25.10.25       Morning 
Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน 
เป็นเพียงในยุคบรรจบพบกันเท่านั้นที่ลูกต้องทำความเพียรพยายามที่จะกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ 
ลูกไม่ต้องลำบากตรากตรำในลักษณะนี้ในยุคทองหรือยุคเหล็ก
คำถาม:
เหตุใดชื่อของศรีกฤษณะจึงมีชื่อเสียงมากกว่าชื่อพ่อแม่ของเขา?
คำตอบ:
1. 
เพราะไม่มีผู้ใดที่ใช้ชาติเกิดก่อนกฤษณะที่จะถือกำเนิดด้วยพลังของโยคะ 
พ่อแม่ของกฤษณะก็ไม่ได้ถือกำเนิดมาด้วยพลังของโยคะเช่นกัน 2. 
เพียงดวงวิญญาณราเด้และกฤษณะเท่านั้นที่ได้มาซึ่งสภาพที่อยู่เหนือบ่วงกรรมอย่างสมบูรณ์และพวกเขาคือผู้ที่ได้รับการหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์ 
เมื่อดวงวิญญาณบาปไม่หลงเหลืออยู่อีกต่อไป 
กฤษณะจะถือกำเนิดมาในโลกใหม่ที่บริสุทธิ์และสวยงามซึ่งเรียกว่าดินแดนสุขาวดี 3. 
ดวงวิญญาณศรีกฤษณะทำความเพียรพยายามมากที่สุดในยุคบรรจบพบกัน 
เหตุนี้เองชื่อของเขาจึงได้รับการประกาศเกียรติคุณ
โอมชานติ 
พ่อทางจิตนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูกๆ ทางจิตที่สุดแสนหวาน เพียงครั้งเดียวเท่านั้น 
ทุกๆ 5000 ปี ที่ท่านมาและสอนลูกๆ ผู้คนเรียกหา: “ได้โปรดมาและชำระล้างเราผู้ที่ไม่บริสุทธิ์ให้บริสุทธิ์” 
สิ่งนี้พิสูจน์ว่านี่คือโลกที่ไม่บริสุทธิ์ โลกใหม่เป็นโลกที่บริสุทธิ์ 
อาคารใหม่สวยงามและอาคารเก่าทรุดโทรมและพังทลายมันถล่มลงมาท่ามกลางสายฝน 
ลูกๆรู้ว่าเวลานี้พ่อมาเพื่อสร้างโลกใหม่ 
เวลานี้ท่านกำลังสอนลูกและจะสอนลูกอีกครั้งหลังจาก 5000 ปี 
ไม่มีผู้รู้หรือผู้เคร่งศาสนาใดสอนสาวกของเขาในลักษณะนี้ 
เพราะพวกเขาเป็นของหนทางสันโดษ พวกเขาไม่รู้สิ่งนี้และไม่รู้เกี่ยวกับการละเล่น 
ไม่มีใครนอกจากพ่อสามารถบอกลูกถึงความลับของตอนเริ่ม ตอนกลางและตอนจบของโลก 
การกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณที่ลูกๆเห็นว่าเป็นสิ่งที่ยากลำบากเพราะลูกไม่ได้มีสำนึกเป็นดวงวิญญาณมาเป็นเวลาครึ่งวงจร 
พ่อพูดว่า: เวลานี้พิจารณาว่าตนเป็นดวงวิญญาณ 
อย่าคิดว่าดวงวิญญาณเป็นดวงวิญญาณสูงสุด ไม่เลย 
จงพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด ชีวา 
การจาริกแสวงบุญแห่งการจดจำระลึกถึงที่ลูกกลับมาบริสุทธิ์จากไม่บริสุทธิ์คือสิ่งหลัก 
ไม่มีอะไรทางกายภาพเกี่ยวกับสิ่งนี้ ลูกไม่ต้องปิดหูหรือจมูกของลูก 
สิ่งสำคัญคือการพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ 
ลูกได้พัฒนานิสัยของการมีสำนึกที่เป็นร่างมาถึงครึ่งวงจร 
สิ่งแรกเมื่อลูกพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณแล้วลูกจะสามารถจดจำพ่อได้ 
ในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาเช่นกัน ผู้คนร้องเรียกหา: บาบา บาบา ลูกๆ 
รู้ว่าลูกมีพ่อผู้เดียวเท่านั้น-พ่อทางร่าง-ในยุคทอง 
ที่นั่นไม่มีใครจดจำพ่อที่อยู่เบื้องบนเพราะพวกเขามีความสุขที่นั่น 
จากนั้นบนหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา ลูกมีสองพ่อ - ทางร่างและทางจิต 
ทุกคนจดจำพ่อจากเบื้องบนในเวลาของความทุกข์ ไม่มีความเลื่อมใสศรัทธาในยุคทอง 
ที่นั่นลูกได้รับรางวัลของความรู้ ไม่ใช่ว่าลูกมีความรู้นี้ที่นั่น 
ลูกเพียงแค่ได้รับรางวัลของความรู้ที่ลูกศึกษาเวลานี้ พ่อมาเพียงครั้งเดียวเท่านั้น 
เป็นเวลาครึ่งวงจรลูกได้รับมรดกของความสุขจากพ่อที่ไม่มีขีดจำกัด 
แล้วลูกก็ได้รับมรดกชั่วคราวจากพ่อทางร่าง มนุษย์ไม่สามารถอธิบายสิ่งนี้ 
นี่คือสิ่งที่ใหม่ พ่อมาเพียงครั้งเดียวเท่านั้นในรอบ 5000 ปี ในยุคบรรจบพบกัน 
เมื่อเป็นการบรรจบกันของตอนสิ้นสุดของยุคเหล็กและตอนต้นของยุคทอง 
พ่อมาเพื่อก่อตั้งโลกใหม่อีกครั้ง 
เป็นอาณาจักรของลักษมีและนารายณ์ในโลกใหม่และต่อมาก็เป็นอาณาจักรของรามในยุคเงิน 
รูปภาพของเหล่าเทพทั้งหมดที่ถูกสร้างขึ้นนั้นคือเครื่องประกอบของหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา 
พ่อพูดว่า: จงลืมทั้งหมดนั้น เวลานี้จดจำบ้านและโลกใหม่ของลูก 
หนทางของความรู้คือหนทางแห่งความเข้าใจ ในหนทางนี้ลูกกลับมารู้คิดเป็นเวลาถึง 21 
ชาติเกิด ไม่มีความทุกข์ใดเลยที่นั่น ไม่มีใครในยุคทองที่พูดว่าเขาต้องการความสงบ 
มีคำกล่าวว่า. “ตายดีกว่าที่จะร้องขอสิ่งใด” 
พ่อทำให้ลูกเป็นเทพที่มั่งคั่งเช่นนั้นที่ลูกไม่จำเป็นต้องร้องขอสิ่งใดจากพระเจ้า 
ที่นี่ผู้คนร้องขอพร ดังนั้นผู้คนมากมายจึงไปรับพรเมื่อโป๊ป(พระสันตะปาปา)มา 
โป๊ปทำพิธีแต่งงานให้กับผู้คนมากมาย บาบาไม่ได้ทำสิ่งเหล่านั้น 
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอดีตในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา,เวลานี้ก็กำลังเกิดขึ้นอีกครั้งและจะเกิดซ้ำรอย 
วันแล้ววันเล่าบารัตตกต่ำอย่างมาก 
เวลานี้ลูกอยู่ในยุคบรรจบพบกันและคนอื่นๆอยู่ในยุคเหล็ก จนกว่าพวกเขามาที่นี่ 
ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเวลานี้เป็นยุคบรรจบพบกันหรือยุคเหล็ก 
ในครอบครัวเดียวกัน ลูกๆ 
อาจจะเชื่อว่าตนเองอยู่ในยุคบรรจบพบกันในขณะที่พ่ออาจจะบอกว่าเขาอยู่ในยุคเหล็ก 
แล้วก็มีความยากลำบากมาก มีความซับซ้อนมากมายเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่ม 
ลูกๆที่เป็นของยุคบรรจบพบกัน คือผู้ที่กินอาหารที่บริสุทธิ์ เทพไม่เคยกินหัวหอม ฯลฯ 
เทพเรียกว่าเป็นผู้ปราศจากกิเลส 
ทุกคนในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาได้กลับมาตาโมประธาน พ่อพูดว่า 
เวลานี้จงกลับมาสะโตประธาน 
ไม่มีใครเข้าใจว่าในตอนแรกดวงวิญญาณนั้นสะโตประธานและตอนนี้พวกเขากลับมาตาโมประธาน 
เพราะพวกเขาคิดว่าดวงวิญญาณมีภูมิคุ้มกันต่อผลของการกระทำ 
พวกเขาพูดว่าแต่ละดวงวิญญาณคือดวงวิญญาณสูงสุด พ่อพูดว่า: 
เพียงพ่อเท่านั้นคือมหาสมุทรแห่งความรู้ 
ทุกคนที่เป็นของศาสนาเทพนี้จะมาและจะประกาศสิทธิ์ในมรดกของเขาอีกครั้ง 
เวลานี้ต้นอ่อนกำลังถูกเพาะ 
ลูกสามารถเข้าใจได้เมื่อบางคนไม่มีค่าแก่การประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูง 
บางคนกลับบ้าน, แต่งงานและกลับมาสกปรกต่อไป 
ดังนั้นจึงมีการอธิบายว่าพวกเขาไม่สามารถประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูง 
อาณาจักรกำลังได้รับการก่อตั้ง พ่อพูดว่า: พ่อกำลังทำให้ลูกกลายเป็นราชาเหนือราชา 
ดังนั้นปวงประชาจะต้องถูกสร้างขึ้นมาอย่างแน่นอน 
ลูกจะสามารถได้รับอาณาจักรด้วยวิธีอื่นใดได้อย่างไร? คำพูดเหล่านี้อยู่ในกีตะ 
นี่เรียกว่าเป็นยุคของกีตะ ลูกกำลังศึกษาราชาโยคะ 
ลูกรู้ว่ากำลังมีการวางรากฐานของศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไป 
อาณาจักรสุริยวงศ์และจันทราวงศ์กำลังได้รับการก่อตั้ง 
สกุลบราห์มินได้ถูกก่อตั้งขึ้นและคือบราห์มินที่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของสุริยวงศ์และจันทราวงศ์ 
ผู้ที่ทำความเพียรพยายามอย่างดีมากจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของสุริยวงศ์ 
ผู้ก่อตั้งศาสนาอื่นๆเพียงแค่มาเพื่อก่อตั้งศาสนาของตนเอง 
จากนั้นในเวลาต่อมาดวงวิญญาณของศาสนานั้นก็ตามพวกเขาลงมาเรื่อยๆเมื่อศาสนาของพวกเขาขยายตัวออกไปเรื่อยๆ 
ตัวอย่างเช่น เมล็ดของศาสนาคริสต์คือพระคริสต์ ใครคือเมล็ดของลูก? พ่อ 
เพราะพ่อมาและก่อตั้งสวรรค์ผ่านบราห์มา บราห์มาเรียกว่าเป็นพ่อของปวงประชา (ประชาบิดา) 
เขาไม่ถูกเรียกว่าผู้สร้าง ลูกได้รับการนำมาเลี้ยงดูโดยผ่านเขา 
บราห์มาถูกสร้างขึ้นมาเช่นกันใช่ไหม? พ่อมาและเข้ามาในเขาและสร้างเขา ชีพบาบาพูดว่า: 
ลูกคือลูกของพ่อ บราห์มาพูดว่า:ลูกคือลูกที่มีตัวตนของพ่อ 
ลูกได้กลับมาสกปรกและน่าเกลียด เวลานี้ลูกกลายเป็นบราห์มิน 
ในยุคบรรจบพบกันนี้ที่ลูกทำความเพียรพยายามที่จะกลายเป็นเทพที่สูงส่งที่สุด 
เทพและศูทรไม่ต้องทำความเพียรพยายามนี้ 
ลูกบราห์มินต้องทำความเพียรพยายามเพื่อที่จะกลายเป็นเทพ 
พ่อมาในยุคบรรจบพบกันเท่านั้น ยุคนี้สั้นมากซึงเป็นสาเหตุที่เรียกว่ายุคก้าวกระโดด 
ไม่มีใครรู้สิ่งนี้ พ่อต้องใช้ความพยายามเช่นกัน 
ไม่ใช่ว่าโลกใหม่จะถูกสร้างขึ้นในทันที ต้องใช้เวลาสำหรับลูกที่จะกลายเป็นเทพ 
ผู้ที่ทำกรรมดีย่อมถือกำเนิดในบ้านที่ดี 
เวลานี้ลูกกลับมาสวยงามตามลำดับกันไปตามความเพียรพยายามที่ลูกทำ 
เป็นดวงวิญญาณที่กลายเป็นสิ่งนี้ เวลานี้ลูกดวงวิญญาณกำลังเรียนรู้ที่จะทำกรรมดี 
ดวงวิญญาณนำซันสการ์ที่ดีและไม่ดีของพวกเขาไปกับเขา 
เวลานี้ลูกกำลังกลายเป็นดอกไม้ที่สวยงามและลูกจะถือกำเนิดในบ้านที่ดีต่อไป 
ผู้ที่ทำความเพียรพยายามที่ดีที่นี่จะถือกำเนิดในบ้านที่ดีอย่างแน่นอน 
ท้ายที่สุดแล้วสิ่งนี้ก็ตามลำดับกันไป ลูกถือกำเนิดตามการกระทำที่ลูกทำ 
เมื่อไม่มีผู้ที่ทำกรรมที่ไม่ดีอีกต่อใป สวรรค์จะได้รับการก่อตั้ง 
การคัดเลือกก็จะเกิดขึ้น ทุกคนที่ตาโมประธานจะถูกทำลายและแล้วเทพใหม่จะเริ่มลงมา 
หลังจากผู้ที่คดโกงทั้งหมดถูกทำลายแล้วศรีกฤษณะก็ถือกำเนิดขึ้น 
ยังคงมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆจนกว่าจะถึงเวลานั้น 
กฤษณะจะมาเมื่อไม่มีใครที่สกปรกหลงเหลืออยู่ 
จนกว่าจะถึงเวลานั้นพวกเขาจะยังคงมาและไปอยู่เรื่อยๆ 
พ่อแม่ของกฤษณะจะต้องมีไว้ล่วงหน้าเพื่อรับเขา 
ในเวลานั้นคนดีเท่านั้นที่จะหลงเหลืออยู่ ทุกคนอี่นๆต้องได้จากไปก่อนนั้นแล้ว 
แล้วเมื่อนั้นที่จะเรียกว่าสวรรค์ 
เป็นผู้ที่รอต้อนรับศรีกฤษณะเท่านั้นที่จะหลงเหลืออยู่ 
ลูกจะถือกำเนิดผ่านยาพิษเพราะนี่ยังคงเป็นอาณาจักรของราวัน 
พวกเขาไม่สามารถถือกำเนิดที่บริสุทธิ์ได้ 
มีเพียงศรีกฤษณะเท่านั้นที่สามารถถือกำเนิดที่บริสุทธิ์ในชาติเกิดแรก 
หลังจากนั้นโลกจึงถูกเรียกว่าโลกใหม่ของสวรรค์ 
กฤษณะจะมาในโลกใหม่ที่สวยงามอย่างสมบูรณ์ ชุมนุมราวันจะถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ 
ชื่อของกฤษณะมีชื่อเสียงมากกว่าชื่อพ่อแม่ของเขามาก 
ชื่อของพ่อแม่กฤษณะไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก 
ผู้ที่ใช้ชาติเกิดก่อนกฤษณะไม่ได้ใช้ชาติเกิดด้วยพลังโยคะ 
ไม่ใช่ว่าพ่อแม่ของศรีกฤษณะเกิดมาด้วยพลังโยคะ ไม่เลย 
ถ้าเป็นเช่นนั้นชื่อของเขาก็จะเป็นที่รู้จักด้วยเช่นกัน 
สิ่งนี้พิสูจน์ว่าพ่อแม่ของศรีกฤษณะไม่ได้ทำความเพียรพยายามมากเท่ากันกับที่ศรีกฤษณะได้ทำ 
ลูกจะเข้าใจสิ่งเหล่านี้มากขึ้นเมื่อลูกก้าวหน้าต่อไป 
มีเพียงราเด้และกฤษณะเท่านั้นที่มีสภาพที่อยู่เหนือบ่วงกรรมอย่างสมบูรณ์ 
ทั้งสองคือผู้ที่ไปสู่การหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์เป็นอันดับแรก 
พวกเขาใช้ชาติเกิดเมื่อดวงวิญญาณบาปทั้งหมดไม่หลงเหลืออยู่อีกต่อไป 
จึงเรียกโลกว่าโลกที่บริสุทธิ์ เหตุนี้เองชื่อของศรีกฤษณะจึงเป็นที่รู้จักกันดี 
ชื่อพ่อแม่ของเขาไม่เป็นที่รู้จักกันดี เมื่อลูกก้าวหน้าต่อไป ลูกจะได้นิมิตมากมาย 
ยังคงมีเวลาเหลือ ลูกสามารถอธิบายให้แก่ใครๆได้ว่า “นี่คือสิ่งที่เรากำลังศึกษาเพื่อที่จะเป็น 
เวลานี้อาณาจักรของพวกเขากำลังก่อตั้งขึ้นในโลก จำเป็นต้องมีโลกใหม่สำหรับเรา” 
แต่ลูกยังไม่ถูกเรียกว่าชุมชนเทพ ลูกคือชุมชนบราห์มิน ลูกกำลังจะกลายเป็นเทพ 
เมื่อชุมชนเทพถูกสร้างขึ้น ทั้งดวงวิญญาณและร่างกายของลูกจะบริสุทธิ์ 
ในขณะนี้ลูกอยู่ในยุคบรรจบพบกันและกำลังกลายเป็นผู้ที่สูงส่งที่สุด 
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของการทำความเพียรพยายาม 
ลูกต้องเอาชนะการกระทำที่เป็นบาปด้วยการจดจำระลึกถึง 
ลูกเองก็พูดว่าลูกลืมที่จะมีการจดจำระลึกถึงซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อบาบาไปปิคนิค 
ท่านคิดว่า: บาบาจะพูดว่าอะไรหากฉันไม่อยู่ในการจดจำระลึกถึง? เหตุนี้เองบาบาพูดว่า: 
ให้อยู่ในการจดจำระลึกถึงแม้ขณะที่ลูกกำลังปิคนิค 
จดจำระลึกถึงผู้เป็นที่รักในขณะที่ทำทุกสิ่งและบาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้อง 
ความเพียรพยายามอยู่ในสิ่งนี้ 
ลูกดวงวิญญาณจะกลับมาบริสุทธิ์ด้วยการจดจำรำลึกถึงนี้และลูกจะสะสมทรัพย์สมบัติของความรู้ที่ไม่สูญสลายนี้ 
หากใครบางคนกลับมาไม่บริสุทธิ์แล้วความรู้ทั้งหมดจะไหลออกไป 
ความบริสุทธิ์คือสิ่งหลัก พ่ออธิบายประเด็นที่ดีมาก 
ไม่มีใครอื่นมีความรู้ของตอนเริ่มต้น ตอนกลางและตอนจบของโลก ชุมนุมทางจิตอื่น ฯลฯ 
ทั้งหมดเป็นของหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา 
บาบาได้อธิบายว่าอันที่จริงมีเพียงผู้ที่เป็นของหนทางครอบครัวเท่านั้นที่ควรจะทำความเลื่อมใสศรัทธา 
ลูกมีความแข็งแกร่งมากมาย ลูกได้รับความสุขขณะที่นั่งอยู่ที่บ้าน 
ลูกได้รับพละกำลังมากมายจากพ่อผู้ทรงพลังอำนาจ 
ชันยาสชีเคยมีพละกำลังเช่นกันเมื่อพวกเขาอาศัยอยู่ในป่า 
ตอนนี้พวกเขาได้สร้างแฟลตที่ใหญ่โตให้ตนเองอยู่ พวกเขาจึงไม่มีพละกำลังนั้นอีกต่อไป 
ดั้งเดิมลูกมีพละกำลังของความสุข แต่แล้วสิ่งนั้นก็หายไป 
ในทำนองเดียวกันเริ่มแรกพวกเขาเคยมีพลังของความสงบ แต่พวกเขาไม่มีสิ่งนั้นอีกต่อไป 
ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยพูดสัจจะเมื่อพวกเขาบอกว่าพวกเขาไม่รู้จักผู้สร้างหรือสิ่งสร้าง 
เวลานี้พวกเขาเรียกตนเองว่าพระเจ้า พวกเขาพูดว่า“ชีโวฮัม” พ่ออธิบายว่า: 
เวลานี้ต้นไม้ทั้งต้นนั้นตาโมประธาน 
และเหตุนี้เองพ่อจึงได้มาแล้วเพื่อยกระดับแม้แต่ผู้รู้และผู้เคร่งศาสนา 
โลกนี้ต้องเปลี่ยนแปลง ดวงวิญญาณทั้งหมดจะกลับบ้าน 
ไม่มีแม้แต่ดวงวิญญาณเดียวที่รู้ว่าบทบาทที่ไม่สูญสลายนั้นได้ถูกบันทึกไว้ในแต่ละดวงวิญญาณอย่างไรและจะต้องซ้ำรอยอย่างไร 
ดวงวิญญาณสุดแสนเล็กและบทบาทที่ไม่สูญสลายที่ถูกบันทึกไว้ภายในดวงวิญญาณนั้นจะไม่มีวันถูกทำลาย 
จำเป็นต้องมีสติปัญญาที่บริสุทธิ์มากที่จะเข้าใจสิ่งนี้ 
สิ่งนี้จะเกิดขึ้นเมื่อลูกอยู่อย่างซาบซึ้งในการจาริกแสวงบุญแห่งการทรงจำระลึกถึงเท่านั้น 
ลูกไม่สามารถได้รับสถานภาพโดยไม่ทำความเพียรพยายาม เหตุนี้เองจึงได้รับการจดจำว่า: 
หากลูกปีนขึ้นไป ลูกสามารถลิ้มรสความหวานชื่นของน้ำทิพย์แห่งสวรรค์, แต่... 
มีความแตกต่างอย่างมากระหว่างการเป็นราชาเหนือราชาทั้งปวงที่มีมงกุฎสองชั้นกับการเป็นส่วนหนึ่งของปวงประชา 
มีเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่สอนทุกคน ลูกต้องเข้าใจสิ่งนี้อย่างดีมาก 
บาบาอธิบายซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าการจาริกแสวงบุญแห่งการจดจำระลึกถึงเป็นสิ่งสำคัญ 
พ่อสอนลูกเพื่อที่จะทำให้ลูกกลายเป็นนายของโลก ดังนั้นครูคือกูรูด้วยเช่นกัน 
พ่อคือครูเหนือครูทั้งหมดและพ่อเหนือพ่อทั้งหมด ลูกๆ 
รู้ว่าบาบาของลูกน่ารักอย่างมาก ลูกต้องจดจำพ่ออย่างมาก 
ลูกต้องศึกษาอย่างถูกต้องด้วยเช่นกัน หากลูกไม่จดจำพ่อ 
บาปของลูกไม่สามารถได้รับการปลดเปลื้องได้พ่อจะพาดวงวิญญาณทั้งหมดกลับบ้านกับท่าน 
ร่างกายทั้งหมดจะถูกทำลายและดวงวิญญาณจะกลับบ้านและอาศัยอยู่ในสัดส่วนของศาสนาของพวกเขาเอง 
อัจชะ
ถึงลูกๆ 
ที่สุดแสนหวาม ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ใด้พบพานอีกครั้ง รัก 
ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้าจากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. 
เพื่อที่จะทำให้สติปัญญาของลูกบริสุทธิ์ 
จงอยู่อย่างซาบซึ้งในการจาริกแสวงบุญแห่งการจดจำระลึกถึง 
ด้วยการจดจำผู้เป็นที่รักผู้เดียวในขณะที่ทำทุกสิ่งลูกจะกลายเป็นผู้เอาชนะการกระทำที่เป็นบาป
2. 
ทำความเพียรพยายามในยุคสั้นๆนี้ที่จะเปลี่ยนจากมนุษย์ธรรมดาให้กลายเป็นเทพ 
ทำการกระทำที่ดีและซึมซับซันสการ์ที่ดีและลูกจะไปสู่ครอบครัวที่ดี
พร:
ขอให้ลูกทำงานรับใช้ของการเปลี่ยนบรรยากาศด้วยแสงทางจิตวิญญาณของลูก 
และกลายเป็นตัวแห่งความสำเร็จได้อย่างง่ายดาย
ในโลกทางกายภาพ 
ไม่ว่าลูกจะใช้แสงสีใด บรรยากาศก็จะเป็นเช่นนั้น 
หากเป็นแสงสีเขียวแล้วก็จะมีแสงสีเขียวอยู่ทุกที่ 
เมื่อลูกใช้แสงสีแดงมันก็จะสร้างบรรยากาศแห่งความทรงจำระลึกถึง 
เนื่องจากแสงทางกายภาพสามารถเปลี่ยนบรรยากาศได้ ดังนั้นลูกในฐานะประภาคารแห่งแสง 
ด้วยแสงแห่งความบริสุทธิ์และความสุขของลูกสามารถทำงานรับใช้ของการเปลี่ยนบรรยากาศและกลายเป็นตัวแห่งความสำเร็จ 
มองเห็นแสงทางกายภาพด้วยตาในขณะที่แสงทางจิตวิญญาณจะเป็นที่รู้ได้ด้วยประสบการณ์
คติพจน์:
การสูญเสียเวลาและความคิดของลูกในเรื่องที่ไร้ประโยชน์คือความไม่บริสุทธิ์
สัญญาณที่ละเอียดอ่อน: 
ทำการทดลองกับตัวเองและผู้อื่นด้วยจิตใจของลูกด้วยพลังของโยคะ
การทดลองกับโยคะคือการสามารถใช้สมบัติเพียงเล็กน้อยแต่กลับมีการบรรลุผลที่ยิ่งใหญ่ 
ทำการทดลองด้วยวิธีการใช้แรงกำลังและการมีความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่า 
เช่นที่เวลาและความคิดเป็นสมบัติที่สูงค่า 
ดังนั้นใช้ความคิดน้อยลงและยังมีประสบการณ์ของการบรรลุผลที่มากกว่า 
คนธรรมดาทั่วไปจะประสบความสำเร็จในบางสิ่งได้หลังจากคิดถึงสิ่งนั้นสองถึงสี่นาที 
แต่ลูกจะสามารถได้รับสิ่งนั้นในหนึ่งถึงสองวินาที 
นี้เรียกว่าการประกาศเกียรติคุณที่ยิ่งใหญ่กว่าด้วยการใช้จ่ายที่น้อยกว่า 
ใช้จ่ายน้อยลงและมีการบรรลุผล 100% 
และใช้เวลาและความคิดที่ลูกประหยัดด้วยวิธีนี้ในการรับใช้ผู้อื่น ในการให้ทาน 
และการทำบุญ นี่คือวิธีทดลองกับโยคะ