28.10.25       Morning Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban


สาระ:
ลูกๆที่แสนหวาน ลูกต้องกลับมามีค่าควรแก่การยกย่องด้วยการรับใช้ในยุคบรรจบพบกัน แล้วลูกจะกลายเป็นมนุษย์ที่สูงส่งที่สุดและมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาในอนาคต

คำถาม:
ด้วยการจบสิ้นความเจ็บป่วยใดที่ต้นตอของมันที่ลูกสามารถปีนขึ้นไปในหัวใจของพ่อได้?

คำตอบ:
1.ความเจ็บป่วยของสำนึกที่เป็นร่าง เนื่องจากสำนึกที่เป็นร่างนี้ กิเลสทั้งหมดทำให้ลูกป่วยมาก เพียงเมื่อสำนึกที่เป็นร่างนี้จบสิ้นที่ลูกสามารถปีนขึ้นไปในหัวใจของพ่อได้
2. เพื่อที่จะปีนขึ้นไปในหัวใจของพ่อ ทำให้สติปัญญาของลูกกว้างและไม่มีขีดจำกัด และนั่งอยู่บนกองไฟของความรู้ ข้องแวะตนเองในการทำงานรับใช้ทางจิต พร้อมกับการพูดความรู้ จดจำพ่ออย่างดีมาก

เพลง:
ตื่นเถิด! โอ้ เจ้าสาว ตื่นเถิด! วันแห่งความสุขของลูกกำลังจะมาถึง

โอมชานติ
ลูกๆทางจิตที่สุดแสนหวานได้ยินเพลงนี้แล้ว พ่อทางจิตพูดสิ่งนี้ผ่านปากของร่างเก่าที่ธรรมดานี้ พ่อพูดว่า: พ่อต้องเข้ามาในร่างเก่านี้ เข้ามาในอาณาจักรเก่านี้ เวลานี้นี่คืออาณาจักรของราวัน ร่างกายนี้เป็นของคนอื่นเพราะมีดวงวิญญาณอยู่ในร่างนั้นแล้วเมื่อพ่อเข้ามา พ่อเข้ามาในร่างต่างถิ่น หากพ่อมีร่างของพ่อเอง ร่างนั้นก็จะมีชื่อของตนเอง ชื่อของพ่อไม่เคยเปลี่ยน ลูกยังคงเรียกพ่อว่าชีพบาบา ลูกๆได้ยินเพลงเหล่านี้ทุกวัน ยุคใหม่ซึ่งหมายถึงโลกใหม่ยุคทอง กำลังจะมา ใครถูกบอกให้ตื่นขึ้นมา? ดวงวิญญาณ เพราะดวงวิญญาณกำลังหลับใหลอยู่ในความมืดมิดที่สุด พวกเขาไม่รู้สิ่งใดเลย พวกเขาไม่รู้จักแม้กระทั่งพ่อ เวลานี้พ่อได้มาเพื่อปลุกลูกให้ตื่นขึ้น เวลานี้ลูกรู้จักพ่อที่ไม่มีขีดจำกัด ลูกกำลังจะได้รับความสุขที่ไม่มีขีดจำกัดจากท่านในยุคใหม่นั้น ยุคทองเรียกว่ายุคใหม่ ยุคเหล็กเรียกว่ายุคเก่า ผู้รู้และบัณฑิตไม่รู้อะไรเลย หากลูกถามคนใดในพวกเขาว่ายุคใหม่กลับมาเก่าได้อย่างไร ก็ไม่มีใครสักคนในบรรดาพวกเขาจะสามารถบอกลูกได้ พวกเขาพูดว่ามันเป็นเรื่องของหลายแสนปี เวลานี้ลูกเข้าใจว่าลูกเข้ามาสู่ยุคเก่านี้จากยุคใหม่นั้นได้อย่างไร นั่นคือ ลูกได้กลายเป็นชาวนรกจากชาวสวรรค์ได้อย่างไร มนุษย์ไม่รู้สิ่งใดเลย พวกเขาไม่รู้แม้กระทั่งชีวประวัติของผู้ที่พวกเขากราบไหว้บูชา พวกเขากราบไหว้บูชาจักดัมบา แต่พวกเขาไม่รู้ว่าอัมบาคือใคร อันที่จริงแม่เรียกว่าอัมบา แต่ขอให้มีเพียงหนึ่งเดียวผู้ที่ได้รับการกราบไหว้บูชาเท่านั้น มีเพียงอนุสรณ์เดียวที่ไม่มีสิ่งใดเจือปนของชีพบาบาเท่านั้น มีอัมบาเดียวด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่รู้ว่าใครคือจักดัมบา ผู้นี้คือจักดัมบา (แม่ของชาวโลก) และลักษมีคือจักรพรรดินีโลก ลูกรู้ว่าแม่ของชาวโลกคือใคร และใครคือจักรพรรดินีโลก ไม่มีใครอื่นสามารถเข้าใจสิ่งเหล่านี้ ลักษมีเรียกว่าเทพ ในขณะที่จักดัมบาเรียกว่าบราห์มิน บราห์มินดำรงอยู่ในยุคบรรจบพบกันเท่านั้น ไม่มีใครรู้จักยุคบรรจบพบกันนี้ โลกใหม่ที่สูงส่งที่สุดนั้นถูกสร้างขึ้นผ่านประชาบิดาบราห์มา ลูกสามารถมองเห็นมนุษย์ที่สูงส่งที่สุดที่นั่น (ในยุคทอง) ในเวลานี้ลูกบราห์มินมีค่าควรแก่การยกย่อง เวลานี้ลูกคือผู้รับใช้ และแล้วก็จะกลับมามีค่าควรแก่การได้รับการกราบไหว้บูชา บราห์มาถูกแสดงด้วยแขนมากมาย ดังนั้นเหตุใดอัมบาจึงไม่ควรถูกแสดงด้วยแขนมากมายเช่นเดียวกันเล่า? ทุกคนเป็นลูกของเธอเช่นกัน ประชาบิดาก็กลายเป็นแม่และพ่อด้วย ลูกๆไม่ถูกเรียกว่าประชาบิดา ในยุคทองลักษมีและนารายณ์ไม่เคยถูกเรียกว่าแม่ของชาวโลกและพ่อของชาวโลก ชื่อ “ประชาบิดา” นั้นเป็นที่รู้จักกันดีมาก พ่อและแม่ของชาวโลกมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ที่เหลือทั้งหมดคือลูกของท่าน เมื่อลูกไปที่วัดของประชาบิดาบราห์มาในอัจเมียร์ ลูกสามารถเอ่ยถึงท่านว่าบาบาได้ เพราะท่านคือพ่อของมนุษยชาติ พ่อทางร่างสร้างลูกๆ ดังนั้นพวกเขาคือพ่อที่มีขีดจำกัดของผู้คน ผู้นี้ไม่มีขีดจำกัด ชีพบาบาคือพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดของดวงวิญญาณทั้งหมด ลูกๆต้องเขียนเกี่ยวกับความแตกต่างนี้ จักดัมบาและสรัสวตีคือผู้เดียวกัน และกระนั้นก็มีการให้ชื่อไว้มากมาย - ดุรกา กาลี ฯลฯ ลูกทั้งหมดคือลูกๆของอัมบาและบาบา นี่คือสิ่งสร้าง สรัสวตีคือลูกสาวของประชาบิดาบราห์มา และเธอก็ถูกเรียกว่าอัมบาด้วยเช่นกัน ที่เหลือทั้งหมดเป็นลูกชายและลูกสาว และพวกเขาทั้งหมดถูกนำมาเลี้ยง จะมีลูกมากมายขนาดนี้ได้อย่างไร? พวกเขาทั้งหมดคือสิ่งสร้างที่เกิดจากปาก ภรรยาถูกสร้างขึ้นผ่านปากและดังนั้นสามีจึงกลายเป็นผู้สร้าง เขาพูดว่า “ผู้นี้เป็นของฉัน ฉันได้สร้างลูกๆกับเธอ” ทั้งหมดเหล่านี้เกิดจากการนำมาเลี้ยงดู เหล่านี้เป็นสิ่งสร้างทางจิตผ่านปาก ถึงอย่างไรดวงวิญญาณก็มีอยู่แล้ว ไม่ได้ถูกนำมาเลี้ยง พ่อพูดว่า:ลูกๆดวงวิญญาณเป็นลูกๆของพ่อเสมอ พ่อมาและนำลูกๆมาเลี้ยงดูผ่านประชาบิดาบราห์มา ท่านไม่ได้นำดวงวิญญาณมาเลี้ยงดู ท่านนำลูกชายและลูกสาวมาเลี้ยงดู สิ่งเหล่านี้เป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนมากที่ต้องเป็นที่เข้าใจ ด้วยการเข้าใจสิ่งเหล่านี้ ลูกจะเป็นเช่นลักษมีและนารายณ์ เราสามารถอธิบายได้ว่า พวกเขากลายเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร พวกเขาทำการกระทำใดที่พวกเขาได้กลายเป็นนายของโลก? ลูกสามารถถามที่นิทรรศการได้: ท่านรู้ไหมว่าพวกเขาได้รับอาณาจักรสวรรค์ของพวกเขาได้อย่างไร? ไม่ใช่ลูกทุกคนที่จะสามารถอธิบายได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ผู้ที่มีคุณธรรมสูงส่งและอยู่อย่างไม่ว่างเว้นในการทำงานรับใช้ทางจิตสามารถอธิบายได้ ทุกคนอื่นติดกับอยู่ในความเจ็บป่วยของมายา มีความเจ็บป่วยหลายประเภท มีความเจ็บป่วยของสำนึกที่เป็นร่างด้วยเช่นกัน เป็นกิเลสที่ทำให้ลูกป่วย พ่อพูดว่า: พ่อทำให้ลูกเป็นเทพที่บริสุทธิ์ ครั้งหนึ่งลูกเคยเต็มไปด้วยคุณธรรมทั้งหมด บริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์ เวลานี้ลูกได้กลับมาไม่บริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์ พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดพูดสิ่งนี้ นี่ไม่ใช่ประเด็นของการประณามแต่เป็นเพียงการอธิบาย พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดพูดกับชาวบารัตว่า: พ่อมาที่นี่ในบารัต คำสรรเสริญของบารัตนั้นไม่มีขีดจำกัด ท่านมาที่นี่และเปลี่ยนนรกให้เป็นสวรรค์ และประทานความสงบแก่ทุกคน ดังนั้นคำสรรเสริญของพ่อเช่นนั้นก็ไม่มีที่สิ้นสุดเช่นกัน ไม่มีที่สิ้นสุดต่อสิ่งนั้น ไม่มีใครรู้จักจักดัมบาหรือคำยกย่องของเธอ ลูกสามารถแสดงความแตกต่างระหว่างชีวประวัติของจักดัมบาและชีวประวัติของลักษมี จักดัมบากลายเป็นลักษมี แล้วหลังจากใช้ 84 ชาติเกิด ลักษมีก็กลายเป็นจักดัมบาเดียวกันนั้น เก็บรูปภาพประเภทต่างๆไว้ พวกเขาแสดงภาพลักษมีพร้อมกับไห แต่ลักษมีสามารถอยู่ในยุคบรรจบพบกันได้อย่างไร? เธออยู่ในยุคทองเท่านั้น พ่ออธิบายสิ่งทั้งหมดเหล่านี้ ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ทำรูปภาพต้องไตร่ตรองมหาสมุทรแห่งความรู้เช่นกัน แล้วก็จะง่ายดายที่จะอธิบาย เพียงเมื่อลูกมีสติปัญญาที่กว้างและไม่มีขีดจำกัดเท่านั้น ที่ลูกสามารถปีนขึ้นไปในหัวใจของพ่อ ลูกจะสามารถปีนขึ้นไปในหัวใจของพ่อเมื่อลูกจดจำพ่ออย่างดีมาก และนั่งอยู่บนกองไฟของความรู้ ไม่ใช่ว่าผู้ที่สามารถพูดความรู้ได้อย่างดีมากสามารถปีนขึ้นไปในหัวใจของพ่อได้ ไม่เลย พ่อพูด: ลูกจะสามารถปีนขึ้นไปในหัวใจได้ต่างลำดับกันไปในเวลาสุดท้าย เมื่อลูกจบสิ้นสำนึกที่เป็นร่างตามความเพียรพยายามที่ลูกทำ พ่อได้อธิบายว่าผู้ที่มีความรู้ของธาตุบราห์มจะทำความเพียรพยายามอย่างมากที่จะหลอมรวมเข้าไปในสิ่งนั้น แต่ไม่มีใครสามารถหลอมรวมเข้าไปในธาตุบราห์มเช่นนั้นได้ พวกเขาทำความเพียรพยายามและได้รับสถานภาพที่สูง พวกเขากลายเป็นดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่เช่นนั้นที่พวกเขาถูกชั่งน้ำหนักกับทองคำขาว อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ทำความเพียรพยายามจริงที่จะหลอมรวมเข้าไปในธาตุบราห์ม และพวกเขาก็ได้รับผลของความเพียรพยายามของพวกเขา อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่สามารถได้รับการหลุดพ้นหรือการหลุดพ้นในชีวิตได้ ลูกๆรู้ว่าโลกเก่านี้กำลังจะจากไป ระเบิดเหล่านั้นทั้งหมดไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเก็บไว้เฉยๆ ลูกรู้ว่าระเบิดเหล่านั้นจะถูกใช้เพื่อการทำลายล้างโลกเก่า มีระเบิดหลายประเภท เวลานี้พ่อกำลังสอนความรู้และโยคะแก่ลูก แล้วลูกก็จะกลายเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิงที่มีมงกุฎสองชั้น เป็นเทพ สถานภาพใดสูงกว่ากัน? จุกของบราห์มินอยู่บนยอดสุด จุกนั้นสูงสุดที่สุด เวลานี้พ่อมาเพื่อทำให้ลูกๆบริสุทธิ์จากไม่บริสุทธิ์ ลูกมีความซาบซึ้งไหมว่าลูกกำลังจะกลายเป็นผู้ชำระให้บริสุทธิ์เช่นกัน ลูกกำลังทำให้ทุกคนบริสุทธิ์และทำให้พวกเขากลายเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิง? หากลูกจะมีความซาบซึ้งนี้ ลูกก็จะมีความสุขมากมาย ถามหัวใจของลูกว่า กี่คนที่ลูกกำลังทำให้เป็นเหมือนกับตัวลูกเอง ประชาบิดาบราห์มาและจักดัมบานั้นเหมือนกัน พวกเขากำลังสร้างสิ่งสร้างของบราห์มิน เพียงพ่อเท่านั้นที่แสดงวิธีที่จะเปลี่ยนจากศูทรเป็นบราห์มินให้แก่ลูก สิ่งนี้ไม่ได้กล่าวถึงในคัมภีร์ใดๆ นี่คือยุคของกีตะ มีสงครามมหาภารตะอย่างแท้จริง จะมีคนเดียวเท่านั้นไหมที่ได้รับการสอนราชาโยคะ? เหตุนี้เองผู้คนจึงมีเพียงอรชุนและกฤษณะในสติปัญญาของพวกเขา ลูกๆมากมายกำลังศึกษาที่นี่ เพียงแต่ดูว่าลูกกำลังนั่งที่นี่อย่างธรรมดาอย่างไร เด็กเล็กๆศึกษาอัลฟ่าและเบต้า ลูกกำลังนั่งที่นี่และลูกด้วยก็กำลังได้รับการสอนอัลฟ่าและเบต้าเช่นกัน อัลฟ่าคือบาบาและเบต้าคือมรดกของลูก พ่อพูดว่า: จดจำพ่อและลูกจะกลายเป็นนายของโลก อย่าได้ทำการกระทำเช่นปีศาจใด สร้างสมคุณธรรมที่สูงส่ง ตรวจสอบว่าลูกไม่มีข้อบกพร่องใดๆภายในตัวลูก “ฉันปราศจากคุณธรรม ฉันไม่มีคุณธรรม” มีอาศรมชื่อว่านิรคุณอาศรม แต่พวกเขาไม่รู้ความหมายของชื่อนั้น “นิรคุณ” หมายถึง “ฉันไม่มีคุณธรรม” เป็นงานของพ่อที่จะทำให้ลูกมีคุณธรรม พวกเขาได้นำหมวกแห่งสมญาของพ่อไปเพื่อตนเอง พ่ออธิบายสิ่งต่างๆมากมายและให้การกำหนดแก่ลูกเช่นกัน แสดงความแตกต่างระหว่างจักดัมบาและลักษมี บราห์มาและสรัสวตีเป็นของยุคบรรจบพบกัน ในขณะที่ลักษมีและนารายณ์เป็นของยุคทอง รูปภาพเหล่านี้จะถูกใช้เพื่อการอธิบาย สรัสวตีคือลูกสาวของบราห์มา ลูกกำลังศึกษาเพื่อเปลี่ยนจากมนุษย์ธรรมดาไปเป็นเทพ เวลานี้ลูกคือบราห์มิน เทพยุคทองก็เป็นมนุษย์เช่นกัน แต่พวกเขาเรียกว่าเทพ จะเป็นราวกับการดูหมิ่นที่จะเรียกพวกเขาว่ามนุษย์ และเหตุนี้เองพวกเขาจึงถูกเรียกว่าเทพ หรือเทวาและเทวี หากราชาและราชินีถูกเรียกว่าเทวาและเทวี แล้วปวงประชาของพวกเขาก็จะต้องถูกเรียกเช่นนั้นด้วยเช่นกัน เหตุนี้เองพวกเขาจึงถูกเรียกว่าเทพ มีรูปภาพของตรีมูรติด้วยเช่นกัน ในยุคทองมีมนุษย์น้อยมาก ขณะที่ในยุคเหล็กมีมนุษย์มากมาย สิ่งนี้สามารถอธิบายได้อย่างไร? รูปภาพของวงจรเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสิ่งนี้อย่างแน่นอน ลูกเชิญผู้คนมากมายให้มาที่นิทรรศการ กระนั้นก็ยังไม่มีใครเชิญเจ้าหน้าที่ศุลกากร ลูกต้องไตร่ตรองในวิธีนี้ สติปัญญาที่กว้างและไม่มีขีดจำกัดเป็นที่ต้องการสำหรับสิ่งนี้ ขอให้มีความนับถือต่อพ่อ พวกเขาตกแต่งม้าของฮุสเซนอย่างมาก สายคาดบนหัวม้านั้นเล็กมาก ในขณะที่ม้าตัวใหญ่มาก ดวงวิญญาณเป็นเพียงจุดที่เล็กมาก และกระนั้นเครื่องประดับของเขาก็มีขนาดใหญ่มาก นี่คือบัลลังก์ของภาพลักษณ์ที่เป็นอมตะ พวกเขาได้นำประเด็นของการอยู่ในทุกหนแห่งในเวลาเดียวกันมาจากกีตะ พ่อพูดว่า: พ่อกำลังสอนราชาโยคะแก่ลูกดวงวิญญาณ ดังนั้นพ่อจะอยู่ในทุกหนแห่งในเวลาเดียวกันได้อย่างไร? พ่อ ครู และกูรูจะอยู่ในทุกหนแห่งในเวลาเดียวกันได้อย่างไร? พ่อพูดว่า: พ่อคือพ่อของลูกและเป็นมหาสมุทรแห่งความรู้เช่นกัน เมื่อลูกเข้าใจประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ที่ไม่มีขีดจำกัดนี้ ลูกจะได้รับอาณาจักรที่ไม่มีขีดจำกัด ลูกต้องสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่งเช่นกัน มายาบีบจมูกของลูก เมื่อกิจกรรมของบางคนสกปรก เขาเขียนถึงบาบาว่า เขาได้ทำความผิดพลาดเช่นนั้น เขาพูดว่า “ฉันได้ทำให้ใบหน้าของฉันสกปรก” ที่นี่ลูกถูกสอนเรื่องความบริสุทธิ์ ดังนั้นหากบางคนล้มลง พ่อจะสามารถทำอะไรได้เกี่ยวกับสิ่งนี้? หากลูกทำการกระทำที่สกปรกที่บ้านและทำให้ใบหน้าของเขาสกปรก พ่อของเขาจะพูดว่า “มันจะดีกว่าถ้าเธอตายไปซะ!” แม้ว่าพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดจะรู้ว่าสิ่งนี้อยู่ในละคร ท่านก็จะพูดเช่นนี้เช่นกันใช่ไหม? หลังจากให้คำสอนเหล่านี้แก่ผู้อื่น หากตัวลูกเองล้มลง ลูกก็สะสมบาปถึง 1,000 เท่า บางคนพูดว่า: มายาตบตีฉัน มายาชกลูกในวิธีที่ลูกสูญเสียปัญญาทั้งหมดของลูกไปอย่างสิ้นเชิง พ่อเฝ้าแต่อธิบายว่า: ดวงตาเหล่านั้นหลอกลวงลูกอย่างมาก อย่าได้ทำการกระทำบาปใดๆ พายุมากมายจะมาเพราะลูกอยู่ในสนามรบ ลูกไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น มายาตบตีลูกอย่างรวดเร็ว เวลานี้ลูกกำลังกลับมารู้คิด เป็นดวงวิญญาณที่กลับมารู้คิด และเป็นดวงวิญญาณที่เคยไม่รู้คิด เวลานี้พ่อกำลังทำให้เรารู้คิด หลายคนยังคงมีสำนึกที่เป็นร่าง พวกเขาไม่เข้าใจว่าพวกเขาคือดวงวิญญาณ พ่อกำลังสอนเราดวงวิญญาณ ฉันดวงวิญญาณรับฟังผ่านหูเหล่านี้ พ่อพูดว่า: อย่าปล่อยให้หูของลูกได้ยินสิ่งใดที่มีกิเลส พ่อกำลังทำให้ลูกกลายเป็นนายของโลก นี่คือจุดหมายปลายทางที่สูงมาก ขณะที่ความตายเข้ามาใกล้มากขึ้น ลูกก็จะหวาดกลัว เมื่อบางคนกำลังจะตาย เพื่อนฝูงและญาติมิตรของเขาบอกเขาว่า “จดจำพระเจ้า” หรือ “จดจำกูรูของเธอ” พวกเขาสอนลูกให้จดจำผู้มีร่างกาย พ่อพูดว่า: จดจำพ่อผู้เดียวอย่างสม่ำเสมอ สิ่งนี้อยู่ในสติปัญญาของลูกๆ พ่อออกคำสั่งให้ลูกๆจดจำท่านผู้เดียวอย่างสม่ำเสมอ อย่าจดจำผู้มีร่างกาย แม่และพ่อก็เป็นผู้มีร่างกายด้วยเช่นกัน พ่อนั้นปราศจากภาพลักษณ์อย่างสมบูรณ์ พ่อปราศจากร่างกาย พ่อนั่งในผู้นี้และให้ความรู้นี้แก่ลูก เวลานี้ลูกกำลังเรียนความรู้นี้และโยคะ ลูกพูดว่าลูกกำลังเรียนความรู้นี้จากพ่อ มหาสมุทรแห่งความรู้เพื่อที่จะกลายเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิง มหาสมุทรแห่งความรู้สอนความรู้นี้แก่ลูกและสอนราชาโยคะแก่ลูกด้วยเช่นกัน อัจชะ

ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต

สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. กลับมารู้คิดและไม่เคยพ่ายแพ้ต่อพายุของมายา ดวงตาของลูกหลอกลวงลูกและดังนั้นลูกต้องดูแลตนเอง อย่าปล่อยให้หูของลูกได้ยินสิ่งใดที่เลวร้าย

2. ถามหัวใจของลูกว่า: ฉันทำผู้อื่นเป็นเหมือนกับตัวฉันเองมากเท่าไหร่? ฉันได้กลายเป็นนายผู้ชำระให้บริสุทธิ์ที่ยิ่งใหญ่แล้วหรือยัง และฉันกำลังทำงานรับใช้ของการชำระผู้อื่นให้บริสุทธิ์(กำลังทำให้พวกเขากลายเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิง)หรือไม่? ฉันยังมีข้อบกพร่องใดในตัวฉัน? ฉันได้สร้างสมคุณธรรมที่สูงส่งมากเพียงใด?

พร:
ขอให้ลูกรู้คิดและเป็นตัวของความรู้ และทำให้ทุกความคิดและการกระทำของลูกสูงส่งและประสบความสำเร็จ (มีคุณค่า)

ผู้ที่คิดและกระทำในขณะที่รู้คิดและเป็นตัวของความรู้ กลายเป็นภาพลักษณ์แห่งความสำเร็จ อนุสรณ์ของสิ่งนี้ในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธานั้นคือ ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มงานที่เป็นสิริมงคลใดๆ พวกเขาจะวาดสวัสดิกะหรือคารวะต่อคเณศ สวัสดิกะเป็นสัญลักษณ์ของการทำให้มั่นคงอยู่ในสภาพดั้งเดิมของลูก และคเณศเป็นสัญลักษณ์ของสภาพที่เต็มไปด้วยความรู้ของลูก เมื่อลูกๆสร้างทุกความคิดและทำทุกการกระทำในขณะที่เต็มไปด้วยความรู้ ลูกก็สามารถมีประสบการณ์ของความสำเร็จได้อย่างง่ายดาย

คติพจน์:
คุณสมบัติพิเศษของชีวิตบราห์มินคือความสุข และดังนั้นจงเฝ้าแต่ให้ทานความสุข

สัญญาณที่ละเอียดอ่อน: ทำการทดลองกับตัวเองและผู้อื่นด้วยจิตใจของลูกด้วยพลังของโยคะ

เมื่อลูกใช้เครื่องไฟฟ้าใดๆ ก่อนอื่นลูกก็จะตรวจสอบว่าเครื่องมือเหล่านั้นมีไฟหรือไม่ ในทำนองเดียวกัน เมื่อลูกทดลองกับโยคะ พลัง และคุณธรรม ก่อนอื่นตรวจสอบพื้นฐานหลัก: พลังของดวงวิญญาณของลูก พลังของพระเจ้า และความเบาสบายของสภาพของลูกเอง หากลูกเป็นแสงที่เบาสบายในสภาพของลูกและในรูปของลูก ลูกก็สามารถประสบความสำเร็จในการทดลองของลูกได้อย่างง่ายดาย