าง พ่อทำให้ลูกมีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ
พ่อบอกลูกด้วยเช่นกันว่าดวงวิญญาณคืออะไร มนุษย์ไม่รู้สิ่งใดเลย
แม้ว่าพวกเขาจะพูดว่าดวงดาวที่มหัศจรรย์เปล่งประกายที่กึ่งกลางหน้าผาก
พวกเขาก็ไม่ได้รู้ว่าคืออะไรหรือมีบทบาทบันทึกอยู่ภายในนั้นอย่างไร
ขณะนี้พ่อได้อธิบายสิ่งนี้แก่ลูกแล้ว ลูกๆ ผู้คนของบารัตต้องเล่นบทบาทเป็นเวลา 84
ชาติเกิด บารัตคือแผ่นดินที่สูงส่ง เป็นสถานที่การจาริกแสวงบุญสำหรับมนุษย์ทั้งหมด
พ่อมาที่นี่เพื่อจะประทานการหลุดพ้นแก่ทุกคน ท่านปลดปล่อยเราจากอาณาจักรของราวัน
ท่านกลายเป็นผู้นำทางของเราและพาเรากลับบ้าน
ผู้คนเพียงแค่พูดเช่นนั้นโดยที่ไม่ได้เข้าใจความหมายอะไร
เริ่มแรกเคยเป็นเหล่าเทพในบารัต และแล้วพวกเขาก็ต้องกลับมาใช้ชาติเกิด
เป็นผู้คนของบารัตที่กลายเป็นเทพ และแล้วก็เป็นนักรบ พ่อค้าและศูทร
แล้วพวกเขาจะกลับมาใช้ชาติเกิดใหม่ ใช้เวลา 7 วันที่จะเข้าใจความรู้นี้อย่างสมบูรณ์
สติปัญญาที่ไม่บริสุทธิ์ของลูกต้องได้รับการชำระให้บริสุทธิ์
ลักษมีและนารายณ์เคยปกครองในโลกที่บริสุทธิ์
เมื่อเคยเป็นอาณาจักรของพวกเขาในบารัตก็ไม่มีศาสนาอื่นใด
มีเพียงอาณาจักรเดียวเท่านั้น บารัตนั้นเคยมีความมั่งคั่งมาก
พระราชวังของพวกเขาประดับประดาด้วยเพชรพลอย หลังจากนั้น
เมื่ออาณาจักรของราวันเริ่มขึ้น พวกเขาก็กลายเป็นผู้ทำการกราบไหว้บูชา
พวกเขาได้ไปในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาและสร้างวัด ฯลฯ พวกเขาสร้างวัดแก่โสมนาถ
ไม่ได้มีเพียงวัดเดียวเท่านั้น ที่นี่ด้วย
พวกเขานั้นก็มีเพชรพลอยมากมายในวัดของชีวาที่มาห์มุดกัซนาวีได้รูดปล้นไป
เขาได้บรรทุกไปบนหลังอูฐจำนวนมาก มีมากมายที่นั่น
ที่แม้กระทั่งอูฐนับหมื่นนับแสนตัวก็ไม่สามารถนำไปได้หมด
ในยุคทองเคยมีพระราชวังของทองคำที่ประดับประดาด้วยเพชรและพลอยอยู่มากมาย มาห์มุด
กัซนาวีนั้นก็เพียงแค่ได้มาเร็วๆ นี้เท่านั้น เคยมีพระราชวังมากมาย
แม้กระทั่งในยุคทองแดง พระราชวังเหล่านั้นทั้งหมดถูกฝังโดยแผ่นดินไหว
ไม่มีเกาะทองคำของราวัน
นั่นเป็นสัญลักษณ์ที่สภาพของบารัตกลายเป็นเช่นไรในอาณาจักรราวัน มันกลับมาไร้ศาสนา
ไม่มีความถูกต้องตามหลักศีลธรรมจรรยา ล้มละลาย ไม่บริสุทธิ์ และมีกิเลส 100%
โลกใหม่นั้นกล่าวได้ว่าปราศจากกิเลส บารัตเคยเป็นวัดของชีวา(ชีวาลายา)
นั่นเรียกว่าเป็นความมหัศจรรย์ของโลกด้วยเช่นกัน เคยมีมนุษย์จำนวนน้อยมากที่นั่น
ขณะนี้มีมนุษย์นับพันๆ ล้าน ลองคิดเกี่ยวกับสิ่งนี้!
ขณะนี้คือยุคบรรจบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุดสำหรับลูกๆ
เป็นเวลานี้ที่พ่อกำลังให้สติปัญญาที่สูงส่งดีงามแก่ลูกและกำลังทำให้ลูกกลายเป็นมนุษย์ที่สูงส่งที่สุด
พ่อให้คำแนะนำที่สูงส่งแก่ลูกเพื่อเปลี่ยนลูกจากมนุษย์ธรรมดาให้กลายเป็นเทพ
ด้วยคำแนะนำของพ่อเท่านั้นที่มีการกล่าวว่า “หนทางและวิธีการของท่านนั้นพิเศษสุด”
ไม่มีใครรู้ความหมายของสิ่งนั้น พ่ออธิบาย:
พ่อได้ให้คำแนะนำที่สูงส่งอย่างมากแก่ลูกที่ลูกกลายเป็นเทพ
ขณะนี้ยุคเหล็กกำลังจะมาถึงจุดจบ การทำลายล้างโลกเก่าอยู่เบื้องหน้าลูก
มนุษย์นั้นอยู่ในความมืดอย่างสมบูรณ์และหลับใหลในการหลับใหลของกุมภกัณฑ์
มีคำกล่าวว่า: ได้มีการเขียนไว้ในคัมภีร์ว่ายุคเหล็กนั้นยังคงอยู่ในวัยทารก
เนื่องจากยังคงมี 40000 ปีที่ยังหลงเหลือ เนื่องจากพวกเขาเชื่อใน 8.4
ล้านเผ่าพันธุ์ พวกเขาจึงได้ยืดระยะเวลาของวงจรออกไป ในความเป็นจริงมีเพียง 5000
ปีเท่านั้น พ่ออธิบาย: ลูกใช้ 84 ชาติเกิดไม่ใช่ 8.4 ล้าน
พ่อที่ไร้ขีดจำกัดรู้คัมภีร์เหล่านั้นทั้งหมด ฯลฯ เหตุนี้เองท่านจึงพูดว่า:
ทั้งหมดเหล่านั้นเป็นของหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาซึ่งคงอยู่มาเป็นเวลาครึ่งวงจร
และไม่มีใครสามารถพบกับท่านด้วยสิ่งเหล่านั้นได้ ลองพิจารณาสิ่งนี้:
ถ้าระยะเวลาของวงจรนั้นเป็นหลายแสนปีแล้วจำนวนประชากรก็จะมีขนาดใหญ่มาก
เนื่องจากประชากรของชาวคริสเตียนนั้นมีขนาดใหญ่มากในเวลาเพียง 2000 ปี
ศาสนาดั้งเดิมของบารัตคือศาสนาเทพ สิ่งนั้นควรจะดำเนินไป
แต่เนื่องจากพวกเขาได้หลงลืมศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไปของตนเอง
พวกเขาจึงพูดว่าศาสนาของเขาคือฮินดู ไม่ได้มีศาสนาเช่นฮินดู บารัตนั้นเคยสูงส่งมาก!
เมื่อเคยเป็นศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไปก็เป็นดินแดนของวิษณุ
ขณะนี้คือดินแดนของราวัน ดูซิว่าเวลานี้เทพเหล่านั้นกลายเป็นอะไรหลังจากใช้ 84
ชาติเกิด ผู้คนของบารัตคิดว่าเหล่าเทพนั้นปราศจากกิเลสและพวกเขาเองนั้นมีกิเลส
ดังนั้นพวกเขากราบไหว้บูชาเหล่าเทพ ในยุคทองบารัตนั้นเคยปราศจากกิเลส
เคยเป็นโลกใหม่และเรียกว่าเป็นบารัตใหม่ นี่คือบารัตเก่า
บารัตใหม่นั้นเป็นเช่นไรและบารัตเก่านั้นเป็นเช่นไร?
ในโลกใหม่บารัตนั้นใหม่และเวลานี้ในโลกเก่าบารัตนั้นเก่า
สภาพของสิ่งนั้นได้กลายเป็นเช่นไร! บารัตเคยเป็นสวรรค์และเวลานี้ได้กลายเป็นนรก
บารัตเคยมีความมั่งคั่งที่สุด ขณะนี้ล้มละลายมากที่สุด บารัตกำลังร้องขอจากทุกคน
ร้องขอจากแม้กระทั่งจากประชาชนของตนเอง นี่คือบางสิ่งที่จะต้องเข้าใจ
เมื่อมนุษย์ที่สำนึกที่เป็นร่างของวันนี้มีเงินทองเล็กน้อย
พวกเขาก็คิดว่าพวกเขากำลังนั่งอยู่ในสวรรค์ พวกเขาไม่รู้สิ่งใดเลยเกี่ยวกับสวรรค์
ดินแดนแห่งความสุข เพราะพวกเขามีสติปัญญาเป็นหิน
เวลานี้เนื่องจากพวกเขาไม่บริสุทธิ์
ลูกต้องทำให้พวกเขานั่งในบัทตีเป็นเวลาเจ็ดวันเพื่อทำให้สติปัญญาของพวกเขานั้นสูงส่ง
ผู้ที่ไม่บริสุทธิ์ไม่ได้รับอนุญาตให้นั่งที่นี่
เพียงผู้ที่บริสุทธิ์เท่านั้นที่สามารถอยู่ที่นี่ได้
ผู้ที่ไม่บริสุทธิ์ไม่สามารถได้รับอนุญาตให้มาที่นี่
ขณะนี้ลูกกำลังนั่งอยู่ในยุคบรรจบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุด
ลูกรู้ว่าบาบากำลังทำให้ลูกสูงส่งที่สุด นี่คือเรื่องราวของนารายณ์ที่แท้จริง
พ่อที่แท้จริงกำลังสอนราชาโยคะแก่ลูก
เพื่อทำให้ลูกกลายเป็นนารายณ์ที่แท้จริงจากมนุษย์ธรรมดา
พ่อผู้เดียวเท่านั้นมีความรู้นี้และท่านนั้นเรียกว่าเป็นมหาสมุทรแห่งความรู้
คำยกย่องที่ว่า “มหาสมุทรแห่งความสงบและมหาสมุทรแห่งความบริสุทธิ์” นั้นเป็นของท่าน
ไม่สามารถเป็นคำยกย่องของใครอื่นได้ คำยกย่องของเหล่าเทพแยกจากคำยกย่องของพ่อสูงสุด
ดวงวิญญาณสูงสุด ชีวา ท่านคือพ่อ กฤษณะไม่เรียกว่าเป็นพ่อ ขณะใครคือพระเจ้า?
แม้แต่เวลานี้ผู้คนของบารัตก็ไม่รู้สิ่งนี้ พวกเขาพูดว่า: พระเจ้ากฤษณะพูด
อย่างไรก็ตาม กฤษณะใช้ 84 ชาติเกิดเต็ม
ผู้คนของสุริยวงศ์ต่อมาก็กลายเป็นผู้คนของจันทราวงศ์
และแล้วก็เป็นผู้คนของราชวงศ์พ่อค้า ฯลฯ มนุษย์ไม่เข้าใจความหมายของ“ฮัมโซ”
พวกเขาพูดว่า “ฉันดวงวิญญาณคือดวงวิญญาณสูงสุด” พวกเขาผิดพลาดแค่ไหน!
เวลานี้ลูกต้องอธิบายแก่พวกเขาว่าสภาพของบารัตนั้นขึ้นไปและตกลงมาอย่างไร
นี่คือความรู้และทั้งหมดนั้นคือความเลื่อมใสศรัทธา ในยุคทองทุกคนบริสุทธิ์
มันเป็นอาณาจักรของราชาและราชินี ไม่มีที่ปรึกษาใดที่นั่น เพราะราชา
ราชินีเป็นนายของตนเอง พวกเขาได้รับมรดกของพวกเขาจากพ่อ พวกเขามีปัญญา
ลักษมีและนารายณ์ไม่จำเป็นต้องรับคำแนะนำจากใคร ไม่มีที่ปรึกษาใดๆ ที่นั่น
ไม่มีแผ่นดินอื่นใดที่บริสุทธิ์เท่ากับบารัต
บารัตเคยเป็นดินแดนที่ยิ่งใหญ่และบริสุทธิ์ ชื่อที่แท้จริงคือสวรรค์
ในขณะที่เวลานี้เป็นนรก! เพียงพ่อเท่านั้นที่สามารถเปลี่ยนนรกนี้ให้กลายเป็นสวรรค์
อัจชะ
ถึงลูกๆ
ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก
ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
ทำตามคำแนะนำที่สูงส่งของพ่อผู้เดียวและกลายเป็นเทพจากมนุษย์ธรรมดา
ในยุคบรรจบกันที่เป็นสิริมงคลที่สวยงามนี้
ทำให้สติปัญญาของลูกสูงส่งและกลายเป็นผู้ที่สูงส่งที่สุด
2.
นั่งในบัทตีเป็นเวลาเจ็ดวันและชำระสติปัญญาที่ไม่บริสุทธิ์ของลูกให้บริสุทธิ์
ฟังเรื่องราวที่แท้จริงของนารายณ์ที่แท้จริงจากพ่อที่แท้จริงและกลายเป็นนารายณ์จากมนุษย์
พร:
ขอให้ลูกซื่อสัตย์ และมีค่าควรแก่การไว้วางใจ
และใช้ทรัพย์ที่มีค่าทั้งหมดตามการกำหนดของพ่อสำหรับงานใดๆ
ผู้ที่ซื่อสัตย์และมีค่าควรแก่การไว้วางใจคือผู้ที่ไม่ใช้ทรัพย์ที่มีค่าที่ได้รับมาจากพ่อสำหรับงานใดโดยไม่มีการกำหนดของท่าน
ถ้าลูกสูญเสียเวลา คำพูด การกระทำ
ลมหายใจและความคิดในการทำตามการกำหนดของผู้อื่นหรือภายใต้อิทธิพลของมิตรที่ผิด
ถ้าลูกคิดเกี่ยวกับผู้อื่นแทนการคิดเกี่ยวกับตนเอง
ถ้าลูกอยู่อย่างหยิ่งยะโสเกี่ยวกับบางสิ่งแทนการมีความเคารพตนเอง
ถ้าลูกทำตามการกำหนดของจิตใจตนเองแทนการทำตามศรีมัท
และแล้วไม่สามารถกล่าวได้ว่าลูกซื่อสัตย์
ลูกได้รับทรัพย์ที่มีค่าทั้งหมดเหล่านี้เพื่อให้คุณประโยชน์ต่อโลก
ดังนั้นการใช้ทรัพย์ที่มีค่าสำหรับงานการให้คุณประโยชน์ต่อโลกนั้นคือซื่อสัตย์
คติพจน์:
การต่อต้านเป็นศัตรูเป็นไปกับมายา ไม่ใช่กับครอบครัวที่สูงส่ง
สัญญาณที่ละเอียดอ่อน:
สะสมพลังแห่งความคิดและกลายเป็นเครื่องมือสำหรับงานรับใช้ที่สูงส่ง
ดวงวิญญาณทุกดวงเป็นของครอบครัวที่ไร้ขีดจำกัดเดียว
และดังนั้นไม่มีดวงวิญญาณของครอบครัวของเราที่ควรจะขาดพรไป
จงมีความคิดที่สูงส่งที่เติมไปด้วยความจริงจังและกระตือรือร้นอยู่ในหัวใจของลูกอยู่เสมอ
อย่ายุ่งอยู่กับเพียงครอบครัวของลูกเอง
จงอยู่อย่างมั่นคงในสภาพที่ไร้ขีดจำกัดและมีความคิดที่สูงส่งเพื่อรับใช้ดวงวิญญาณที่ไร้ขีดจำกัด
นี่คือวิธีที่จะมีความสำเร็จอย่าง่ายดาย