14.09.25 Avyakt Bapdada Thai Murli
18.01.2007 Om Shanti Madhuban
เวลานี้
จงทำให้ตนเองหลุดพ้น กลายเป็นนายผู้ประทานการหลุดพ้น
และเป็นเครื่องมือในการให้การหลุดพ้นแก่ทุกคน
วันนี้ บัพดาดา มหาสมุทรแห่งความรัก กำลังมองดูลูกๆที่รักในทุกหนแห่ง
ท่านพอใจที่ได้เห็นลูกสองประเภท ประเภทแรกคือลูกที่หลอมรวมอยู่ในความรัก "เลิฟลีน"
และอีกประเภทหนึ่งคือลูกๆที่น่ารัก
คลื่นแห่งความรักของลูกทั้งสองประเภทได้ไปถึงพ่อก่อนเวลาอมฤต ในหัวใจของลูกทุกคน
เพลง "บาบาของฉัน" กำลังบรรเลงขึ้นโดยอัตโนมัติ
เพลงเดียวกันนี้กำลังบรรเลงอยู่ในหัวใจของบัพดาดา: "ลูกๆของฉัน
ลูกผู้เป็นที่รักของฉัน ลูกผู้เป็นมงกุฎบนศีรษะของบัพดาดา"
วันนี้ เนื่องจากเป็นวันแห่งความทรงจำระลึกถึง
จึงเกิดคลื่นแห่งความรักที่ยิ่งใหญ่ขึ้นในจิตใจของทุกคน
พวงมาลัยไข่มุกแห่งความรักของลูกๆ มากมายถูกนำมาสวมรอบคอของบัพดาดา
พ่อก็สวมพวงมาลัยแห่งอ้อมแขนอันเปี่ยมด้วยความรักของท่านรอบๆลูกของท่านเช่นกัน
ลูกทุกคนได้หลอมรวมในอ้อมแขนที่ไม่มีขีดจำกัดของบัพดาดาที่ไม่มีขีดจำกัด วันนี้
ทุกคนได้มาถึงที่นี่ในเครื่องบินแห่งความรัก และลูกๆจากแดนไกลเช่นกัน
ก็ได้มาถึงที่นี่ในรูปที่ละเอียดอ่อน ในรูปดุจเทวดานางฟ้า
ด้วยเครื่องบินแห่งจิตใจของพวกเขา
วันนี้บัพดาดากำลังให้การระลึกถึงสำหรับวันแห่งความทรงจำระลึกถึงและวันแห่งพลังแก่ลูกๆทุกคนหลายล้านเท่า
วันนี้เตือนลูกถึงความตระหนักรู้ (ความจำ) มากมายหลายรูปแบบ
และแต่ละความตระหนักรู้จะทำให้ลูกมีพลังในหนึ่งวินาที
รายการของความจำเหล่านั้นจะเข้ามาในความตระหนักรู้ของลูกในหนึ่งวินาทีใช่หรือไม่?
ทันทีที่ความตระหนักรู้นั้นปรากฏขึ้นต่อหน้าลูก ลูกจะมีความซาบซึ้งของการมีพลัง
ลูกจำรูปแรกของความตระหนักรู้ได้ไหม? เมื่อลูกได้มาเป็นของพ่อ
ท่านเตือนความจำลูกถึงความตระหนักรู้อะไร?
ว่าลูกเป็นดวงวิญญาณผู้มีโชคในวงจรก่อนหน้านี้
ลูกจำได้ไหมว่าการเปลี่ยนแปลงใดเกิดขึ้นกับความตระหนักรู้รูปแบบแรกนี้?
ด้วยการมีจิตสำนึกเป็นดวงวิญญาณลูกก็กลับมาซาบซึ้งในความรักของพระเจ้าผู้เป็นพ่อ
เพราะเหตุใดลูกถึงซาบซึ้ง? คำพูดแรกของความรักที่ปรากฏออกมาจากหัวใจของลูกคืออะไร?
"บาบาที่แสนหวานของฉัน"
แล้วความซาบซึ้งที่ลูกมีเมื่อคำพูดที่มีคุณค่าดุจทองคำเหล่านี้ปรากฏขึ้นมาคืออะไร?
ด้วยการพูด ด้วยความรู้ และด้วยการยอมรับ "บาบาของฉัน"
การได้มาซึ่งการบรรลุผลทั้งหมดก็กลายเป็นการบรรลุผลของลูก ลูกมีประสบการณ์นี้ใช่ไหม?
การกล่าวว่า "บาบาของฉัน" ทำให้การบรรลุผลมากมายกลายเป็นของลูก ที่ใดมีการบรรลุผล
ลูกไม่จำเป็นต้องใช้ความพยายามในการจดจำระลึกถึง
แต่ที่นั่นมีการจดจำระลึกถึงโดยอัตโนมัติและอย่างง่ายดาย
เพราะการบรรลุผลนั้นเป็นของลูก สมบัติที่มีค่าของพ่อก็กลายเป็นสมบัติที่มีค่าของลูก
ที่ใดที่ลูกมีสำนึกของ "ของฉัน" ลูกไม่จำเป็นต้องใช้ความพยายามในการจดจำระลึกถึง
ที่นั่นมีการจดจำระลึกถึงโดยธรรมชาติ สิ่งที่เป็น "ของฉัน" นั้นยากที่จะลืม
ไม่ใช่ยากที่จะจดจำ ลูกสัมผัสได้ว่าร่างกายของลูกเป็นของลูก
ดังนั้นลูกสามารถลืมร่างกายนั้นได้หรือไม่? ลูกต้องใช้ความพยายามที่จะลืมมัน
เพราะเหตุใด? เพราะมันคือ "ของฉัน" ดังนั้น ที่ใดมีจิตสำนึกของ "ของฉัน"
การจดจำระลึกถึงก็จะง่ายดาย ดังนั้น
ความตระหนักรู้ของลูกจึงทำให้ลูกกลายเป็นดวงวิญญาณที่ทรงพลัง วลีเดียวที่ว่า "บาบาของฉัน"
ทำให้เกิดสิ่งนี้ ลูกทำให้ผู้ประทานโชค
ผู้ประทานสมบัติที่มีค่าที่ไม่มีขีดจำกัดเป็นของลูก
ลูกคือลูกที่ทำสิ่งมหัศจรรย์เช่นนี้ใช่หรือไม่?
ลูกประกาศสิทธิ์ในการได้รับการหล่อเลี้ยงจากพระเจ้า
การหล่อเลี้ยงโดยตรงจากพระเจ้านี้ได้รับเพียงครั้งเดียวในทั้งวงจร
ลูกได้รับการหล่อเลี้ยงจากดวงวิญญาณทั้งหลายและดวงวิญญาณเทพตลอดเวลา
แต่การหล่อเลี้ยงจากพระเจ้าได้รับพียงในชาติเกิดเดียวนี้เท่านั้น
ดังนั้น ในวันแห่งความทรงจำระลึกถึงและวันแห่งพลังนี้
ลูกจึงจดจำระลึกถึงความซาบซึ้งและความสุขของการหล่อเลี้ยงของพระเจ้าได้อย่างง่ายดายใช่หรือไม่?
นั่นเป็นเพราะบรรยากาศในวันนี้เป็นบรรยากาศของการจดจำระลึกถึงที่ง่ายดาย ดังนั้น
ในวันนี้ ลูกอยู่อย่างเป็นโยคีที่ง่ายดาย
หรือลูกต้องต่อสู้รบราเพื่อให้มีการจดจำระลึกถึงในวันนี้ด้วย?
วันนี้กล่าวได้ว่าเป็นวันแห่งความรักใช่ไหม?
ดังนั้นความรักทำให้ลูกไม่ต้องพยายามอีกต่อไป ความรักทำให้ทุกสิ่งง่ายดาย
ดังนั้นในวันนี้ ลูกอยู่อย่างเป็นโยคีที่ง่ายดายเป็นพิเศษ
หรือมีความยากลำบากใดๆบ้างไหม? ผู้ที่เผชิญความยากลำบากในวันนี้ ยกมือขึ้น!
ไม่มีใครยากลำบากใดๆเลยหรือ? ลูกทุกคนอยู่อย่างเป็นโยคีที่ง่ายดายหรือไม่? อัจชะ
ผู้ที่อยู่อย่างเป็นโยคีที่ง่ายดาย ยกมือขึ้น! (ทุกคนยกมือ) อัจชะ
ลูกอยู่อย่างเป็นโยคีที่ง่ายดายหรือไม่? วันนี้ลูกได้กล่าวคำอำลากับมายาแล้ว
วันนี้มายาไม่ได้มาหรือ? ลูกได้กล่าวคำอำลากับมายาสำหรับวันนี้แล้วหรือยัง? โอเค
ลูกได้กล่าวคำอำลามายาสำหรับวันนี้แล้ว ขอแสดงความยินดี
หากลูกอยู่อย่างหลอมรวมในการจดจำระลึกถึงในทำนองเดียวกัน
ลูกก็จะได้กล่าวคำอำลาต่อมายาไปตลอดกาล เพราะ 70 ปีกำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว ดังนั้น
บัพดาดาจึงปรารถนาที่จะเฉลิมฉลองปีนี้ให้เป็นปีพิเศษ ปีแห่งการมีความรักต่อทุกคน
ปีที่เป็นอิสระจากความเพียรพยายาม และปีที่เป็นอิสระจากปัญหา
ลูกทุกคนชอบสิ่งนี้หรือไม่? ลูกชอบไหม?
ลูกจะเฉลิมฉลองปีนี้อย่างเป็นปีแห่งการหลุดพ้นไหม?
ลูกต้องการไปยังดินแดนแห่งการหลุดพ้น
ดังนั้นลูกจึงต้องทำให้ดวงวิญญาณที่ไร้ความสงบมากมายที่กำลังประสบกับความทุกข์ได้รับการหลุดพ้นโดยการกลายเป็นมิตรร่วมทางของพ่อผู้ประทานการหลุดพ้น
เพียงเมื่อลูกซึ่งเป็นนายผู้ประทานการหลุดพ้นทำให้ตนเองเป็นอิสระแล้วเท่านั้น
ลูกจึงจะสามารถเฉลิมฉลองปีแห่งการหลุดพ้นได้ ลูกดวงวิญญาณบราห์มินทั้งหลาย
ตัวลูกเองต้องกลับมาเป็นอิสระและเป็นเครื่องมือในการให้การหลุดพ้นแก่คนอื่นๆมากมาย
ภาษาประเภทหนึ่งที่ผูกมัดลูกไว้ แทนที่จะทำให้ลูกเป็นอิสระ
กลับทำให้ลูกต้องขึ้นอยู่กับปัญหา คือ "มันไม่ใช่อย่างนี้ มันเป็นอย่างนั้น
มันไม่ใช่อย่างนั้น มันเป็นอย่างนี้" เมื่อปัญหาเกิดขึ้นมา ลูกก็พูดว่า "บาบา
มันไม่ใช่อย่างนี้ มันเป็นอย่างนั้น ไม่เช่นนั้นมันคงไม่เป็นอย่างนั้นหรอก"
เหล่านั้นคือเกมของการหาข้ออ้างข้อแก้ตัว
บัพดาดาได้เห็นแฟ้ม(ไฟล์)ของทุกคนแล้ว แล้วท่านเห็นอะไรในแฟ้มเหล่านั้น?
สำหรับส่วนใหญ่ แฟ้มนั้นเต็มไปด้วยกระดาษที่เขียนคำสัญญาไว้ ในช่วงเวลาที่ทำสัญญา
ลูกทำสัญญาด้วยหัวใจของลูก ลูกแม้กระทั่งคิดเกี่ยวกับสิ่งนั้น แต่จนถึงตอนนี้
เห็นได้ว่าแฟ้มนั้นยังคงใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และยังไม่เป็นที่สิ้นสุด
สำหรับคำสัญญาที่มั่นคง มีคำกล่าวไว้ว่า: แม้ว่าจะต้องตาย ก็ต้องไม่ผิดคำสัญญา
ดังนั้น วันนี้ บัพดาดาได้เห็นแฟ้มของทุกคนแล้ว
ลูกทุกคนได้ให้คำสัญญาที่ดีไว้มากมาย
ลูกได้ให้คำสัญญาไว้ในจิตใจและเขียนลงไปด้วยเช่นกัน แล้วปีนี้ลูกจะทำอย่างไร?
ลูกจะเพิ่มแฟ้ม หรือลูกจะทำให้คำสัญญานั้นเป็นที่สิ้นสุด ลูกจะทำอย่างไร
ผู้ที่นั่งแถวหน้า พันดาวาส พูดซิ! ผู้เป็นครู พูดซิ!
ปีนี้ลูกจะทำให้แฟ้มที่อยู่กับบัพดาดาซึ่งใหญ่ขึ้นนั้นเป็นที่สิ้นสุดหรือไม่?
หรือลูกจะเพิ่มกระดาษอื่นๆอีกในปีนี้ด้วย? ลูกจะทำอย่างไร? พูดซิ พันดาวาส
ลูกจะทำให้มันเป็นที่สิ้นสุดไหม? ผู้ที่รู้สึกว่า แม้จะต้องก้มหัวลง
ถ้าลูกต้องเปลี่ยนแปลง แม้ว่าลูกจะต้องอดทนหรือรับฟังสิ่งอื่นๆ
ที่ลูกก็ต้องเปลี่ยนแปลง ยกมือขึ้น! ดูสิ บันทึกภาพของทุกคนลงบนทีวี! ถ่ายรูปทุกคน
มีทีวี (กล้อง) 2, 3, 4 เครื่อง ถ่ายรูปจากทุกด้าน! เก็บบันทึกนี้ไว้!
ถ่ายภาพเหล่านี้ไว้แล้วมอบให้กับพ่อ! คนทีวีอยู่ไหน?
บัพดาดาก็ควรได้ประโยชน์จากแฟ้มเช่นกัน ขอแสดงความยินดี! ขอแสดงความยินดี!
ลูกสามารถปรบมือให้ตัวเองได้
ดูสิ ด้านหนึ่งมีวิทยาศาสตร์ อีกด้านหนึ่งมีการคอร์รัปชั่น อีกด้านหนึ่งมีบาป
และสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดก็ยังคงเติบโตขึ้นเรื่อยๆในแบบของตัวเอง
มีแผนการใหม่ๆมากมายที่ถูกทำขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ลูกคือลูกของผู้สร้างโลก
ดังนั้นในปีนี้ จงนำความใหม่นี้มาใช้เพื่อให้คำสัญญาของลูกมั่นคง
เพราะทุกคนต้องการให้การเปิดเผยเกิดขึ้น มีค่าใช้จ่ายมากมายที่เกิดขึ้น
มีโปรแกรมใหญ่ๆมากมายจัดขึ้นในหลายๆแห่ง แต่ละวิงของกลุ่มวิชาชีพก็ทำงานได้ดีมาก
แต่เวลานี้ในปีนี้ จงเพิ่มสิ่งนี้เข้าไปด้วย: ไม่ว่าลูกจะทำงานรับใช้อะไรก็ตาม
ตัวอย่างเช่น ลูกอาจจะทำงานรับใช้ด้วยคำพูด
ดังนั้นอย่าให้เป็นเพียงแค่การรับใช้ด้วยปากของลูกเท่านั้น
แต่ให้มีการรับใช้ด้วยความคิด คำพูด
และการกระทำของลูกที่เต็มไปด้วยความรักและความร่วมมือด้วย
ให้การรับใช้ทั้งสามประเภทเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน ไม่ควรแยกกัน
จะเห็นได้ว่าในการรับใช้ประเภทหนึ่ง ไม่มีผลลัพธ์ที่บัพดาดาปรารถนาจะเห็น
ลูกก็ต้องการให้การเปิดเผยเกิดขึ้นเช่นกัน และจนถึงตอนนี้ ผลลัพธ์นี้ก็ถือว่าดี
เป็นผลลัพธ์ที่ดีมากเมื่อเทียบกับครั้งก่อน ทุกคนที่มาร่วมงานต่างพากันพูดว่า "นี่เป็นสิ่งที่ดี
นี่เป็นสิ่งที่ดี มันดีมาก" อย่างไรก็ตาม
การที่จะเป็นสิ่งที่ดีนั้นหมายถึงการที่การเปิดเผยจะเกิดขึ้น ดังนั้น
เวลานี้ให้เพิ่มสิ่งนี้เข้าไปด้วยว่า ในเวลาเดียวกัน
ลูกต้องมีความรักและให้ความร่วมมือด้วยความคิด คำพูด และการกระทำของลูกด้วย
จงมอบสิ่งนี้ให้กับมิตรร่วมทางทุกคน
ไม่ว่าจะเป็นมิตรร่วมทางที่เป็นบราห์มินหรือเป็นบุคคลภายนอกซึ่งเป็นเครื่องมือในการทำงานรับใช้
การให้ความรักและความร่วมมือหมายถึงการประกาศสิทธิ์ในอันดับหนึ่งในงานรับใช้ที่กระทำผ่านการกระทำ
อย่าพูดภาษาว่า "สิ่งนี้เกิดขึ้นเช่นนี้ และนี่คือเหตุผลที่ฉันต้องทำเช่นนั้น"
แทนที่จะให้ความรัก บางครั้งลูกก็มีสิ่งอื่นที่จะพูด และบาบาไม่ได้ใช้คำเหล่านั้น "ฉันต้องทำสิ่งนี้
ฉันต้องพูดสิ่งนี้ ฉันต้องพิจารณาสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด" อย่าให้เป็นเช่นนั้น
เป็นเวลาหลายปีแล้วที่เห็นว่าบัพดาดาได้ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น
มันจะยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกนานแค่ไหน? “ไม่ใช่อย่างนี้ แต่เป็นอย่างนั้น”?
ในการสนทนาจากใจถึงใจกับบัพดาดา ส่วนใหญ่มักพูดว่า "บาบา
เมื่อไรท่านจะเปิดม่านเสียที? จะเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกนานแค่ไหน?" บัพดาดาถามลูกว่า:
ภาษาเก่าๆ วิถีเก่าๆ
ของความไม่ระมัดระวังและความขมขื่นนี้จะยังคงอยู่ต่อไปอีกนานแค่ไหน?
บัพดาดาก็มีคำถามเช่นกันว่า อีกนานแค่ไหน? หากลูกตอบมา
บัพดาดาก็จะตอบว่าการทำลายล้างจะเกิดขึ้นเมื่อใดเช่นกัน
บัพดาดาสามารถเปิดม่านของการทำลายล้างได้แม้ในขณะนี้ วินาทีนี้ แต่ก่อนอื่น
ผู้ที่จะปกครองที่นั่นควรจะพร้อม ดังนั้น
เมื่อลูกเตรียมการในเวลานี้แล้วเท่านั้นลูกจึงจะทำให้ความสมบูรณ์ใกล้เข้ามา
ในแง่ของความอ่อนแอใดๆ อย่าหาข้ออ้างหรือให้เหตุผลใดๆ จงหาทางแก้ไข ลูกพูดว่า "เพราะเหตุนี้..."
บัพดาดาเฝ้าดูเกมของลูกๆตลอดทั้งวัน ท่านมีความรักต่อลูกๆ
ดังนั้นท่านจึงเฝ้าดูเกมซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่เรื่อยๆ ทีวีของบัพดาดานั้นใหญ่มาก
สามารถมองเห็นโลกได้ในเวลาเดียวกัน สามารถมองเห็นลูกๆจากทุกหนแห่งได้
ไม่ว่าจะเป็นอเมริกาหรือกุร์เกาน์ ทุกสิ่งก็มองเห็นได้
ดังนั้นบัพดาดาจึงเห็นเกมมากมาย ภาษาของ 'การผัดวันประกันพรุ่งหรือเลื่อนออกไป'
นั้นดีมาก "มีเหตุผลนี้, บาบา; ไม่ใช่ความผิดของฉัน คนนั้นทำอย่างนั้น..." โอเค
คนนั้นทำอย่างนั้น แต่ลูกหาทางแก้ไขสิ่งนั้นได้ไหม?
ลูกปล่อยให้ข้ออ้างนั้นยังคงเป็นข้ออ้าง
หรือลูกเปลี่ยนข้ออ้างนั้นให้กลายเป็นวิธีแก้ปัญหา? ทุกคนถามว่า "บาบา
ความหวังของท่านคืออะไร?" ดังนั้น บัพดาดาจึงบอกลูกถึงความหวังของท่าน:
บัพดาดามีความหวังเพียงอย่างเดียวคือ: วิธีแก้ปัญหาควรจะมองเห็นได้ชัด
และเหตุผลและข้ออ้างควรจะต้องจบสิ้นลง
ให้ปัญหาจบสิ้นลงและสิ่งต่างๆได้รับการแก้ไขต่อไปเรื่อยๆ สิ่งนี้เป็นไปได้ไหม?
ผู้ที่อยู่ในแถวแรก เป็นไปได้ไหม? อย่างน้อยก็พยักหน้า ผู้ที่นั่งข้างหลัง
เป็นไปได้ไหม? (ทุกคนยกมือขึ้น) อัจชะ ดังนั้นหากบัพดาดาเปิดทีวีของท่านพรุ่งนี้...
ท่านจะดูทีวีอย่างแน่นอนใช่ไหม? ดังนั้นหากบัพดาดาดูทีวีพรุ่งนี้
ไม่ว่าจะเป็นในต่างประเทศหรือในอินเดีย ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านเล็กๆหรือรัฐใหญ่ๆ
ก็จะไม่มีเหตุผลหรือข้ออ้างใดๆให้เห็นที่ไหนเลยใช่ไหม? ลูกแน่ใจหรือไม่?
ลูกไม่ได้พูดว่า "ใช่แน่ใจ" สำหรับสิ่งนี้ จะมีเหตุผลหรือข้ออ้างใดๆหรือไม่?
ยกมือขึ้น! ลูกยกมือได้ดีมาก บัพดาดารู้สึกพอใจ
เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ที่ทำให้ลูกยกมือขึ้น ลูกๆรู้วิธีทำให้บาบาพอใจ
บัพดาดาเห็นและคิดว่า หนึ่งกำมือจากหลายล้าน
และจำนวนน้อยนิดจากหนึ่งกำมือนั้นได้กลายมาเป็นเครื่องมือ
แล้วใครเล่านอกจากลูกๆที่จะทำอะไรบางอย่าง? ลูกคือคนที่ต้องทำสิ่งนี้
บัพดาดามีความหวังในตัวลูกๆ คนอื่นๆที่จะมาก็จะโอเคเมื่อได้เห็นสภาพของลูก
พวกเขาไม่ต้องพยายามเลย
ลูกกลายเป็นสิ่งนี้เพราะลูกทุกคนได้สัญญากับพ่อไว้ตั้งแต่ช่วงเวลาที่ลูกถือกำเนิดมาว่า
ลูกจะอยู่ด้วยกัน จะกลายเป็นมิตรร่วมทางและกลับบ้านด้วยกัน
และไปสู่อาณาจักรกับพ่อบราห์มา ลูกสัญญาสิ่งนี้ไว้ใช่ไหม?
ในเมื่อลูกจะอยู่ด้วยกันและกลับไปด้วยกัน
ลูกก็เป็นมิตรร่วมทางในงานรับใช้ด้วยกันใช่ไหม?
แล้วตอนนี้ลูกจะทำอย่างไรต่อไป? ลูกยกมือขึ้นได้ดีมาก บัพดาดารู้สึกพอใจ
แต่เมื่อใดก็ตามที่มีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้น จงจำวันนี้ วันที่นี้ และเวลานี้
และสิ่งที่ลูกยกมือขึ้น ลูกจะได้รับความช่วยเหลือ ลูกต้องกลายเป็นสิ่งนี้ เวลานี้
จงเป็นสิ่งนี้โดยเร็ว ลูกคิดว่าลูกเป็นคนเดียวกันจากวงจรที่แล้ว
ลูกเป็นคนเดียวกันในวงจรนี้ และลูกต้องกลายเป็นเช่นนี้ในทุกวงจร
สิ่งนี้มั่นคงใช่หรือไม่? หรือว่าลูกจะกลายเป็นสิ่งนี้สองปี
แล้วในปีที่สามลูกก็จะจากไป? มันจะไม่เป็นเช่นนั้น จงจำไว้เสมอว่าลูกคือเครื่องมือ
ลูกคือคนจำนวนน้อยนิดจากหลายล้าน และเป็นเพียงกำมือเดียวจากคนจำนวนน้อยนิดเหล่านั้น
จะมีเพียงไม่กี่คนจากหลายล้านคนที่จะมา
แต่ลูกคือคนเพียงกำมือเดียวจากคนจำนวนน้อยนิดเหล่านั้น
ดังนั้น วันนี้จึงเป็นวันแห่งความรัก! ไม่มีอะไรยากที่จะทำด้วยความรัก
นั่นคือเหตุผลที่บัพดาดาจึงเตือนลูกทุกคนในวันนี้
ชีพบาบามีความสุขมากที่ได้เห็นว่าลูกๆของท่านมีความรักต่อบราห์มาบาบามากแค่ไหน
ในทุกหนแห่ง บาบาเห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนเจ็ดวันหรือเจ็ดสิบปี ในวันนี้
ผู้ที่อยู่ที่นี่มาเป็นเวลาเจ็ดสิบปีหรือแม้กระทั่งเจ็ดวันต่างก็หลอมรวมด้วยความรัก
พ่อชีว่าพอใจอย่างยิ่งที่ได้เห็นความรักที่ลูกๆ มีต่อพ่อบราห์มา
บาบาควรจะบอกข่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับวันนี้แก่ลูกหรือไม่? ในวันนี้
แม้แต่กลุ่มแอดวานซ์ปาร์ตี้ก็ปรากฏตัวต่อหน้าบัพดาดา
แอดวานซ์ปาร์ตี้กำลังระลึกถึงลูกทุกคน: เมื่อไรลูกจะเปิดประตูสู่การหลุดพ้นกับพ่อ?
วันนี้ แอดวานซ์ปาร์ตี้ทั้งหมดกำลังบอกบัพดาดาว่า: บอกวันเวลาให้เรา!
บาบาควรให้คำตอบอย่างไร? พูดซิ! บาบาควรให้คำตอบอย่างไร? ใครที่ฉลาดในการให้คำตอบ?
บัพดาดาตอบว่ามันจะเกิดขึ้นในไม่ช้า แต่พ่อต้องการความร่วมมือของลูกสำหรับสิ่งนี้
ลูกทุกคนจะกลับบ้านกับพ่อใช่ไหม? ลูกคือผู้ที่กำลังจะกลับบ้านกับพ่อ
หรือผู้ที่จะหยุดเป็นระยะๆในขณะที่ลูกไป? ลูกคือผู้ที่จะกลับไปกับพ่อใช่ไหม?
ลูกต้องการที่จะกลับบ้านด้วยกันใช่หรือไม่? ในกรณีนั้น
ลูกจะต้องกลับมาทัดเทียมใช่หรือไม่? หากลูกต้องการกลับบ้านไปด้วยกัน
ลูกจะต้องกลับมาทัดเทียม คำกล่าวที่ว่า “จับมือกัน ทั้งสองเป็นมิตรร่วมทางกัน”
คืออะไร? ดังนั้น 'จับมือกัน' จึงหมายถึงการทัดเทียมกัน ดังนั้น ดาดี้ พูดซิ
จะมีการเตรียมการหรือไม่? ดาดี้ พูดซิ ดาดี้ทั้งหลาย ยกมือขึ้น ดาด้าทั้งหลาย
ยกมือขึ้น ลูกถูกเรียกว่าซีเนียร์ดาด้าใช่ไหม? ดังนั้น ดาดี้ ดาด้า พูดซิ
ลูกมีวันที่หรือยัง? (ถ้าไม่ใช่ตอนนี้ ก็ไม่มีวันอีกแล้ว) หมายความว่าอย่างไร: "ถ้าไม่ใช่ตอนนี้
ก็ไม่มีวันอีกแล้ว" เวลานี้ลูกพร้อมแล้วใช่ไหม? ลูกให้คำตอบได้ดี
สิ่งนี้ต้องเสร็จสมบูรณ์ ลูกแต่ละคน ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่
ควรพิจารณาว่าตนเองมีความรับผิดชอบ อย่าเป็นเด็กในเรื่องนี้
แม้แต่ลูกอายุเจ็ดวันก็ยังมีความรับผิดชอบ ลูกจะกลับบ้านด้วยกันใช่ไหม?
หากพ่อต้องการไปเพียงลำพัง ท่านสามารถทำเช่นนั้นได้ แต่ท่านจะไม่ไปเพียงลำพัง
ลูกต้องไปกับท่าน นี่คือคำสัญญาระหว่างพ่อกับลูกๆ ลูกจะทำตามคำสัญญาของลูกใช่ไหม?
บาบาได้รับจดหมายแห่งความทรงจำระลึกถึง อีเมล และโทรศัพท์มากมายจากทุกหนแห่ง
สิ่งเหล่านี้ได้มาถึงที่นี่ มธุบัน และในอาณาเขตที่ละเอียดอ่อน
ความทรงจำระลึกถึงอันเปี่ยมด้วยความรักในจิตใจของบรรดาผู้เป็นแม่ที่อยู่ในบ่วงพันธะก็มาถึงบัพดาดาเช่นกัน
บัพดาดาระลึกถึงลูกๆ ที่รักยิ่งเหล่านั้นอย่างมาก
และกำลังให้พรแก่พวกเขาด้วยเช่นกัน
ดังนั้น ถึงลูกๆที่รักทั้งหลายในทุกหนแห่ง ทั้งลูกที่น่ารักและ “ลูกที่หลอมรวมในความรัก”
ถึงลูกๆที่เต็มไปด้วยความรู้และพลังที่สะสมหลายล้านในทุกย่างก้าวตามศรีมัตของพ่อ
ถึงลูกๆที่มีความรักและเคารพตนเองอยู่เสมอ และให้ความเคารพผู้อื่นอยู่เสมอ
ถึงลูกๆผู้มีชัยชนะเช่นนั้นซึ่งทำตามศรีมัตของพ่ออย่างสม่ำเสมอ
ถึงลูกๆโยคีที่ง่ายดายซึ่งวางทุกย่างก้าวตามรอยเท้าของบัพดาดาเสมอ รัก ระลึกถึง
และนมัสเตจากบัพดาดา
พร:
ขอให้ลูกพร้อมเสมอ และบนพื้นฐานของการมีเส้นที่ชัดเจน จงสอบผ่านด้วยอันดับหนึ่ง
การมีความพร้อมอยู่เสมอเป็นคุณสมบัติพิเศษของชีวิตบราห์มิน
เส้นของสติปัญญาของลูกจะต้องชัดเจน ที่เมื่อใดก็ตามที่ลูกได้รับสัญญาณจากพ่อ
ลูกก็พร้อมเสมอ ในเวลานั้นไม่ต้องคิดถึงสิ่งใดเลย ทันทีทันใดนั้น ลูกจะถูกถามคำถาม
ลูกจะได้รับคำสั่งให้นั่งลงตรงนี้ และลูกจะได้รับคำสั่งให้ไปที่ไหนสักแห่ง
ในเวลานั้น ลูกต้องไม่จดจำสถานการณ์หรือญาติพี่น้องใดๆ
เพราะนั่นเท่านั้นที่ลูกจะสอบผ่านด้วยเกียรตินิยม อย่างไรก็ตาม ลูกต้องพร้อมเสมอ
เพราะมันจะเป็นข้อสอบแบบทันที
คติพจน์:
เพื่อที่จะทำให้จิตใจของลูกมีพลัง
จงให้การหล่อเลี้ยงของความตระหนักรู้และพลังของพระเจ้าแก่ตัวลูกเอง,ดวงวิญญาณ
สัญญาณที่ละเอียดอ่อน:
เวลานี้จุดไฟแห่งความรักและทำให้โยคะของลูกเป็นภูเขาไฟ
ลูกหลายคนกล่าวว่าเมื่อพวกเขานั่งในการจดจำระลึกถึง แทนที่จะมีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ
พวกเขากลับคิดถึงงานรับใช้ นี่เป็นสิ่งที่ผิด เพราะในช่วงเวลาสุดท้าย
หากแทนที่จะปราศจากร่าง ลูกยังคงคิดถึงงานรับใช้
ลูกก็จะสอบตกในข้อสอบนั้นในหนึ่งวินาที ในเวลานั้น
ลูกต้องจดจำระลึกถึงพ่อและสภาพที่ไม่มีตัวตน ไม่มีกิเลส
และไม่มีความหลงทะนงตนของลูกเท่านั้น ไม่มีอะไรอื่นใดอีก
การคิดถึงงานรับใช้จะทำให้ลูกเข้าสู่รูปกายที่มีตัวตนของลูก
หากลูกไม่สามารถมีสภาพที่ลูกควรจะมีเมื่อใดก็ตามที่ลูกต้องการได้ ลูกจะถูกหลอกลวง