28.10.25       Morning 
Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban
สาระ:
ลูกๆที่แสนหวาน ลูกต้องกลับมามีค่าควรแก่การยกย่องด้วยการรับใช้ในยุคบรรจบพบกัน 
แล้วลูกจะกลายเป็นมนุษย์ที่สูงส่งที่สุดและมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาในอนาคต
คำถาม:
ด้วยการจบสิ้นความเจ็บป่วยใดที่ต้นตอของมันที่ลูกสามารถปีนขึ้นไปในหัวใจของพ่อได้?
คำตอบ:
1.ความเจ็บป่วยของสำนึกที่เป็นร่าง เนื่องจากสำนึกที่เป็นร่างนี้ 
กิเลสทั้งหมดทำให้ลูกป่วยมาก 
เพียงเมื่อสำนึกที่เป็นร่างนี้จบสิ้นที่ลูกสามารถปีนขึ้นไปในหัวใจของพ่อได้
2. เพื่อที่จะปีนขึ้นไปในหัวใจของพ่อ ทำให้สติปัญญาของลูกกว้างและไม่มีขีดจำกัด 
และนั่งอยู่บนกองไฟของความรู้ ข้องแวะตนเองในการทำงานรับใช้ทางจิต 
พร้อมกับการพูดความรู้ จดจำพ่ออย่างดีมาก
เพลง: 
ตื่นเถิด! โอ้ 
เจ้าสาว ตื่นเถิด! วันแห่งความสุขของลูกกำลังจะมาถึง
โอมชานติ 
ลูกๆทางจิตที่สุดแสนหวานได้ยินเพลงนี้แล้ว 
พ่อทางจิตพูดสิ่งนี้ผ่านปากของร่างเก่าที่ธรรมดานี้ พ่อพูดว่า: 
พ่อต้องเข้ามาในร่างเก่านี้ เข้ามาในอาณาจักรเก่านี้ เวลานี้นี่คืออาณาจักรของราวัน 
ร่างกายนี้เป็นของคนอื่นเพราะมีดวงวิญญาณอยู่ในร่างนั้นแล้วเมื่อพ่อเข้ามา 
พ่อเข้ามาในร่างต่างถิ่น หากพ่อมีร่างของพ่อเอง ร่างนั้นก็จะมีชื่อของตนเอง 
ชื่อของพ่อไม่เคยเปลี่ยน ลูกยังคงเรียกพ่อว่าชีพบาบา ลูกๆได้ยินเพลงเหล่านี้ทุกวัน 
ยุคใหม่ซึ่งหมายถึงโลกใหม่ยุคทอง กำลังจะมา ใครถูกบอกให้ตื่นขึ้นมา? ดวงวิญญาณ 
เพราะดวงวิญญาณกำลังหลับใหลอยู่ในความมืดมิดที่สุด พวกเขาไม่รู้สิ่งใดเลย 
พวกเขาไม่รู้จักแม้กระทั่งพ่อ เวลานี้พ่อได้มาเพื่อปลุกลูกให้ตื่นขึ้น 
เวลานี้ลูกรู้จักพ่อที่ไม่มีขีดจำกัด 
ลูกกำลังจะได้รับความสุขที่ไม่มีขีดจำกัดจากท่านในยุคใหม่นั้น 
ยุคทองเรียกว่ายุคใหม่ ยุคเหล็กเรียกว่ายุคเก่า ผู้รู้และบัณฑิตไม่รู้อะไรเลย 
หากลูกถามคนใดในพวกเขาว่ายุคใหม่กลับมาเก่าได้อย่างไร 
ก็ไม่มีใครสักคนในบรรดาพวกเขาจะสามารถบอกลูกได้ 
พวกเขาพูดว่ามันเป็นเรื่องของหลายแสนปี 
เวลานี้ลูกเข้าใจว่าลูกเข้ามาสู่ยุคเก่านี้จากยุคใหม่นั้นได้อย่างไร นั่นคือ 
ลูกได้กลายเป็นชาวนรกจากชาวสวรรค์ได้อย่างไร มนุษย์ไม่รู้สิ่งใดเลย 
พวกเขาไม่รู้แม้กระทั่งชีวประวัติของผู้ที่พวกเขากราบไหว้บูชา 
พวกเขากราบไหว้บูชาจักดัมบา แต่พวกเขาไม่รู้ว่าอัมบาคือใคร 
อันที่จริงแม่เรียกว่าอัมบา 
แต่ขอให้มีเพียงหนึ่งเดียวผู้ที่ได้รับการกราบไหว้บูชาเท่านั้น 
มีเพียงอนุสรณ์เดียวที่ไม่มีสิ่งใดเจือปนของชีพบาบาเท่านั้น 
มีอัมบาเดียวด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่รู้ว่าใครคือจักดัมบา 
ผู้นี้คือจักดัมบา (แม่ของชาวโลก) และลักษมีคือจักรพรรดินีโลก 
ลูกรู้ว่าแม่ของชาวโลกคือใคร และใครคือจักรพรรดินีโลก 
ไม่มีใครอื่นสามารถเข้าใจสิ่งเหล่านี้ ลักษมีเรียกว่าเทพ 
ในขณะที่จักดัมบาเรียกว่าบราห์มิน บราห์มินดำรงอยู่ในยุคบรรจบพบกันเท่านั้น 
ไม่มีใครรู้จักยุคบรรจบพบกันนี้ 
โลกใหม่ที่สูงส่งที่สุดนั้นถูกสร้างขึ้นผ่านประชาบิดาบราห์มา 
ลูกสามารถมองเห็นมนุษย์ที่สูงส่งที่สุดที่นั่น (ในยุคทอง) 
ในเวลานี้ลูกบราห์มินมีค่าควรแก่การยกย่อง เวลานี้ลูกคือผู้รับใช้ 
และแล้วก็จะกลับมามีค่าควรแก่การได้รับการกราบไหว้บูชา บราห์มาถูกแสดงด้วยแขนมากมาย 
ดังนั้นเหตุใดอัมบาจึงไม่ควรถูกแสดงด้วยแขนมากมายเช่นเดียวกันเล่า? 
ทุกคนเป็นลูกของเธอเช่นกัน ประชาบิดาก็กลายเป็นแม่และพ่อด้วย 
ลูกๆไม่ถูกเรียกว่าประชาบิดา 
ในยุคทองลักษมีและนารายณ์ไม่เคยถูกเรียกว่าแม่ของชาวโลกและพ่อของชาวโลก ชื่อ “ประชาบิดา” 
นั้นเป็นที่รู้จักกันดีมาก พ่อและแม่ของชาวโลกมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น 
ที่เหลือทั้งหมดคือลูกของท่าน เมื่อลูกไปที่วัดของประชาบิดาบราห์มาในอัจเมียร์ 
ลูกสามารถเอ่ยถึงท่านว่าบาบาได้ เพราะท่านคือพ่อของมนุษยชาติ พ่อทางร่างสร้างลูกๆ 
ดังนั้นพวกเขาคือพ่อที่มีขีดจำกัดของผู้คน ผู้นี้ไม่มีขีดจำกัด 
ชีพบาบาคือพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดของดวงวิญญาณทั้งหมด 
ลูกๆต้องเขียนเกี่ยวกับความแตกต่างนี้ จักดัมบาและสรัสวตีคือผู้เดียวกัน 
และกระนั้นก็มีการให้ชื่อไว้มากมาย - ดุรกา กาลี ฯลฯ 
ลูกทั้งหมดคือลูกๆของอัมบาและบาบา นี่คือสิ่งสร้าง 
สรัสวตีคือลูกสาวของประชาบิดาบราห์มา และเธอก็ถูกเรียกว่าอัมบาด้วยเช่นกัน 
ที่เหลือทั้งหมดเป็นลูกชายและลูกสาว และพวกเขาทั้งหมดถูกนำมาเลี้ยง 
จะมีลูกมากมายขนาดนี้ได้อย่างไร? พวกเขาทั้งหมดคือสิ่งสร้างที่เกิดจากปาก 
ภรรยาถูกสร้างขึ้นผ่านปากและดังนั้นสามีจึงกลายเป็นผู้สร้าง เขาพูดว่า “ผู้นี้เป็นของฉัน 
ฉันได้สร้างลูกๆกับเธอ” ทั้งหมดเหล่านี้เกิดจากการนำมาเลี้ยงดู 
เหล่านี้เป็นสิ่งสร้างทางจิตผ่านปาก ถึงอย่างไรดวงวิญญาณก็มีอยู่แล้ว 
ไม่ได้ถูกนำมาเลี้ยง พ่อพูดว่า:ลูกๆดวงวิญญาณเป็นลูกๆของพ่อเสมอ 
พ่อมาและนำลูกๆมาเลี้ยงดูผ่านประชาบิดาบราห์มา ท่านไม่ได้นำดวงวิญญาณมาเลี้ยงดู 
ท่านนำลูกชายและลูกสาวมาเลี้ยงดู 
สิ่งเหล่านี้เป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนมากที่ต้องเป็นที่เข้าใจ 
ด้วยการเข้าใจสิ่งเหล่านี้ ลูกจะเป็นเช่นลักษมีและนารายณ์ เราสามารถอธิบายได้ว่า 
พวกเขากลายเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร พวกเขาทำการกระทำใดที่พวกเขาได้กลายเป็นนายของโลก? 
ลูกสามารถถามที่นิทรรศการได้: 
ท่านรู้ไหมว่าพวกเขาได้รับอาณาจักรสวรรค์ของพวกเขาได้อย่างไร? 
ไม่ใช่ลูกทุกคนที่จะสามารถอธิบายได้อย่างถูกต้องแม่นยำ 
ผู้ที่มีคุณธรรมสูงส่งและอยู่อย่างไม่ว่างเว้นในการทำงานรับใช้ทางจิตสามารถอธิบายได้ 
ทุกคนอื่นติดกับอยู่ในความเจ็บป่วยของมายา มีความเจ็บป่วยหลายประเภท 
มีความเจ็บป่วยของสำนึกที่เป็นร่างด้วยเช่นกัน เป็นกิเลสที่ทำให้ลูกป่วย พ่อพูดว่า: 
พ่อทำให้ลูกเป็นเทพที่บริสุทธิ์ ครั้งหนึ่งลูกเคยเต็มไปด้วยคุณธรรมทั้งหมด 
บริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์ เวลานี้ลูกได้กลับมาไม่บริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์ 
พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดพูดสิ่งนี้ นี่ไม่ใช่ประเด็นของการประณามแต่เป็นเพียงการอธิบาย 
พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดพูดกับชาวบารัตว่า: พ่อมาที่นี่ในบารัต 
คำสรรเสริญของบารัตนั้นไม่มีขีดจำกัด ท่านมาที่นี่และเปลี่ยนนรกให้เป็นสวรรค์ 
และประทานความสงบแก่ทุกคน ดังนั้นคำสรรเสริญของพ่อเช่นนั้นก็ไม่มีที่สิ้นสุดเช่นกัน 
ไม่มีที่สิ้นสุดต่อสิ่งนั้น ไม่มีใครรู้จักจักดัมบาหรือคำยกย่องของเธอ 
ลูกสามารถแสดงความแตกต่างระหว่างชีวประวัติของจักดัมบาและชีวประวัติของลักษมี 
จักดัมบากลายเป็นลักษมี แล้วหลังจากใช้ 84 ชาติเกิด 
ลักษมีก็กลายเป็นจักดัมบาเดียวกันนั้น เก็บรูปภาพประเภทต่างๆไว้ 
พวกเขาแสดงภาพลักษมีพร้อมกับไห แต่ลักษมีสามารถอยู่ในยุคบรรจบพบกันได้อย่างไร? 
เธออยู่ในยุคทองเท่านั้น พ่ออธิบายสิ่งทั้งหมดเหล่านี้ 
ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ทำรูปภาพต้องไตร่ตรองมหาสมุทรแห่งความรู้เช่นกัน 
แล้วก็จะง่ายดายที่จะอธิบาย 
เพียงเมื่อลูกมีสติปัญญาที่กว้างและไม่มีขีดจำกัดเท่านั้น 
ที่ลูกสามารถปีนขึ้นไปในหัวใจของพ่อ 
ลูกจะสามารถปีนขึ้นไปในหัวใจของพ่อเมื่อลูกจดจำพ่ออย่างดีมาก 
และนั่งอยู่บนกองไฟของความรู้ 
ไม่ใช่ว่าผู้ที่สามารถพูดความรู้ได้อย่างดีมากสามารถปีนขึ้นไปในหัวใจของพ่อได้ 
ไม่เลย พ่อพูด: ลูกจะสามารถปีนขึ้นไปในหัวใจได้ต่างลำดับกันไปในเวลาสุดท้าย 
เมื่อลูกจบสิ้นสำนึกที่เป็นร่างตามความเพียรพยายามที่ลูกทำ 
พ่อได้อธิบายว่าผู้ที่มีความรู้ของธาตุบราห์มจะทำความเพียรพยายามอย่างมากที่จะหลอมรวมเข้าไปในสิ่งนั้น 
แต่ไม่มีใครสามารถหลอมรวมเข้าไปในธาตุบราห์มเช่นนั้นได้ 
พวกเขาทำความเพียรพยายามและได้รับสถานภาพที่สูง 
พวกเขากลายเป็นดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่เช่นนั้นที่พวกเขาถูกชั่งน้ำหนักกับทองคำขาว 
อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ทำความเพียรพยายามจริงที่จะหลอมรวมเข้าไปในธาตุบราห์ม 
และพวกเขาก็ได้รับผลของความเพียรพยายามของพวกเขา 
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่สามารถได้รับการหลุดพ้นหรือการหลุดพ้นในชีวิตได้ 
ลูกๆรู้ว่าโลกเก่านี้กำลังจะจากไป 
ระเบิดเหล่านั้นทั้งหมดไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเก็บไว้เฉยๆ 
ลูกรู้ว่าระเบิดเหล่านั้นจะถูกใช้เพื่อการทำลายล้างโลกเก่า มีระเบิดหลายประเภท 
เวลานี้พ่อกำลังสอนความรู้และโยคะแก่ลูก 
แล้วลูกก็จะกลายเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิงที่มีมงกุฎสองชั้น เป็นเทพ 
สถานภาพใดสูงกว่ากัน? จุกของบราห์มินอยู่บนยอดสุด จุกนั้นสูงสุดที่สุด 
เวลานี้พ่อมาเพื่อทำให้ลูกๆบริสุทธิ์จากไม่บริสุทธิ์ 
ลูกมีความซาบซึ้งไหมว่าลูกกำลังจะกลายเป็นผู้ชำระให้บริสุทธิ์เช่นกัน 
ลูกกำลังทำให้ทุกคนบริสุทธิ์และทำให้พวกเขากลายเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิง? 
หากลูกจะมีความซาบซึ้งนี้ ลูกก็จะมีความสุขมากมาย ถามหัวใจของลูกว่า 
กี่คนที่ลูกกำลังทำให้เป็นเหมือนกับตัวลูกเอง 
ประชาบิดาบราห์มาและจักดัมบานั้นเหมือนกัน พวกเขากำลังสร้างสิ่งสร้างของบราห์มิน 
เพียงพ่อเท่านั้นที่แสดงวิธีที่จะเปลี่ยนจากศูทรเป็นบราห์มินให้แก่ลูก 
สิ่งนี้ไม่ได้กล่าวถึงในคัมภีร์ใดๆ นี่คือยุคของกีตะ มีสงครามมหาภารตะอย่างแท้จริง 
จะมีคนเดียวเท่านั้นไหมที่ได้รับการสอนราชาโยคะ? 
เหตุนี้เองผู้คนจึงมีเพียงอรชุนและกฤษณะในสติปัญญาของพวกเขา 
ลูกๆมากมายกำลังศึกษาที่นี่ เพียงแต่ดูว่าลูกกำลังนั่งที่นี่อย่างธรรมดาอย่างไร 
เด็กเล็กๆศึกษาอัลฟ่าและเบต้า 
ลูกกำลังนั่งที่นี่และลูกด้วยก็กำลังได้รับการสอนอัลฟ่าและเบต้าเช่นกัน 
อัลฟ่าคือบาบาและเบต้าคือมรดกของลูก พ่อพูดว่า: จดจำพ่อและลูกจะกลายเป็นนายของโลก 
อย่าได้ทำการกระทำเช่นปีศาจใด สร้างสมคุณธรรมที่สูงส่ง 
ตรวจสอบว่าลูกไม่มีข้อบกพร่องใดๆภายในตัวลูก “ฉันปราศจากคุณธรรม ฉันไม่มีคุณธรรม” 
มีอาศรมชื่อว่านิรคุณอาศรม แต่พวกเขาไม่รู้ความหมายของชื่อนั้น “นิรคุณ” หมายถึง “ฉันไม่มีคุณธรรม” 
เป็นงานของพ่อที่จะทำให้ลูกมีคุณธรรม พวกเขาได้นำหมวกแห่งสมญาของพ่อไปเพื่อตนเอง 
พ่ออธิบายสิ่งต่างๆมากมายและให้การกำหนดแก่ลูกเช่นกัน 
แสดงความแตกต่างระหว่างจักดัมบาและลักษมี บราห์มาและสรัสวตีเป็นของยุคบรรจบพบกัน 
ในขณะที่ลักษมีและนารายณ์เป็นของยุคทอง รูปภาพเหล่านี้จะถูกใช้เพื่อการอธิบาย 
สรัสวตีคือลูกสาวของบราห์มา ลูกกำลังศึกษาเพื่อเปลี่ยนจากมนุษย์ธรรมดาไปเป็นเทพ 
เวลานี้ลูกคือบราห์มิน เทพยุคทองก็เป็นมนุษย์เช่นกัน แต่พวกเขาเรียกว่าเทพ 
จะเป็นราวกับการดูหมิ่นที่จะเรียกพวกเขาว่ามนุษย์ 
และเหตุนี้เองพวกเขาจึงถูกเรียกว่าเทพ หรือเทวาและเทวี 
หากราชาและราชินีถูกเรียกว่าเทวาและเทวี 
แล้วปวงประชาของพวกเขาก็จะต้องถูกเรียกเช่นนั้นด้วยเช่นกัน 
เหตุนี้เองพวกเขาจึงถูกเรียกว่าเทพ มีรูปภาพของตรีมูรติด้วยเช่นกัน 
ในยุคทองมีมนุษย์น้อยมาก ขณะที่ในยุคเหล็กมีมนุษย์มากมาย 
สิ่งนี้สามารถอธิบายได้อย่างไร? 
รูปภาพของวงจรเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสิ่งนี้อย่างแน่นอน 
ลูกเชิญผู้คนมากมายให้มาที่นิทรรศการ กระนั้นก็ยังไม่มีใครเชิญเจ้าหน้าที่ศุลกากร 
ลูกต้องไตร่ตรองในวิธีนี้ 
สติปัญญาที่กว้างและไม่มีขีดจำกัดเป็นที่ต้องการสำหรับสิ่งนี้ 
ขอให้มีความนับถือต่อพ่อ พวกเขาตกแต่งม้าของฮุสเซนอย่างมาก 
สายคาดบนหัวม้านั้นเล็กมาก ในขณะที่ม้าตัวใหญ่มาก ดวงวิญญาณเป็นเพียงจุดที่เล็กมาก 
และกระนั้นเครื่องประดับของเขาก็มีขนาดใหญ่มาก 
นี่คือบัลลังก์ของภาพลักษณ์ที่เป็นอมตะ 
พวกเขาได้นำประเด็นของการอยู่ในทุกหนแห่งในเวลาเดียวกันมาจากกีตะ พ่อพูดว่า: 
พ่อกำลังสอนราชาโยคะแก่ลูกดวงวิญญาณ 
ดังนั้นพ่อจะอยู่ในทุกหนแห่งในเวลาเดียวกันได้อย่างไร? พ่อ ครู 
และกูรูจะอยู่ในทุกหนแห่งในเวลาเดียวกันได้อย่างไร? พ่อพูดว่า: 
พ่อคือพ่อของลูกและเป็นมหาสมุทรแห่งความรู้เช่นกัน 
เมื่อลูกเข้าใจประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ที่ไม่มีขีดจำกัดนี้ 
ลูกจะได้รับอาณาจักรที่ไม่มีขีดจำกัด ลูกต้องสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่งเช่นกัน 
มายาบีบจมูกของลูก เมื่อกิจกรรมของบางคนสกปรก เขาเขียนถึงบาบาว่า 
เขาได้ทำความผิดพลาดเช่นนั้น เขาพูดว่า “ฉันได้ทำให้ใบหน้าของฉันสกปรก” 
ที่นี่ลูกถูกสอนเรื่องความบริสุทธิ์ ดังนั้นหากบางคนล้มลง 
พ่อจะสามารถทำอะไรได้เกี่ยวกับสิ่งนี้? 
หากลูกทำการกระทำที่สกปรกที่บ้านและทำให้ใบหน้าของเขาสกปรก พ่อของเขาจะพูดว่า “มันจะดีกว่าถ้าเธอตายไปซะ!” 
แม้ว่าพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดจะรู้ว่าสิ่งนี้อยู่ในละคร 
ท่านก็จะพูดเช่นนี้เช่นกันใช่ไหม? หลังจากให้คำสอนเหล่านี้แก่ผู้อื่น 
หากตัวลูกเองล้มลง ลูกก็สะสมบาปถึง 1,000 เท่า บางคนพูดว่า: มายาตบตีฉัน 
มายาชกลูกในวิธีที่ลูกสูญเสียปัญญาทั้งหมดของลูกไปอย่างสิ้นเชิง 
พ่อเฝ้าแต่อธิบายว่า: ดวงตาเหล่านั้นหลอกลวงลูกอย่างมาก อย่าได้ทำการกระทำบาปใดๆ 
พายุมากมายจะมาเพราะลูกอยู่ในสนามรบ ลูกไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น 
มายาตบตีลูกอย่างรวดเร็ว เวลานี้ลูกกำลังกลับมารู้คิด เป็นดวงวิญญาณที่กลับมารู้คิด 
และเป็นดวงวิญญาณที่เคยไม่รู้คิด เวลานี้พ่อกำลังทำให้เรารู้คิด 
หลายคนยังคงมีสำนึกที่เป็นร่าง พวกเขาไม่เข้าใจว่าพวกเขาคือดวงวิญญาณ 
พ่อกำลังสอนเราดวงวิญญาณ ฉันดวงวิญญาณรับฟังผ่านหูเหล่านี้ พ่อพูดว่า: 
อย่าปล่อยให้หูของลูกได้ยินสิ่งใดที่มีกิเลส พ่อกำลังทำให้ลูกกลายเป็นนายของโลก 
นี่คือจุดหมายปลายทางที่สูงมาก ขณะที่ความตายเข้ามาใกล้มากขึ้น ลูกก็จะหวาดกลัว 
เมื่อบางคนกำลังจะตาย เพื่อนฝูงและญาติมิตรของเขาบอกเขาว่า “จดจำพระเจ้า” หรือ “จดจำกูรูของเธอ” 
พวกเขาสอนลูกให้จดจำผู้มีร่างกาย พ่อพูดว่า: จดจำพ่อผู้เดียวอย่างสม่ำเสมอ 
สิ่งนี้อยู่ในสติปัญญาของลูกๆ พ่อออกคำสั่งให้ลูกๆจดจำท่านผู้เดียวอย่างสม่ำเสมอ 
อย่าจดจำผู้มีร่างกาย แม่และพ่อก็เป็นผู้มีร่างกายด้วยเช่นกัน 
พ่อนั้นปราศจากภาพลักษณ์อย่างสมบูรณ์ พ่อปราศจากร่างกาย 
พ่อนั่งในผู้นี้และให้ความรู้นี้แก่ลูก เวลานี้ลูกกำลังเรียนความรู้นี้และโยคะ 
ลูกพูดว่าลูกกำลังเรียนความรู้นี้จากพ่อ 
มหาสมุทรแห่งความรู้เพื่อที่จะกลายเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิง 
มหาสมุทรแห่งความรู้สอนความรู้นี้แก่ลูกและสอนราชาโยคะแก่ลูกด้วยเช่นกัน อัจชะ
ถึงลูกๆ 
ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก 
ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. 
กลับมารู้คิดและไม่เคยพ่ายแพ้ต่อพายุของมายา 
ดวงตาของลูกหลอกลวงลูกและดังนั้นลูกต้องดูแลตนเอง 
อย่าปล่อยให้หูของลูกได้ยินสิ่งใดที่เลวร้าย
2. ถามหัวใจของลูกว่า: 
ฉันทำผู้อื่นเป็นเหมือนกับตัวฉันเองมากเท่าไหร่? 
ฉันได้กลายเป็นนายผู้ชำระให้บริสุทธิ์ที่ยิ่งใหญ่แล้วหรือยัง 
และฉันกำลังทำงานรับใช้ของการชำระผู้อื่นให้บริสุทธิ์(กำลังทำให้พวกเขากลายเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิง)หรือไม่? 
ฉันยังมีข้อบกพร่องใดในตัวฉัน? ฉันได้สร้างสมคุณธรรมที่สูงส่งมากเพียงใด?
พร:
ขอให้ลูกรู้คิดและเป็นตัวของความรู้ 
และทำให้ทุกความคิดและการกระทำของลูกสูงส่งและประสบความสำเร็จ (มีคุณค่า)
ผู้ที่คิดและกระทำในขณะที่รู้คิดและเป็นตัวของความรู้ 
กลายเป็นภาพลักษณ์แห่งความสำเร็จ 
อนุสรณ์ของสิ่งนี้ในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธานั้นคือ 
ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มงานที่เป็นสิริมงคลใดๆ พวกเขาจะวาดสวัสดิกะหรือคารวะต่อคเณศ 
สวัสดิกะเป็นสัญลักษณ์ของการทำให้มั่นคงอยู่ในสภาพดั้งเดิมของลูก 
และคเณศเป็นสัญลักษณ์ของสภาพที่เต็มไปด้วยความรู้ของลูก 
เมื่อลูกๆสร้างทุกความคิดและทำทุกการกระทำในขณะที่เต็มไปด้วยความรู้ 
ลูกก็สามารถมีประสบการณ์ของความสำเร็จได้อย่างง่ายดาย
คติพจน์:
คุณสมบัติพิเศษของชีวิตบราห์มินคือความสุข และดังนั้นจงเฝ้าแต่ให้ทานความสุข
สัญญาณที่ละเอียดอ่อน: 
ทำการทดลองกับตัวเองและผู้อื่นด้วยจิตใจของลูกด้วยพลังของโยคะ
เมื่อลูกใช้เครื่องไฟฟ้าใดๆ 
ก่อนอื่นลูกก็จะตรวจสอบว่าเครื่องมือเหล่านั้นมีไฟหรือไม่ ในทำนองเดียวกัน 
เมื่อลูกทดลองกับโยคะ พลัง และคุณธรรม ก่อนอื่นตรวจสอบพื้นฐานหลัก: 
พลังของดวงวิญญาณของลูก พลังของพระเจ้า และความเบาสบายของสภาพของลูกเอง 
หากลูกเป็นแสงที่เบาสบายในสภาพของลูกและในรูปของลูก 
ลูกก็สามารถประสบความสำเร็จในการทดลองของลูกได้อย่างง่ายดาย