12.10.25 Avyakt Bapdada Thai Murli
17.03.2006 Om Shanti Madhuban
ด้วยทัศนคติที่สูงส่ง
จงเพียรพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำให้กระแสพลังในตัวลูกและบรรยากาศมีพลัง
จงให้พรและรับพร
วันนี้ บัพดาดา มหาสมุทรแห่งความรักและมหาสมุทรแห่งพลัง
ได้มาเพื่อพบกับลูกๆอันเป็นที่รักของท่าน ที่จากหายไปนาน และเวลานี้ได้พบแล้ว
ด้วยแรงดึงดูดแห่งความรัก
ลูกทุกคนได้เดินทางมาที่นี่จากดินแดนที่ห่างไกลเพื่อมาเฉลิมฉลองการพบปะ
ไม่ว่าลูกจะนั่งอยู่เบื้องหน้าบาบาเป็นการส่วนตัว หรือนั่งอยู่ในดินแดนนี้
หรือในต่างแดน ลูกก็กำลังเฉลิมฉลองการพบปะอันเปี่ยมด้วยความรัก
บัพดาดารู้สึกยินดีที่ได้เห็นลูกๆที่เป็นมิตรร่วมทางของท่านที่มีความรักและความร่วมมืออย่างเต็มเปี่ยม
บัพดาดาเห็นว่าลูกๆส่วนใหญ่มีความคิดเดียวในหัวใจว่า
เวลานี้เราจะเปิดเผยพ่ออย่างรวดเร็ว พ่อพูดว่า
ความกระตือรือร้นของลูกทุกคนนั้นดีมาก อย่างไรก็ตาม
ลูกจะสามารถเปิดเผยพ่อได้ก็ต่อเมื่อลูกเปิดเผยตนเองว่าเพียบพร้อมและสมบูรณ์พร้อมเช่นเดียวกับพ่อก่อน
ดังนั้น ลูกจึงถามพ่อว่า "เมื่อไหร่ท่านจะได้รับการเปิดเผย?" แล้วพ่อจึงถามลูกๆว่า
“ลูกพูดซิว่าเมื่อไหร่ลูกจะเปิดเผยตนเองว่าทัดเทียมกับพ่อ?”
ลูกได้กำหนดวันที่จะกลับมาสมบูรณ์แล้วหรือยัง?
ผู้ที่มาจากต่างประเทศบอกว่าวันที่มักจะได้รับการกำหนดไว้ก่อนล่วงหน้าหนึ่งปี
แล้วลูกได้มีการประชุมกันเองและกำหนดวันที่จะกลับมาทัดเทียมกับพ่อหรือไม่?
บัพดาดาเห็นว่าทุกวันนี้มีการประชุมและพบปะกันมากมายในทุกฝ่าย
บัพดาดาได้ยินเรื่องของการประชุมและพบปะกันของดับเบิ้ลฟอเรนเนอร์
ท่านชอบสิ่งนี้เป็นอย่างมาก
ข่าวเกี่ยวกับการประชุมและพบปะกันทั้งหมดก็มาถึงบัพดาดาอยู่เสมอ ดังนั้น
บัพดาดาจึงถามว่า “ลูกกำหนดวันสำหรับเรื่องนี้เมื่อใด?”
ละครจะกำหนดวันที่นี้หรือลูกจะกำหนดวันที่นี้? ใครจะเป็นผู้กำหนด? แน่นอนว่า
ลูกจะต้องรักษาเป้าหมายไว้อย่างแน่นอน ลูกทุกคนมีเป้าหมายที่ดีมาก ดีที่สุด
แต่เวลานี้ ตามเป้าหมายที่ลูกรักษาไว้
ลูกก็ต้องพัฒนาคุณสมบัติสำหรับเป้าหมายที่สูงส่งนั้นเช่นกัน
ปัจจุบันมีความแตกต่างระหว่างเป้าหมายกับคุณสมบัตินั้น
เมื่อเป้าหมายและคุณสมบัติเท่าเทียมกัน เป้าหมายนั้นก็จะเป็นจริงในทางปฏิบัติได้
เมื่อลูกทุกคนเฉลิมฉลองการพบปะในเวลาอมฤตและมีความคิดขึ้นมา
พวกเขาทำสิ่งนั้นได้ดีมาก บัพดาดาได้ยินการสนทนาจากใจถึงใจของลูกทุกคนในทุกหนแห่ง
ลูกมีการสนทนาที่สวยงามมาก ลูกก็เพียรพยายามอย่างดีมากเช่นกัน
แต่ในความพยายามของลูก ลูกต้องทำให้เกิดความเข้มข้นในสิ่งหนึ่ง ลูกกำลังเพียรพยายาม
แต่ต้องมีความพยายามอย่างเข้มข้นจริงจัง
ต้องมีความมุ่งมั่นเพื่อความเข้มข้นจริงจังนั้น ต้องมีการเพิ่มสิ่งนี้เข้าไป
ตามเวลา บัพดาดามีความปรารถนาอย่างหนึ่งต่อลูกๆทุกคน
แม้ว่าลูกอาจจะตามลำดับกันไปและบัพดาดาก็รู้
แม้ว่าลูกจะตามลำดับกันไปแต่ก็ยังต้องมีความเพียรพยายามอย่างแรงกล้าอยู่เสมอ
มีความจำเป็นอย่างมากสำหรับสิ่งนี้ เวลากำลังเคลื่อนไปสู่ความสมบูรณ์อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม เวลานี้ ลูกๆต้องกลับมาทัดเทียมกับพ่ออย่างแน่นอน
สิ่งนี้ถูกกำหนดไว้แล้ว ลูกเพียงแค่ต้องใส่ความความจริงจังลงไป
ลูกแต่ละคนต้องตรวจสอบตนเองว่า
ฉันเป็นผู้ที่เพียรพยายามอย่างแรงกล้าตลอดเวลาหรือไม่?
นี่เป็นเพราะว่าข้อสอบมากมายจะเข้ามาในความพยายามของลูกและมันจะต้องมาอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มีความพยายามอย่างแรงกล้าที่จะผ่านข้อสอบเหล่านั้นได้
จะต้องถูกกำหนดไว้เสมือนว่าผู้ที่มีความพยายามอย่างแรงกล้าได้ผ่านข้อสอบนั้นไปแล้ว
ไม่ใช่ว่าคนนั้นต้องผ่าน แต่ว่าเขาผ่านแล้ว สิ่งนี้ถูกกำหนดไว้แล้ว
ลูกทุกคนกำลังทำงานรับใช้ด้วยความใส่ใจอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม
บัพดาดาได้บอกลูกมาก่อนหน้านี้เช่นกันว่า ตามเวลาในปัจจุบันนี้
ลูกต้องทำงานรับใช้สามประเภทในเวลาเดียวกัน นั่นคือ ด้วยความคิด คำพูด
และการกระทำของลูก ใช้จิตใจของลูกเพื่อให้ประสบการณ์
ด้วยคำพูดของลูกให้คำแนะนำเกี่ยวกับสมบัติที่มีค่าของความรู้
ใช้ใบหน้าและกิจกรรมของลูกเพื่อให้ประสบการณ์ของรูปในทางปฏิบัติของชีวิตโยคีอย่างสมบูรณ์
ลูกต้องทำงานรับใช้ทั้งสามประเภทในเวลาเดียวกัน ไม่ใช่ในเวลาที่แยกกัน
มีเวลาน้อยและยังคงมีงานรับใช้อีกมากมายที่ต้องทำแม้กระทั่งตอนนี้
บัพดาดาได้เห็นแล้วว่าวิธีที่ง่ายที่สุดในการทำงานรับใช้คือการสร้างกระแสพลังของลูกด้วยทัศนคติของลูก
และสร้างบรรยากาศด้วยกระแสพลังของลูก เพราะทัศนคติของลูกเป็นวิธีที่ทรงพลังที่สุด
เช่นเดียวกับที่จรวดทางวิทยาศาสตร์สามารถบินได้เร็วมาก ในทำนองเดียวกัน
ทัศนคติทางจิตวิญญาณของลูกของความปรารถนาดีและความรู้สึกที่บริสุทธิ์ก็จะเปลี่ยนแปลงวิสัยทัศน์หรือมุมมองของลูกและโลกของลูก
ในขณะที่นั่งอยู่ในที่แห่งใดแห่งหนึ่ง ลูกสามารถรับใช้ด้วยทัศนคติของลูกได้
เป็นไปได้ที่ลูกจะลืมในสิ่งที่ลูกได้ยิน
แต่ลูกไม่สามารถลืมประสบการณ์ที่ลูกมีเกี่ยวกับบรรยากาศได้
ลูกได้สัมผัสบรรยากาศในมธุบันของดินแดนที่พ่อบราห์มาได้มีการปฏิบัติ
ดินแดนที่ท่านมีโยคะและทำกิจกรรมที่สูงส่ง
บรรยากาศที่ใครก็ตามได้สัมผัสแม้กระทั่งเวลานี้ไม่อาจลืมเลือนได้
ประสบการณ์ของบรรยากาศจะประทับอยู่ในหัวใจของลูก
แน่นอนว่าลูกมีโปรแกรมใหญ่มากมายของการรับใช้ด้วยคำพูด
แต่ลูกแต่ละคนต้องสร้างบรรยากาศด้วยทัศนคติและกระแสพลังทางจิตวิญญาณของลูก
อย่างไรก็ตาม
ทัศนคติของลูกจะเป็นทัศนคติทางจิตวิญญาณและทรงพลังเมื่อลูกไม่มีกระแสของทัศนคติที่ผิดในหัวใจหรือในจิตใจของลูก
ทัศนคติของจิตใจของลูกต้องสะอาดอยู่เสมอ
หากลูกมีทัศนคติที่ไร้ประโยชน์ต่อดวงวิญญาณใด หรือในแง่ของความรู้
หากลูกมีทัศนคติในเชิงลบ เชิงลบนั้นก็หมายถึงขยะ หากลูกมีขยะอยู่ในจิตใจ
ลูกจะไม่สามารถรับใช้ด้วยทัศนคติที่บริสุทธิ์ได้ ดังนั้น ก่อนอื่นใด
ให้ตรวจสอบตนเองว่า ทัศนคติของจิตใจของฉันบริสุทธิ์และเป็นไปในทางจิตวิญญาณหรือไม่?
จงเปลี่ยนทัศนคติเชิงลบให้เป็นทัศนคติเชิงบวกด้วยความปรารถนาดีและความรู้สึกที่บริสุทธิ์ของลูก
เมื่อทัศนคติเป็นลบ ลูกก็จะรู้สึกเป็นทุกข์ในจิตใจของลูกเองใช่หรือไม่?
ลูกมีความคิดที่ไร้ประโยชน์ใช่ไหม? ดังนั้น ก่อนอื่นใด ตรวจสอบตนเองก่อนว่า
มีความขัดแย้งในจิตใจของตนเองหรือไม่? แน่นอนว่ามันตามลำดับกันไป
มีทั้งคนดีและคนที่สร้างปัญหาให้กับพวกเขาเช่นกัน อย่างไรก็ตาม แค่เข้าใจว่า "คนนี้ก็เป็นแบบนั้น"
ก็ดี จงพิจารณาว่าผิดก็คือผิด และถูกก็คือถูก แต่อย่าเก็บมันไว้ในหัวใจของลูก
การเข้าใจสิ่งนี้เป็นคนละเรื่องกัน เป็นสิ่งที่ดีที่มีความรู้
แน่นอนลูกจะพูดว่ามีบางสิ่งที่ผิดเมื่อมันผิด ลูกบางคนพูดว่า "บาบา
ท่านไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นอย่างไร ถ้าท่านได้เห็นพวกเขา ท่านก็จะรู้"
พ่อเชื่อในสิ่งที่ลูกพูด
ท่านรู้อยู่แล้วก่อนที่ลูกจะบอกท่านเสียอีกว่าคนนั้นเป็นอย่างไร
แต่การเก็บสิ่งเหล่านี้ไว้ในหัวใจและในทัศนคติของลูกจะทำให้ลูกรู้สึกขุ่นมัวไม่พอใจ
เมื่อลูกมีสิ่งที่เลวร้ายอยู่ในหัวใจและในจิตใจของลูก ที่ใดมีสิ่งเลวร้าย
ที่ใดมีความคิดที่ไร้ประโยชน์
แล้วบุคคลนั้นจะเป็นผู้ให้คุณประโยชน์แก่โลกได้อย่างไร? ลูกทุกคนมีอาชีพการงานอะไร?
จะมีใครในบันดาลูกๆที่บอกว่าตนเองเป็นผู้ให้คุณประโยชน์แค่ในลอนดอน ในเดลี
หรือในอุตตระประเทศเท่านั้นหรือไม่? หรือที่ไหนก็ตามที่ลูกพักอาศัยอยู่? โอเค
ไม่ใช่ดินแดน แต่เป็นศูนย์ที่ลูกพักอยู่ล่ะ?
ลูกทุกคนบอกว่าอาชีพการงานของลูกคือผู้ให้คุณประโยชน์ต่อโลก ลูกทั้งหมดเป็นใคร?
ลูกเป็นผู้ให้คุณประโยชน์ต่อโลกหรือไม่? ถ้าใช่ ยกมือขึ้น! ผู้ให้คุณประโยชน์ต่อโลก!
ลูกไม่ได้มีสิ่งใดที่ไม่ดีในจิตใจของลูกใช่ไหม? ลูกอาจจะเข้าใจ
แต่นั่นเป็นคนละเรื่องกัน เข้าใจว่าอะไรถูกอะไรผิด แต่อย่าเก็บสิ่งนั้นไว้ในจิตใจ
การมีทัศนคตินี้ในจิตใจของลูก
จะทำให้วิสัยทัศน์หรือการมองของลูกและโลกเปลี่ยนไปเช่นกัน
บัพดาดาให้การบ้านบางอย่างแก่ลูก สิ่งนั้นคืออะไร?
มันเป็นความพยายามที่ง่ายที่สุดที่ทุกคนทำได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้เป็นแม่ เยาวชน คนแก่
ลูกทุกคนสามารถทำได้ วิธีการสำหรับสิ่งนั้นก็คือเพียงแค่ทำสิ่งเดียว
เมื่อลูกมีการติดต่อกับใครหรือพบปะใคร ก็ให้พรและรับพร
แม้ว่าคนนั้นจะให้ความปรารถนาร้ายแก่ลูก ลูกให้คอร์ส(หลักสูตร)อะไร?
การเปลี่ยนสิ่งที่เป็นลบให้เป็นบวก ณ เวลานั้น จงให้คอร์สกับตนเองในเรื่องนี้
อะไรคือความท้าทาย? ความท้าทายของลูกก็คือการทำให้ธรรมชาติสะโตกุนีจากทาโมกุนี
นี่คือความท้าทายของลูกใช่หรือไม่?
ลูกทุกคนได้ยืนคำท้าทายว่าลูกต้องทำให้ธรรมชาติสะโตประทาน
ลูกต้องทำให้ธรรมชาติเป็นเช่นนั้นหรือไม่? ถ้าใช่ ก็พยักหน้า! โบกมือ!
อย่าโบกมือเพียงแค่เห็นคนอื่นทำ แต่โบกมือจากหัวใจของลูก ขณะนี้ ตามเวลา
ความพยายามอย่างแรงกล้าของลูกคือการสร้างบรรยากาศด้วยทัศนคติของลูก ดังนั้น
หากมีขยะแม้เพียงเล็กน้อยในทัศนคติของลูก
ลูกจะสร้างบรรยากาศด้วยทัศนคติของลูกได้อย่างไร? กระแสพลังของลูกจะไปถึงธรรมชาติ
คำพูดจะไม่สามารถไปถึงที่นั่นได้ กระแสพลังของลูกจะไปถึงที่นั่น
กระแสพลังของลูกถูกสร้างขึ้นด้วยทัศนคติของลูก
และบรรยากาศก็ถูกสร้างขึ้นด้วยกระแสพลังของลูก ในมธุบันเช่นกัน
ไม่ใช่ทุกคนจะเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม
บรรยากาศถูกสร้างขึ้นด้วยทัศนคติของพ่อบราห์มาและบุคคลอันเป็นที่รักยิ่ง
และความพยายามอย่างแรงกล้าของพวกเขา
วันนี้ บาบากำลังระลึกถึงดาดี้ของลูก คุณสมบัติพิเศษของดาดี้จีที่ลูกได้เห็นคืออะไร?
เธอควบคุมทุกสิ่งได้อย่างไร? เธอไม่เคยเก็บข้อบกพร่องของใครไว้ในจิตใจของเธอเลย
ไม่ว่าบุคคลอื่นจะมองเธอด้วยทัศนคติแบบใดก็ตาม เธอมอบความกระตือรือร้นให้กับทุกคน
แม่จากาดัมบ้าของลูกสร้างบรรยากาศนั้นขึ้นมา ในขณะที่รู้ทุกสิ่ง
เธอรักษาทัศนคติของเธอให้บริสุทธิ์อยู่เสมอ
และลูกทุกคนกำลังสัมผัสกับบรรยากาศที่สร้างขึ้นจากสิ่งนั้น แม้ว่าจะเป็น 'ทำตามพ่อ'
บัพดาดาก็มักจะพูดเสมอว่า:
จงรู้ถึงคุณสมบัติพิเศษของแต่ละคนและทำให้คุณสมบัติพิเศษนั้นเป็นของลูกเอง
จดบันทึกสำหรับลูกทุกคน: คนที่กลายเป็นลูกของบัพดาดา ลูกแต่ละคนและลูกทุกคน
แม้ว่าลูกคนนั้นอาจจะเป็นอันดับสามก็ตาม คุณสมบัติพิเศษของละครและพรจากบัพดาดาคือ
ในบรรดาลูกทั้งหมด หากบางคนมีข้อบกพร่อง 99 อย่าง
เขาย่อมมีคุณสมบัติพิเศษหนึ่งอย่างอย่างแน่นอน และด้วยคุณสมบัติพิเศษนั้น
เขามีสิทธิ์ที่จะพูดว่า "บาบาของฉัน!" เขาอาจได้รับอิทธิพล
แต่เขาก็ยังคงมีความรักที่ไม่มีวันเสื่อมคลายต่อพ่อ ด้วยเหตุนี้ ตอนนี้
ตามเวลาที่ใกล้เข้ามา ไม่ว่าสถานที่ของพ่อจะมีอยู่ ณ ที่แห่งใด
ไม่ว่าจะมีอยู่ในหมู่บ้าน ในโซนใหญ่หรือเขตพื้นที่ใหญ่ หรือในศูนย์ต่างๆ
จำเป็นสำหรับทุกสถานที่และสำหรับมิตรร่วมทางทุกคนที่จะต้องมีบรรยากาศของทัศนคติที่สูงส่ง
จำไว้เพียงแค่สิ่งเดียว: ถึงแม้ว่าใครบางคนจะมีความปรารถนาร้ายต่อลูก
แต่ใครคือผู้ที่รับความปรารถนาร้ายนั้นไป?
คนที่ให้ความปรารถนาร้ายนั้นกับคนที่รับสิ่งนั้นเป็นเพียงคนเดียวหรือมีสองคน?
ถ้ามีคนให้สิ่งที่ไม่ดีแก่ลูก ลูกจะทำอย่างไร? ลูกจะเก็บสิ่งนั้นไว้กับตนเองหรือไม่?
หรือลูกจะคืนสิ่งที่ไม่ดีนั้นไป ทิ้งมันไป
หรือเก็บมันไว้ในตู้ของลูกอย่างระมัดระวัง?
แล้วลูกจะเก็บซ่อนมันไว้ในหัวใจของลูกหรือไม่? หัวใจของลูกคือบัลลังก์ของบัพดาดา
ดังนั้น เวลานี้จงจำสิ่งหนึ่งไว้ในจิตใจของลูกอย่างมั่นคง ไม่ใช่แค่ในคำพูด
แต่ในจิตใจของลูก: "ฉันต้องให้พรและรับพร"
อย่าได้เก็บสิ่งที่เป็นลบไว้ในจิตใจของลูก โอเค ถ้าลูกได้ยินบางสิ่งด้วยหูข้างหนึ่ง
หน้าที่ของลูกคือต้องปล่อยให้มันออกไปทางหูอีกข้างหนึ่ง
หรือว่าเป็นหน้าที่ของคนอื่น?
และแล้วเมื่อนั้นเท่านั้นที่ลูกจะสามารถทำงานรับใช้ของการสร้างบรรยากาศในโลกและในท่ามกลางดวงวิญญาณทั้งหลายด้วยทัศนคติของลูกด้วยความเร็วที่รวดเร็ว
ลูกต้องการที่จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงโลกใช่หรือไม่? ดังนั้น ลูกจะจดจำอะไร?
จดจำมันด้วยจิตใจของลูก จดจำแค่คำว่า 'พร' เท่านั้นเอง
เพราะภาพลักษณ์หรือรูปเคารพที่ไม่มีชีวิตของลูกให้อะไร? ให้พรใช่หรือไม่?
เมื่อผู้คนไปวัด พวกเขาขออะไร? พวกเขาขอพร เป็นเพราะพวกเขาได้รับพร พวกเขาจึงขอพร
แม้แต่ในชาติเกิดสุดท้ายของลูก ภาพลักษณ์หรือรูปเคารพที่ไม่มีชีวิตของลูกก็ให้พร
ด้วยทัศนคติเช่นนั้น พวกเขาจึงเติมเต็มความปรารถนาของทุกคน ดังนั้น
เพราะลูกได้กลายเป็นผู้ให้พรในลักษณะนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่รูปเคารพที่ไม่มีชีวิตของลูกจึงให้พรมาจนถึงทุกวันนี้
โอเค เมื่อดวงวิญญาณได้รับอิทธิพลจากบางสิ่ง
ถ้าลูกซึ่งเป็นลูกของมหาสมุทรแห่งการให้อภัย ให้อภัยเขาสักหน่อย
นั่นก็เป็นสิ่งที่ดีใช่ไหม? แล้วลูกทุกคนเป็นนายแห่งมหาสมุทรแห่งการให้อภัยหรือไม่?
เป็นหรือไม่? หรือไม่เป็น? ลูกเป็นอย่างนั้นใช่ไหม? พูดว่า "ฉันก่อน" กลายเป็น "โอ
อรชุน" ในสิ่งนี้
สร้างบรรยากาศเช่นนั้นที่ใครก็ตามที่เข้ามาอยู่ตรงหน้าลูกจะสามารถได้รับความรักและความร่วมมือเล็กน้อยและสัมผัสกับการให้อภัย
ความกล้าหาญ ความร่วมมือ ความจริงจังและความกระตือรือร้น สิ่งนี้เป็นไปได้หรือไม่?
เป็นไปได้ไหม? ผู้ที่นั่งอยู่แถวหน้า สิ่งนี้เป็นไปได้ไหม? ยกมือขึ้น! ก่อนอื่น
ลูกจะต้องทำสิ่งนี้ ลูกจะต้องลงมือทำ ผู้เป็นครูที่อยู่แถวหน้า
ลูกทุกคนจะทำสิ่งนี้หรือไม่? อัจชะ
บาบาได้รับอีเมลและจดหมายจากลูกๆ จากสถานที่ต่างๆมากมาย ผู้ที่ไม่เคยเขียนจดหมาย
แต่มีความคิด
แล้วความรักและความระลึกถึงของทุกคนที่มีเพียงแค่ความคิดก็มาถึงบัพดาดาเช่นกัน
พวกเขาเขียนจดหมายที่แสนหวาน
พวกเขาเขียนจดหมายเช่นนั้นที่ลูกเพียงแค่อยู่อย่างโบยบินด้วยความจริงจังและความกระตือรือร้น
ถึงกระนั้นก็ตาม นี่เป็นสิ่งที่ดี
ด้วยการเขียนจดหมายทำให้พวกเขาผูกพันที่จะต้องทำเช่นนั้น เพราะพวกเขาให้สัญญานั้น
ดังนั้น ไม่ว่าลูกทุกคนจะรับชมหรือรับฟังจากที่ใดก็ตาม
บัพดาดาก็ให้ความรักและความระลึกถึงแก่ลูกทุกคน
ก่อนที่จะให้กับผู้ที่นั่งอยู่เบื้องหน้าท่านเป็นการส่วนตัวด้วยซ้ำ
บัพดาดารู้ว่าแต่ละประเทศมีช่วงเวลาที่แตกต่างกัน แต่ถึงกระนั้น
ทุกคนก็กำลังนั่งในการจดจำระลึกถึงและรับฟังด้วยความกระตือรือร้นอย่างมาก อัจชะ
ลูกทุกคนมีความคิดที่จะเพียรพยายามอย่างแรงกล้าและกลายเป็นอันดับหนึ่งหรือไม่?
คิดเช่นนี้ไหม? ยกมือขึ้น! ตอนนี้ครูก็ยกมือขึ้น แถวแรกเป็นสิ่งนี้อยู่แล้ว นี่ก็ดี
บัพดาดาให้คำแนะนำและแนวทางว่า ตลอดทั้งวัน เมื่อใดก็ตามที่ลูกมีเวลาสักห้านาที
จงฝึกฝนจิตใจของลูก
เพราะทุกวันนี้โลกก็กำลังให้ความสนใจกับการฝึกออกกำลังกายเช่นกัน ดังนั้น
จงฝึกฝนจิตใจของลูกเป็นเวลาห้านาที นำจิตใจของลูกจากดินแดนสูงสุด
สู่อาณาเขตที่ละเอียดอ่อน ระลึกถึงรูปที่เป็นเทวดานางฟ้าของลูก
ต่อมาก็ระลึกถึงรูปที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา จากนั้นระลึกถึงรูปบราห์มินของลูก
จากนั้นก็ระลึกถึงรูปที่เป็นเทพของลูก มีกี่รูป? ห้ารูป ดังนั้น ภายในห้านาที
จงฝึกฝนด้วยรูปทั้งห้านี้ ลูกสามารถทำสิ่งนี้ได้ตลอดทั้งวัน
ในขณะที่เดินและเคลื่อนไหวไปมา ลูกไม่จำเป็นต้องมีพื้นดินหรือทุ่งนาสำหรับสิ่งนี้
ลูกไม่จำเป็นต้องวิ่ง ลูกไม่จำเป็นต้องมีเก้าอี้ ลูกไม่จำเป็นต้องมีที่นั่ง
ลูกไม่จำเป็นต้องมีเครื่องจักรใดๆ
เช่นเดียวกับที่การออกกำลังกายทางร่างกายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับร่างกายของลูก
และลูกก็สามารถทำเช่นนั้นได้ ลูกไม่ได้ถูกห้ามให้ทำสิ่งนั้น
แต่จงทำการฝึกปฏิบัตินี้ ฝึกฝนการออกกำลังสำหรับจิตใจของลูก
การฝึกนี้จะทำให้จิตใจของลูกมีความสุขอยู่เสมอ
เต็มไปด้วยความจริงจังและความกระตือรือร้น
และให้ประสบการณ์ของสภาพที่โบยบินให้กับลูก ดังนั้น ลูกทุกคน
จงเริ่มการฝึกฝนนี้เดี๋ยวนี้ จากดินแดนสูงสุดสู่การเป็นเทพ (บัพดาดาทำการฝึก) อัจชะ
ถึงลูกทุกคนที่กำลังเพียรพยายามอย่างแรงกล้าในทุกหนแห่งผู้ซึ่งสร้างบรรยากาศทางจิตวิญญาณและทรงพลังด้วยทัศนคติของลูก
ถึงผู้ที่ให้ประสบการณ์ของกระแสพลังที่ทรงพลังด้วยสถานที่ของเขาและสภาพของพวกเขาเสมอ
ถึงดวงวิญญาณที่สูงส่งผู้มีความคิดที่มุ่งมั่น
ถึงดวงวิญญาณผู้มีเมตตาที่ให้พรและรับพรอยู่เสมอ
ถึงดวงวิญญาณที่เป็นแสงและเบาสบายที่มีประสบการณ์ว่าตนเองอยู่ในสภาพที่โบยโบยบินอยู่เสมอ
รัก ระลึกถึง และนมัสเตจากบัพดาดา
พร:
ขอให้ลูกเพิ่มพลังของชุมนุมด้วยสติปัญญาอันกว้างไกลและไม่มีขีดจำกัด
และกลายเป็นตัวของความสำเร็จ
การเพิ่มพลังให้กับชุมนุมคืองานที่สูงส่งประการแรกในชีวิตบราห์มินนี้
สำหรับสิ่งนี้เมื่อคนส่วนใหญ่ตรวจสอบยืนยันความถูกต้องในสิ่งใดก็ตาม
และการที่ลูกอยู่ร่วมกับคนส่วนใหญ่ก็คือการเพิ่มพลังของชุมนุม
ในสิ่งนี้อย่าคิดถึงความยิ่งใหญ่ของลูกด้วยความคิดที่ว่า "ความคิดเห็นของฉันนั้นดีมาก"
ต่อให้มันจะดีแค่ไหน หากมันทำลายความเป็นหนึ่งเดียวกันของชุมนุมแล้ว "ความดี"
นั้นก็จะกลายเป็น "เรื่องธรรมดา" ในเวลานั้น
แม้ว่าลูกจะต้องละทิ้งความคิดเห็นของลูก ก็ยังมีโชคอยู่ในการละทิ้งนั้น
ด้วยการทำเช่นนี้จะทำให้ลูกกลายเป็นตัวของความสำเร็จและสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับผู้อื่น
คติพจน์:
เพื่อที่จะประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์ จงเพิ่มสมาธิของจิตใจของลูก
สัญญาณที่ละเอียดอ่อน:
ทำการทดลองกับตัวเองและผู้อื่นด้วยจิตใจของลูกด้วยพลังของโยคะ
ตามเวลาในปัจจุบัน
จงทำงานรับใช้ด้วยจิตใจและคำพูดไปพร้อมๆกัน อย่างไรก็ตาม
การรับใช้ด้วยคำพูดนั้นเป็นเรื่องง่าย แต่การรับใช้ด้วยจิตใจเป็นเรื่องของการใส่ใจ
ดังนั้น
จงมีความคิดที่มีความปรารถนาดีและมีความรู้สึกที่บริสุทธิ์ต่อทุกคนในจิตใจของลูกอยู่เสมอ
ให้มีความใหม่ของความหวานชื่น มีความพอใจ และความง่ายดายในคำพูดของลูก
แล้วลูกจะประสบความสำเร็จในงานรับใช้ที่ลูกทำได้อย่างง่ายดายอยู่เสมอ