27.10.25       Morning 
Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน การมีความเปราะบางคือการมีสำนึกที่เป็นร่าง ลูกๆ 
ต้องไม่มีสันสการ์ที่ชั่วร้ายเช่นปีศาจของความบูดบึ้งขึงตึงหรือร้องไห้ใดๆ 
ลูกต้องอดทนต่อความสุขและความทุกข์ ความเคารพและไม่เคารพ
คำถาม:
อะไรคือสาเหตุหลักสำหรับงานรับใช้ที่กลับมาหย่อนยาน?
คำตอบ:
งานรับใช้ที่กลับมาหย่อนยานมาจากสำนึกที่เป็นร่างเมื่อลูกเริ่มมองดูความอ่อนแอของกันและกัน 
การไม่สามารถเข้ากันได้กับใครบางคนก็การมีสำนึกที่เป็นร่างด้วยเช่นกัน 
เป็นเรื่องที่เปราะบางที่จะพูดว่า: ฉันไม่สามารถที่จะอยู่กับคนนั้นคนนี้ได้; 
ฉันไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้ การพูดคำเหล่านี้หมายถึงการกลายเป็นหนามและไม่เชื่อฟัง 
บาบาพูดว่า: ลูกๆ 
ลูกคือกองทัพทางจิตและดังนั้นลูกต้องแสดงตัวทันทีที่ลูกได้รับคำสั่ง 
อย่าได้มีข้ออ้างเกี่ยวกับสิ่งใด
โอมชานติ 
พ่อทางจิตนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูกๆ ทางจิต 
คำสอนแรกที่ลูกได้รับคือพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ 
ปล่อยวางสำนึกที่เป็นร่างและกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ ฉันคือดวงวิญญาณ 
เมื่อฉันกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณเท่านั้นที่ฉันสามารถจดจำพ่อได้ 
นั่นคือหนทางของความไม่รู้ และนี่คือหนทางของความรู้ 
เพียงพ่อผู้เดียวเท่านั้นที่ประทานการหลุดพ้นจากบาปละความไม่บริสุทธิ์ให้แก่ทุกคนด้วยการให้ความรู้นี้ 
ท่านไม่มีตัวตน นั่นคือท่านไม่ได้มีรูปของมนุษย์ 
ไม่มีใครที่มีรูปร่างเป็นมนุษย์ที่สามารถเป็นพระเจ้าได้ ดวงวิญญาณทั้งหมดไม่มีตัวตน 
แต่เนื่องจากการกลับมามีสำนึกที่เป็นร่าง พวกเขาจึงลืมว่าพวกเขาคือดวงวิญญาณ 
พ่อพูดว่า: เวลานี้ลูกต้องกลับบ้าน พิจารณาตนเองเป็นดวงวิญญาณ 
เพียงเมื่อลูกคิดว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อเท่านั้นที่บาปของหลายต่อหลายชาติเกิดของลูกจะถูกเผาไป 
ไม่มีวิธีการอื่นใดที่จะทำสิ่งนี้ 
เป็นดวงวิญญาณที่กลับมาไม่บริสุทธิ์และเป็นดวงวิญญาณที่กลับมาบริสุทธิ์ 
พ่อได้อธิบายแล้วว่าดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์นั้นคงอยู่ในยุคทองและยุคเงิน 
และแล้วกลับมาไม่บริสุทธิ์ในอาณาจักรของราวัน 
ได้มีการอธิบายไว้ในรูปของบันไดด้วยเช่นกันว่าผู้ที่บริสุทธิ์กลับมาไม่บริสุทธิ์ได้อย่างไร 
ห้าพันปีที่แล้วเมื่อลูกดวงวิญญาณอยู่ในอาณาเขตแห่งความสงบ ลูกเคยบริสุทธิ์ 
นั่นถูกเรียกว่าดินแดนนิพพานด้วยเช่นกัน 
ต่อมาภายหลังในยุคเหล็กเมื่อลูกกลับมาไม่บริสุทธิ์ลูกจึงร้องเรียกหา: โอ 
ผู้ชำระให้บริสุทธิ์ได้โปรดมา! พ่ออธิบายว่า: ลูกๆ 
เพียงพ่อเท่านั้นที่สามารถให้ความรู้นี้ของการเปลี่ยนจากไม่บริสุทธิ์ให้บริสุทธิ์ 
และแล้วความรู้นี้จะหายไป พ่อเองต้องมาและให้ความรู้นี้แก่เรา 
ที่นี่มนุษย์ได้สร้างคัมภีร์ศาสนาขึ้นมากมาย ในยุคทองที่นั่นไม่มีคัมภีร์ศาสนา 
ไม่มีร่องรอยของหนทางความเลื่อมใสศรัทธาที่นั่น พ่อพูดว่า: 
ด้วยพ่อเท่านั้นที่ลูกสามารถกลับมาบริสุทธิ์จากไม่บริสุทธิ์ 
โลกที่บริสุทธิ์จะต้องถูกสร้างขึ้นอย่างแน่นอน พ่อมาและสอนราชาโยคะแก่ลูกๆ 
ลูกต้องสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่งด้วยเช่นกัน 
การบูดบึ้งขึงตึงหรือร้องไห้คือการมีธรรมชาติที่ชั่วร้ายเช่นปีศาจ พ่อพูดว่า: ลูกๆ 
ต้องอดทนต่อความสุขและความทุกข์ ความเคารพและความไม่เคารพ ลูกต้องไม่กลับมาเปราะบาง 
การพูดว่า “ฉันไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้” ก็เป็นความเปราะบางด้วยเช่นกัน 
ลูกไม่ควรที่จะมีความคิดใดๆ เช่น “ธรรมชาติของคนนี้เป็นเช่นนี้ คนนี้ก็เป็นเช่นนั้น” 
มีเพียงดอกไม้เท่านั้นที่ควรจะปรากฏออกมาจากปากลูกอย่างสม่ำเสมอ 
อย่าปล่อยให้หนามออกมาจากปากของลูก 
ลูกๆมากมายยังคงปล่อยให้หนามปรากฏออกมาจากปากของพวกเขา 
การกลับมาโกรธใครบางคนคือการเป็นหนามด้วยเช่นกัน ลูกๆหลายคนไม่สามารถเข้ากันได้ 
เนื่องจากสำนึกที่เป็นร่าง ที่พวกเขาจึงเฝ้าแต่มองความอ่อนแอของกันและกัน 
และเหตุนี้เองที่ความอ่อนแอของตัวเขาเองยังคงหลงเหลืออยู่ในตัวพวกเขา 
นี่คือเหตุที่งานรับใช้กลับมาหย่อนยาน 
บาบาเข้าใจว่าสิ่งนี้ก็เกิดขึ้นตามละครเช่นกัน แต่ละคนต้องได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้น 
เมื่อทหารไปสู่สงคราม หน้าที่ของพวกเขาคือการต่อสู้กับศัตรู 
กองทัพก็ถูกเรียกมาเมื่อมีน้ำท่วมหรือความปั่นป่วนบางอย่างด้วยเช่นกัน 
และแล้วกองทัพก็เริ่มทำงานของผู้ใช้แรงงาน รัฐบาลสั่งให้กองทัพขนดินโคลนฯลฯ 
หากบางคนไม่ไปเขาจะถูกยิง ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาล พ่อพูดว่า: 
ลูกถูกผูกที่จะทำงานรับใช้ด้วยเช่นกัน 
ลูกต้องพร้อมที่จะทำงานรับใช้ในทันทีไม่ว่าที่ไหนก็ตามที่พ่อขอให้ลูกไปและทำงานรับใช้ 
หากลูกไม่ยอมรับสิ่งนี้ลูกจะไม่ถูกนับว่าเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพนี้ 
ผู้ที่เป็นเช่นนี้จะไม่สามารถนั่งอยู่ในหัวใจพ่อได้ 
ลูกคือผู้ช่วยของพ่อในการให้สาสน์แก่ทุกคน ยกตัวอย่างเช่น 
เมื่อพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่เปิดที่ไหนสักแห่งอยู่ห่างออกไป 10 ไมล์ 
ลูกยังคงต้องไปและทำงานรับใช้ที่นั่น ลูกต้องไม่คิดเกี่ยวกับเรื่องค่าใช้จ่าย 
ลูกกำลังได้รับคำสั่งจากรัฐบาลสูงสุดเหนือสิ่งใด พ่อผู้ไม่มีขีดจำกัด 
ซึ่งมือขวาของท่านคือดารามราช หากลูกไม่ทำตามศรีมัทของพ่อ ลูกจะแพ้ ศรีมัทกล่าวว่า: 
ทำให้ตาของลูกมีอารยะธรรม มีความกล้าหาญที่จะเอาชนะตัณหาราคะ 
เหล่านี้คือคำสั่งของบาบา หากลูกไม่ทำตามคำสั่งเหล่านั้น ลูกจะถูกบดขยี้โดยสิ้นเชิง 
และแล้วลูกก็จะสูญเสียจากการประกาศสิทธิ์ในอาณาจักรสำหรับ 21 ชาติเกิด พ่อพูดว่า: 
ไม่มีใครนอกจากลูกๆสามารถรู้จักพ่อได้ 
ผู้ที่มาในวงจรก่อนหน้านี้จะค่อยๆปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง 
สิ่งเหล่านี้คือสิ่งใหม่อย่างแน่นอน นี่คือยุคของกีตะ 
แต่ไม่มีการกล่าวถึงยุคบรรจบพบกันในคัมภีร์ศาสนา 
พวกเขาแสดงให้เห็นถึงกีตะในยุคทองแดง 
แต่มันต้องเคยเป็นยุคบรรจบพบกันอย่างแน่นอนเมื่อมีการสอนราชาโยคะ 
สิ่งเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในสติปัญญาของใคร เวลานี้ลูกมีความซาบซึ้งของความรู้นี้ 
ในขณะที่ผู้คนเหล่านั้นมีความซาบซึ้งในหนทางความเลื่อมใสศรัทธา พวกเขาพูดว่า: 
แม้ว่าพระเจ้าจะเคยมา เราก็จะไม่หยุดทำความเลื่อมใสศรัทธา 
ภาพบันไดนี้แสดงการขึ้นลงได้ดีมาก ทั้งๆ ที่เป็นเช่นนั้น 
ดวงตาของผู้คนก็ไม่ได้เปิดขึ้น พวกเขาหมกมุ่นอยู่กับความซาบซึ้งของมายาโดยสิ้นเชิง 
ต้องใช้เวลานานมากก่อนที่ความซาบซึ้งของความรู้นี้จะเพิ่มขึ้น 
ก่อนอื่นใดคุณธรรมที่สูงส่งนั้นเป็นที่ต้องการ ไม่ว่าคำสั่งใดก็ตามที่พ่อให้แก่ลูก 
ลูกต้องไม่มีข้ออ้างใด การพูดว่า “ฉันไม่สามารถทำสิ่งนั้น” คือการไม่เชื่อฟัง 
เมื่อลูกได้รับศรีมัทที่จะทำบางสิ่ง 
ลูกควรเข้าใจว่านั่นคือคำแนะนำที่สูงส่งของชีพบาบา 
ชีพบาบาคือผู้ประทานการหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์ 
ผู้ประทานไม่สามารถให้คำแนะนำที่ผิดได้ พ่อพูดว่า: 
พ่อเข้ามาในผู้นี้ในตอนท้ายของหลายต่อหลายชาติเกิดของเขา 
ดูสิว่าลักษมีล้ำหน้าเขาไปได้อย่างไร 
เป็นที่จดจำกันมาว่าผู้หญิงจะถูกวางไว้ข้างหน้าเสมอ 
อันดับแรกคือลักษมีแล้วจึงเป็นนารายณ์ 
ราชาและราชินีเป็นเช่นไรปวงประชาก็เป็นเช่นนั้น ลูกต้องกลับมาสูงส่งเช่นเดียวกัน 
เวลานี้อาณาจักรของราวันได้ปกคลุมไปทั่วทั้งโลก 
ทุกคนพูดว่าพวกเขาต้องการอาณาจักรของพระเจ้า(ราม) เวลานี้เป็นยุคบรรจบพบกัน 
อาณาจักรของราวันไม่ได้คงอยู่เมื่อเป็นอาณาจักรของลักษมีและนารายณ์ 
ไม่มีใครรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างไร ทุกคนอยู่ในความมืดมิดอย่างสิ้นเชิง 
พวกเขาคิดว่ายุคเหล็กยังอยู่ในวัยเด็กทารกและอยู่ในสภาพที่กำลังคลาน 
ดังนั้นผู้คนจึงนอนหลับใหลที่ลึกมากขึ้น 
เพียงพ่อทางจิตเท่านั้นที่ให้ความรู้ทางจิตนี้แก่ลูกผู้เป็นจิตวิญญาณ 
ท่านสอนราชาโยคะแก่ลูก ศรีกฤษณะไม่สามารถถูกเรียกว่าพ่อทางจิต เขาไม่เคยพูดว่า: โอ 
ลูกๆ ทางจิต! ลูกควรเขียนด้วยเช่นกันว่า: 
พ่อทางจิตที่เต็มไปด้วยความรู้กำลังให้ความรู้ทางจิตนี้แก่ลูกๆ ทางจิต พ่ออธิบายว่า: 
มนุษย์ทุกคนในโลกมีสำนึกที่เป็นร่าง ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาคือดวงวิญญาณ พ่อพูดว่า: 
ดวงวิญญาณไม่สามารถหลอมรวมกันได้ ลูกๆ ได้รับการอธิบายว่า ดาเชร่า 
และดีปาวาลีคืออะไร การกราบไหว้บูชาทั้งหมดฯลฯที่ผู้คนได้ทำคือศรัทธาที่งมงาย 
ถูกเรียกว่าการเล่นกับตุ๊กตา 
นั่นถูกเรียกอีกอย่างว่าการกราบไหว้บูชาก้อนหินด้วยเช่นกัน 
เวลานี้ลูกกำลังกลายเป็นผู้ที่มีเทพปัญญา 
ดังนั้นลูกจะไม่กราบไหว้บูชาก้อนหินอีกต่อไป 
ผู้คนไปและก้มลงเบื้องหน้ารูปบูชาแต่พวกเขาก็ไม่เข้าใจสิ่งใดเลย มีการกล่าวว่า: 
ความรู้ การกราบไหว้บูชา และการวางเฉย 
ความรู้นี้คงอยู่มาเป็นเวลาครึ่งวงจรและแล้วการกราบไหว้บูชาก็เริ่มขึ้น 
เวลานี้ลูกได้รับความรู้นี้ ดังนั้นจึงมีการวางเฉยในความเลื่อมใสศรัทธา 
โลกนี้กำลังเปลี่ยนไป มีความเลื่อมใสศรัทธาในยุคเหล็ก 
ไม่มีความเลื่อมใสศรัทธาในยุคทอง ที่นั่นทุกคนมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา พ่อถามว่า: 
ลูกๆ ทำไมลูกจึงก้มศีรษะของลูก? 
เป็นเวลาครึ่งวงจรที่ลูกได้ถูศีรษะของลูกบนพื้นและใช้เงินทั้งหมดของลูกและไม่ได้มาซึ่งสิ่งใดเลย 
มายาได้ถลกหนังศีรษะของลูกอย่างสมบูรณ์และทำให้ลูกยากจนข้นแค้น 
เวลานี้พ่อมาเพื่อทำให้ศีรษะของทุกคนตั้งตรงขึ้นอีกครั้งหนึ่ง 
เวลานี้ชาวยุโรปบางคนก็ค่อยๆเริ่มเข้าใจทีละน้อยด้วยเช่นกัน 
บาบาอธิบายว่าผู้คนของบารัตได้กลับมาตาโมกุนีอย่างสมบูรณ์ 
ผู้ที่เป็นของศาสนาอื่นจะมาทีหลัง 
ดังนั้นพวกเขาจึงมีประสบการณ์ของความสุขและความทุกข์ที่น้อยลง 
ผู้คนของบารัตมีประสบการณ์ของความสุขและความทุกข์อย่างมากมาย 
ในตอนแรกเริ่มพวกเขามั่งคั่งอย่างมาก พวกเขาเป็นนายของโลก 
ผู้ที่เป็นของศาสนาอื่นไม่ได้มั่งคั่งในตอนเริ่มต้น 
พวกเขาค่อยๆมั่งคั่งทีละน้อยหลังจากที่ศาสนาของพวกเขาแผ่ขยายออกไป 
เวลานี้บารัตกลับมายากจนที่สุด ในบารัตที่มีผู้ที่มีศรัทธาที่มืดบอดงมงาย 
นี่เป็นสิ่งที่กำหนดไว้แล้วในละครเช่นกัน พ่อพูดว่า: 
สิ่งที่พ่อได้ทำให้เป็นสวรรค์เวลานี้กลายเป็นนรก 
ผู้คนที่นี่กลายเป็นผู้ที่มีสติปัญญาเป็นเช่นลิง 
พ่อมาเพื่อทำให้พวกเขามีค่าที่จะนั่งในวัด กิเลสนั้นแข็งแกร่งมาก 
มีความโกรธอย่างมาก ลูกไม่ควรมีความโกรธอยู่ภายในตัวลูก 
กลับมาอ่อนหวานและมีความสงบอย่างสมบูรณ์ อ่อนหวานที่สุด 
ลูกรู้ด้วยเช่นกันว่ามีเพียงกำมือเดียวจากหลายล้านที่ปรากฏตัวเพื่อประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูงศักดิ์ 
พ่อพูด: พ่อมาเพื่อเปลี่ยนลูกจากมนุษย์ธรรมดาไปเป็นนารายณ์ 
ในสิ่งนั้นที่เพชรพลอยหลักทั้งแปดได้รับการจดจำ 
มีเพชรพลอยทั้งแปดกับพ่อที่อยู่ตรงกลางของพวกเขา ทั้งแปดสอบผ่านด้วยเกียรตินิยม 
และนั่นก็ตามลำดับกันไปตามความเพียรพยายามที่พวกเขาทำเช่นกัน 
ต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะตัดสำนึกที่เป็นร่าง 
สำนึกของร่างกายของลูกจะต้องถูกขจัดออกไปอย่างสมบูรณ์ 
บางคนที่มีความเชื่ออย่างมากในความรู้ของธาตุบราห์มก็เป็นเช่นนั้นด้วยเช่นกัน 
พวกเขาละร่างกายของพวกเขาในขณะที่นั่งอยู่ที่ไหนสักแห่ง 
ในขณะที่นั่งอยู่ที่ไหนสักแห่งพวกเขาละร่างของพวกเขาและบรรยากาศก็เงียบอย่างสมบูรณ์ 
ส่วนใหญ่พวกเขาละร่างของเขาในช่วงเวลาที่บริสุทธิ์ในตอนเช้าตรู่ 
ในตอนกลางคืนมนุษย์ทำการกระทำที่สกปรก และในตอนเช้าหลังจากอาบน้ำฯลฯ 
พวกเขาจะเริ่มจดจำระลึกถึงพระเจ้าและกราบไหว้บูชาท่าน พ่อยังคงอธิบายทุกสิ่งต่อไป 
ในงานนิทรรศการฯลฯ ก่อนอื่นใดจงให้คำแนะนำของอัลฟ่า อัลฟ่าเป็นอับดับแรก 
และแล้วก็เป็นเบต้า,อาณาจักร พ่อคือหนึ่งเดียวเท่านั้น ท่านคือผู้ที่ไม่มีตัวตน 
พ่อผู้สร้างนั่งที่นี่และบอกลูกถึงความรู้นี้ของตอนเริ่ม ตอนกลาง 
และตอนจบของสิ่งสร้าง พ่อเดียวกันพูดว่า: จดจำพ่ออย่างสม่ำเสมอ 
ละทิ้งความสัมพันธ์ทางร่างทั้งหมด 
พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำระลึกถึงพ่อผู้เดียวอย่างสม่ำเสมอ 
เมื่อลูกให้คำแนะนำของพ่อแก่พวกเขา จะไม่มีใครกล้าถามคำถาม 
เมื่อพวกเขามีศรัทธาในพ่อแล้วให้บอกพวกเขาว่าเราใช้ 84 ชาติเกิดอย่างไร 
เมื่อพวกเขาเข้าใจวงจรและพ่อแล้ว พวกเขาจะไม่มีคำถามใดๆ เลย 
เมื่อลูกพูดความรู้นี้แก่พวกเขาไปเรื่อยๆโดยไม่ให้คำแนะนำพ่อก่อน 
ลูกจะเสียเวลาอย่างมากและคอของลูกจะติดขัด ก่อนอื่นใด ให้ยกประเด็นของอัลฟ่า 
พวกเขาจะไม่สามารถเข้าใจสิ่งใดได้เลยตราบเท่าที่ลูกพูดไปเรื่อยๆ 
นั่งอยู่กับพวกเขาและอธิบายอย่างช้าๆในวิธีที่ง่ายๆ 
ผู้ที่มีสำนึกเป็นดวงวิญญาณจะสามารถเข้าใจได้เป็นอย่างดี 
ผู้ที่อธิบายได้เป็นอย่างดีควรที่จะให้ความช่วยเหลือแก่พวกเขาที่พิพิธภัณฑ์ใหญ่ 
ออกจากศูนย์ของลูกไปสัก 2 ถึง 3 วันและไปช่วยพวกเขา 
แต่งตั้งใครบางคนให้ดูแลศูนย์ของลูกขณะที่ลูกไม่อยู่ 
หากลูกไม่สามารถทำให้ใครกลายเป็นเช่นเดียวกับลูกและมีค่าที่จะดูแลศูนย์ของลูก 
พ่อจะคิดว่าลูกไม่มีประโยชน์และไม่ได้ทำงานรับใช้ใดๆ ลูกบางคนเขียนถึงบาบาและพูดว่า: 
ฉันสามารถทิ้งงานรับใช้นี้และไปที่นั่นได้อย่างไร? 
บาบากำลังสั่งลูกให้ไปและทำงานรับใช้ในสถานที่เฉพาะที่มีการจัดนิทรรศการ 
ถ้าลูกไม่ได้ทำให้ใครมีค่าที่จะดูแลศูนย์ของลูกและแล้วลูกจะมีประโยชน์อะไร? 
บาบาได้สั่งลูกแล้ว ดังนั้นลูกต้องวิ่งไปที่นั่นอย่างรวดเร็ว 
ครูเช่นนั้นถูกเรียกว่ามหาระตี 
ส่วนที่เหลือทั้งหมดถ้าไม่เป็นกองทัพม้าก็เป็นกองทัพเท้า 
ทุกคนต้องช่วยในการทำงานรับใช้ 
หากลูกไม่ได้ทำให้ใครกลายเป็นเหมือนตัวลูกเองในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาแล้วลูกกำลังทำอะไรอยู่? 
หลังจากเวลาผ่านไปนานมากลูกยังไม่ได้สร้างใครสักคนให้เป็นผู้นำสาสน์ผู้ที่สามารถดูแลศูนย์ได้? 
ผู้คนมากมายหลายประเภทมาที่นี่ 
ดังนั้นลูกต้องใช้ปัญญาที่จะรู้ว่าจะพูดกับพวกเขาอย่างไร 
ลูกต้องฟังมุรลีทุกวันอย่างแน่นอน หากลูกไม่ฟังมุรลี ลูกจะไม่ได้คะแนนการเข้าเรียน 
ลูกๆจะต้องโอบล้อม (ล้อมรอบ) ทั้งโลกไว้ ลูกๆ กำลังรับใช้ทั้งโลก 
การทำให้โลกที่ไม่บริสุทธิ์ให้บริสุทธิ์คือการโอบล้อมโลก 
แสดงหนทางไปสู่ดินแดนของการหลุดพ้นและการหลุดพ้นในชีวิตให้กับทุกคนและปลดปล่อยพวกเขาจากความทุกข์ 
อัจชะ
นเ
ถึงลูกๆ 
ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก 
ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. 
กลายเป็นผู้ที่มีสงบและธรรมชาติที่อ่อนหวานที่สุด อย่าได้กลับมาโกรธ 
ทำให้ดวงตาของลูกมีอารยะธรรมอย่างมาก
2. 
เชื่อฟังคำสั่งของพ่อในทันที 
ทำงานรับใช้ของการทำให้ทั้งโลกบริสุทธิ์จากไม่บริสุทธิ์ นั่นคือการโอบล้อม(ล้อมรอบ)โลกไว้
พร:
ขอให้ลูกเป็นเป็นมหาเวียร์และสัมผัสกับความสุขและความพอใจในสถานการณ์ที่ไม่พอใจด้วยการมีการจดจำระลึกถึงพ่อ
ผู้ที่อยู่ในการจดจำระลึกถึงพ่ออย่างสม่ำเสมอจะอยู่อย่างพอใจในทุกสถานการณ์ 
นี่เป็นเพราะบนพื้นฐานของพลังแห่งความรู้นี้ 
แม้กระทั่งสถานการณ์ที่ใหญ่โตเหมือนกับภูเขาก็มีประสบการณ์ว่าเป็นเหมือนเมล็ดมัสตาร์ด 
เมล็ดมัสตาร์ดนั้นหมายความว่าไม่มีอะไรเลย 
แม้กระทั่งในสถานการณ์ที่ไม่พอใจหรือสถานการณ์ของความทุกข์ 
เมื่อลูกรักษาสภาพของความสุขไว้แล้วลูกก็จะถูกเรียกว่ามหาเวียร์ 
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พร้อมกับ “ไม่มีอะไรใหม่” ด้วยการมีการตระหนักถึงพ่อ 
ลูกสามารถมีสภาพที่สม่ำเสมอและมั่นคง 
และแล้วก็จะไม่มีคลื่นของความทุกข์และความไม่สงบสามารถมาหาลูกได้
คติพจน์:
รักษารูปที่สูงส่งไว้ในสำนึกรู้ของลูกอย่างสม่ำเสมอ 
และจะไม่มีใครสามารถมองลูกในวิธีที่ไร้ประโยชน์ได้
สัญญาณที่ละเอียดอ่อน: 
ทำการทดลองกับตัวเองและผู้อื่นด้วยจิตใจของลูกด้วยพลังของโยคะ
ไฟฟ้า (แสง) 
คือพื้นฐานของการทดลองด้วยพลังของวิทยาศาสตร์ และคอมพิวเตอร์ก็ถูกพิจารณาว่ามีพลัง 
แต่พื้นฐานของมันคือแสง ในทำนองเดียวกัน 
พื้นฐานของพลังของความเงียบของลูกก็คือแสงด้วยเช่นกัน 
เนื่องจากการทดลองหลายประเภทสามารถแสดงให้เห็นได้ในการฝึกปฏิบัติด้วยแสงทางกายภาพ 
เมื่อลูกมีแสงสว่างอันเป็นนิรันดร์ของพระเจ้า แสงแห่งดวงวิญญาณของลูก 
และแสงของสภาพการฝึกปฏิบัติของลูก แล้วลูกไม่สามารถทดลองอะไร