06.09.25 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน
ความใส่ใจเดียวที่ลูกควรมีคือทำอย่างไรที่จะแสดงหนทางไปสู่ดินแดนของความสุขให้กับทุกคน
ทุกคนควรรู้ว่านี่คือยุคบรรจบพบกันที่ลูกจะกลายเป็นมนุษย์ที่สูงส่งที่สุด
คำถาม:
เมื่อใดที่ลูกๆ แสดงความยินดีต่อกันและกัน?
เมื่อใดที่มนุษย์แสดงความยินดีต่อกันและกัน?
คำตอบ:
มนุษย์แสดงความยินดีเมื่อมีใครบางคนเกิด เมื่อใครบางคนได้รับชัยชนะ
ในวันแต่งงานของใครบางคนหรือในวันพิเศษ วันสำคัญ
อย่างไรก็ตามนั่นไม่ใช่การแสดงความยินดีที่แท้จริง ลูกๆ
แสดงความยินดีซึ่งกันและกันที่ได้เป็นของพ่อ ลูกพูดว่า “เรานั้นโชคดีมากที่เราได้รับการปลดปล่อยจากความทุกข์ทั้งหมดและเราจะไปยังดินแดนแห่งความสุข”
ลูกประสบความสุขในหัวใจของลูก
โอมชานติ
พ่อผู้ไม่มีขีดจำกัดนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูกที่ไม่มีขีดจำกัด
เวลานี้คำถามได้เกิดขึ้น: ใครคือพ่อที่ไม่มีขีดจำกัด?
ลูกรู้ว่าพ่อของทุกคนคือผู้เดียวผู้ที่เรียกว่าพ่อสูงสุด
พ่อทางร่างกายไม่สามารถเรียกว่าพ่อสูงสุด
มีพ่อสูงสุดเพียงผู้เดียวเท่านั้นและลูกๆทั้งหมดได้ลืมท่านแล้ว ดังนั้นเวลานี้ลูกๆ
เข้าใจว่าพ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด ผู้ขจัดความทุกข์และผู้ประทานความสุข
กำลังขจัดความทุกข์ของลูกและแล้วลูกจะไปยังดินแดนแห่งความสงบและความสุขอย่างไร
ไม่ใช่ทุกคนจะไปสู่ความสุข บางคนจะยังคงอยู่ในความสงบและคนอื่นๆจะเข้าไปสู่ความสุข
บางคนเล่นบทบาทของตนเองตั้งแต่ยุคทอง บางคนจากยุคเงิน และคนอื่นๆ จากยุคทองแดง
เมื่อลูกอยู่ในยุคทองคนอื่นๆจะอยู่ในดินแดนแห่งการหลุดพ้น
ที่นั่นเรียกว่าบ้านของพระเจ้า เมื่อชาวมุสลิมท่องบทสวดมนต์ของพวกเขา
พวกเขาทั้งหมดมารวมตัวกันและสวดภาวนาต่อพระเจ้า (คูด้า) เพื่ออะไร?
เพื่อการไปสวรรค์หรือเพื่อการไปหาพระเจ้า (อัลล่าห์)
บ้านของพระเจ้าไม่สามารถเรียกว่าสวรรค์ ที่นั่นดวงวิญญาณอยู่ในความเงียบสงบ
ไม่มีร่างกายที่นั่น พวกเขาต้องรู้ว่าพวกเขาจะไปหาอัลล่าห์
ไม่ใช่ด้วยร่างกายแต่เป็นดวงวิญญาณ
เราไม่สามารถกลับมาบริสุทธิ์ได้เพียงแค่การจดจำระลึกถึงอัลล่าห์โดยไม่รู้จักท่าน
เวลานี้ลูกสามารถแนะนำผู้คนได้อย่างไรว่าพ่อกำลังให้มรดกของความสงบและความสุขแก่ทุกคน?
ลูกจะสามารถอธิบายให้แก่พวกเขาว่าโลกนี้จะมีความสงบได้อย่างไรและเมื่อใดที่เคยมีความสงบในโลก?
ลูกที่เฝ้าแต่ทำงานรับใช้จะคิดเกี่ยวกับสิ่งนี้ตามลำดับกันไปตามความเพียรพยายามที่พวกเขาทำ
พ่อได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับตัวท่านเองแก่ลูก บราห์มิน
สิ่งสร้างที่เกิดจากปากเท่านั้น
ท่านได้บอกลูกเกี่ยวกับบทบาทที่ผู้คนทั้งหมดของโลกนี้เล่นด้วยเช่นกัน
ตอนนี้เราจะสามารถให้คำแนะนำของพ่อและสิ่งสร้างแก่ผู้คนได้อย่างไร?
พ่อบอกทุกคนว่าจงคิดว่าตนเองว่าเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อและลูกจะไปยังบ้านของพระเจ้า
ไม่ใช่ทุกคนจะไปยังยุคทอง ที่นั่นมีเพียงศาสนาเดียวเท่านั้น
ส่วนที่เหลือทั้งหมดอยู่ในดินแดนแห่งความสงบ
ไม่มีเรื่องที่จะมีความขุ่นมัวไม่พอใจเกี่ยวกับสิ่งนี้
ผู้คนร้องขอความสงบแต่จะสามารถได้รับความสงบในบ้านของอัลล่าห์พระเจ้าผู้เป็นพ่อเท่านั้น
ดวงวิญญาณทั้งหมดมาจากดินแดนแห่งความสงบ
ทุกคนจะกลับไปที่นั่นเมื่อการละเล่นสิ้นสุดลง
พ่อมาและพาทุกคนจากโลกที่ไม่บริสุทธิ์กลับบ้าน
เวลานี้สิ่งนี้อยู่ในสติปัญญาของลูกๆว่าตอนนี้ลูกจะต้องไปยังดินแดนแห่งความสงบและแล้วลูกจะไปยังดินแดนแห่งความสุข
นี่คือยุคบรรจบพบกันที่สูงส่งที่สุด “มนุษย์ที่สูงส่ง”หมายถึงผู้ที่เป็นสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดเหนือสิ่งใด
เขาไม่สามารถกลายเป็นมนุษย์ที่สูงส่งได้จนกว่าดวงวิญญาณจะกลับมาบริสุทธิ์
เวลานี้พ่อพูดว่า: จดจำพ่อและเข้าใจวงจรโลกและสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่งด้วยเช่นกัน
เวลานี้บุคลิกลักษณะหรือลักษณะนิสัยของมนุษย์ทุกคนนั้นเสียไป
ในโลกใหม่บุคลิกลักษณะและนิสัยของพวกเขานั้นชั้นหนึ่ง
เป็นผู้คนของบารัตที่กลายเป็นผู้ที่มีลักษณะบุคลิกลักษณะที่สูงส่ง
ผู้ที่มีบุคลิกลักษณะที่ด้อยกว่าจะก้มลงให้กับผู้ที่มีบุคลิกลักษณะที่สูงส่งและพูดเกี่ยวกับบุคลิกลักษณะของพวกเขาด้วยเช่นกัน
มีเพียงลูกๆ ที่เข้าใจสิ่งนี้ ลูกจะสามารถอธิบายให้ผู้อื่นได้อย่างไร?
ลูกควรสร้างวิธีอะไรที่ง่ายดายเพื่อเปิดตาที่สามของดวงวิญญาณ?
ดวงวิญญาณของบาบามีความรู้ ผู้คนพูดว่าเขามีความรู้ นั่นคือสำนึกที่เป็นร่าง
ที่นี่ลูกจะต้องกลับมามีเป็นสำนึกเป็นดวงวิญญาณ ซันยาสซีมีความรู้เกี่ยวกับคัมภีร์
ลูกสามารถมีความรู้ของพ่อได้ก็ต่อเมื่อพ่อมาและให้ความรู้เท่านั้น
อธิบายสิ่งนี้อย่างมีกลยุทธ์ ผู้คนเหล่านั้นคิดว่ากฤษณะเป็นพระเจ้า
พวกเขาไม่รู้จักพระเจ้า ฤๅษีและมุนีเคยพูดว่าพวกเขาไม่รู้
แต่พวกเขาเข้าใจว่ามนุษย์ไม่สามารถเป็นพระเจ้าได้
พ่อผู้ที่ไม่ตัวตนเท่านั้นคือผู้สร้าง แต่ท่านสร้างอย่างไร? ชื่อ รูปร่าง ดินแดน
เวลาของท่านคืออะไร? พวกเขาไม่รู้ ดังนั้นพวกเขาพูดว่าท่านอยู่เหนือรูปและนาม
พวกเขาไม่มีสำนึกมากพอที่จะตระหนักว่าไม่สามารถมีสิ่งใดที่ปราศจากรูปหรือนาม
สิ่งนั้นเป็นไปไม่ได้
ถ้าพวกเขาพูดว่าท่านอยู่ในก้อนกรวดและก้อนหินหรือในปลาหรือจระเข้นั่นคือชื่อและรูป
บางครั้งพวกเขาพูดอย่างหนึ่งและในเวลาอื่นพวกเขาก็พูดอีกอย่างหนึ่ง ลูกๆ
ควรคิดให้มากตลอดทั้งวันและคิดว่าจะอธิบายให้ผู้คนเข้าใจอย่างไร
นี่คือยุคบรรจบพบกันที่สูงส่งที่สุดที่ซึ่งลูกกลายเป็นเทพจากมนุษย์ธรรมดา
มนุษย์ก้มลงให้กับรูปบูชาของเทพ มนุษย์ไม่ได้ก้มลงให้กับรูปปั้นของมนุษย์
มนุษย์ต้องก้มลงให้กับพระเจ้าหรือเทพ มุสลิมสวดมนต์ต่ออัลล่าห์เช่นกัน
พวกเขาจดจำอัลล่าห์ ลูกรู้ว่าพวกเขาไม่สามารถไปถึงอัลล่าห์
สิ่งหลักคือจะเข้าถึงอัลล่าห์ได้อย่างไร แล้วอัลล่าห์สร้างโลกใหม่อย่างไร?
ลูกสามารถอธิบายสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดได้อย่างไร?
ลูกๆต้องไตร่ตรองมหาสมุทรแห่งความรู้สำหรับสิ่งนี้
พ่อไม่ต้องไตร่ตรองมหาสมุทรแห่งความรู้นี้ พ่อสอนลูกๆ
ถึงวิธีที่ไตร่ตรองมหาสมุทรแห่งความรู้นี้ เวลานี้ทุกคนในยุคเหล็กตาโมประธาน
จะมียุคทองในช่วงเวลาหนึ่งอย่างแน่นอน ยุคทองกล่าวได้ว่าบริสุทธิ์
มีความบริสุทธิ์และไม่บริสุทธิ์ อัลลอยด์ปะปนเข้ากับทอง ดวงวิญญาณเช่นกัน บริสุทธิ์
สะโตประธานในตอนเริ่มแรกและจากนั้นอัลลอยด์เข้าไปปะปนกับพวกเขา
เมื่อดวงวิญญาณได้กลับมาตาโมประธาน พ่อต้องมา
เพียงพ่อเท่านั้นที่มาและสร้างดินแดนแห่งความสุขที่สะโตประธาน
มีเพียงผู้คนชาวบารัตเท่านั้นในดินแดนแห่งความสุขนั้น
ที่เหลือทั้งหมดคงอยู่ในดินแดนแห่งความสงบ
ทุกคนในดินแดนแห่งความสงบนั้นบริสุทธิ์และเมื่อพวกเขาลงมาที่นี่พวกเขาก็ค่อยๆกลับมาไม่บริสุทธิ์อย่างช้าๆ
มนุษย์ทุกคนต้องผ่านสภาพของสะโต,ราโจและตาโมอย่างแน่นอน
ลูกสามารถบอกทุกคนได้อย่างไรว่าพวกเขาทั้งหมดสามารถไปยังบ้านของพระเจ้าได้?
พระเจ้าพูด:
สละละทิ้งความสัมพันธ์ทางร่างกายทั้งหมดและพิจารณาว่าตัวลูกเองเป็นดวงวิญญาณ
เมื่อลูกจดจำพ่อ วิญญาณปีศาจร้ายทั้งห้าจะถูกขจัดออกไปจากลูก ลูกๆ
ควรมีความใส่ใจนี้ทั้งวันและทั้งคืน
พ่อก็มีความใส่ใจเช่นกันและเหตุนี้เองพ่อได้มีความคิดของการมาที่นี่เพื่อทำให้ทุกคนมีความสุข
พร้อมกับสิ่งนั้นลูกๆต้องกลายเป็นผู้ช่วยของท่าน
พ่อจะสามารถทำอะไรได้เพียงลำพังด้วยตัวท่านเอง?
ดังนั้นจงไตร่ตรองมหาสมุทรแห่งความรู้นี้
ลูกควรสร้างวิธีใดเพื่อให้ผู้คนเข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่านี่คือยุคบรรจบพบกันที่สูงส่งที่สุด?
เป็นเพียงเวลานี้เท่านั้นที่ผู้คนสามารถกลับมาสูงส่ง
ในตอนแรกพวกเขาสูงส่งและแล้วพวกเขาก็ตกต่ำลงมา พวกเขาไม่ตกลงมาในทันที
พวกเขาไม่ได้กลับมาตาโมประธานทันทีที่พวกเขาลงมา
ทุกสิ่งในตอนเริ่มต้นสะโตประธานก่อน และแล้วก็ผ่านสภาพของสะโต ราโจ และตาโม ลูกๆ
จัดนิทรรศการมากมาย แต่ถึงกระนั้นผู้คนก็ไม่เข้าใจอะไรเลย
ดังนั้นลูกควรสร้างวิธีการใดอีก? ลูกต้องหาวิธีการต่างๆ ลูกได้รับเวลาสำหรับสิ่งนี้
ไม่มีใครสามารถกลับมาเพียบพร้อมและสมบูรณ์พร้อมได้ในทันที ดวงจันทร์ก็ค่อยๆ
กลับมาเต็มดวงเช่นกัน เรากลับมาตาโมประธานทีละน้อย
และแล้วจึงต้องใช้เวลาในการที่เราจะกลับมาสะโตประธาน
นั่นคือสิ่งที่ไม่มีชีวิตและนี่คือสิ่งที่มีชีวิต ดังนั้นเราสามารถอธิบายได้อย่างไร?
ลูกควรอธิบายแก่มุลล่าห์(หัวหน้ามัสยิด)ของชาวมุสลิมว่าเหตุใดพวกเขาจึงละหมาด **(ทำนมาซ)
และพวกเขาทำเช่นนั้นเพื่อรำลึกถึงใคร ลูกต้องไตร่ตรองสิ่งเหล่านี้ ประธานาธิบดี ฯลฯ
ไปยังมัสยิดในวันสำคัญ พวกเขาไปและพบผู้อาวุโส มีมัสยิดเล็กๆ
และยังมีมัสยิดหลักด้วยเช่นกันที่พวกเขาทั้งหมดไปและให้คำอวยพรสำหรับวันอีด **(Eid)
เวลานี้คำอวยพรที่จะได้รับเมื่อเราทั้งหมดกลับมาเป็นอิสระจากความทุกข์ทุกรูปแบบและแล้วเราก็ไปสู่ดินแดนแห่งความสุข
เพียงื่อนั้นที่เราสามารถพูด “ขอแสดงความยินดี” เรากำลังให้ข่าวดีแก่ท่าน
เมื่อบางคนได้รับชัยชนะต่อบางสิ่ง เขาจะได้รับการแสดงความยินดี
แม้แต่เมื่อคู่รักแต่งงานกันพวกเขาก็ได้รับคำแสดงความยินดี “ขอให้อยู่อย่างมีความสุขตลอดไป”
พ่อได้อธิบายแก่ลูกว่าลูกสามารถแสดงความยินดีต่อกันอย่างไร
เวลานี้เรากำลังประกาศสิทธิ์ในมรดกของการหลุดพ้นและการหลุดพ้นในชีวิตของเราจากพ่อที่ไม่มีขีดจำกัด
ลูกสามารถได้รับการแสดงความยินดีสำหรับสิ่งนี้ พ่อพูดว่า ขอแสดงความยินดีกับลูก!
ลูกกำลังกลายเป็นมหาเศรษฐีเป็นเวลา 21 ชาติเกิด
ผู้คนทั้งหมดสามารถประกาศสิทธิ์ในมรดกของพวกเขาจากพ่อได้อย่างไรเพื่อที่ว่าพวกเขาสามารถได้รับการแสดงความยินดี?
เวลานี้ลูกรู้เรื่องทั้งหมดนี้แล้ว แต่ผู้คนไม่สามารถแสดงความยินดีกับลูกได้
พวกเขาไม่รู้จักลูก เมื่อพวกเขาแสดงความยินดีกับลูก
พวกเขาก็สามารถกลับมามีค่าแก่การได้รับการแสดงความยินดีด้วยเช่นกัน
ลูกอยู่อย่างแฝงตัว ลูกสามารถแสดงความยินดีซึ่งกันและกัน: ขอแสดงความยินดี!
เวลานี้เราเป็นของพ่อที่ไม่มีขีดจำกัด ลูกมีโชคอย่างมาก
เมื่อบางคนถูกลอตเตอรี่หรือมีเด็กเกิดในครอบครัวของเขา เขาก็ได้รับการแสดงความยินดี
เมื่อเด็กสอบผ่าน เขาก็ได้รับการแสดงความยินดี
ลูกมีความสุขอย่างลึกล้ำภายในหัวใจของลูก ลูกแสดงความยินดีกับตนเอง “เราได้พบพ่อแล้วจากผู้ที่เราได้รับมรดกของเรา”
พ่ออธิบายว่าลูกดวงวิญญาณทั้งหมดเข้าสู่ความตกต่ำและเวลานี้ได้รับการหลุดพ้น
ทุกคนได้รับการแสดงความยินดีเช่นเดียวกัน เวลาสุดท้ายทุกคนจะมาทำความรู้จัก
ผู้ที่ต่ำกว่าเหล่านั้นจะแสดงความยินดีกับผู้ที่สูงส่งที่สุดเหล่านั้น
ลูกกลายเป็นจักรพรรดิและจักรพรรดินีของสกุลสุริยวงศ์
ผู้ที่อยู่ต่ำกว่าในสกุลจะแสดงความยินดีกับผู้ที่กลายเป็นลูกปัดของลูกประคำแห่งชัยชนะ
ผู้ที่สอบผ่านเหล่านั้นจะได้รับการแสดงความยินดี พวกเขาจะได้รับการกราบไหว้บูชา
จะให้การแสดงความยินดีกับดวงวิญญาณที่ได้รับสถานภาพสูง
จากนั้นดวงวิญญาณเหล่านั้นจะได้รับการกราบไหว้บูชาในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา
ผู้คนไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาจึงกราบไหว้บูชาพวกเขา
ดังนั้นความใส่ใจเดียวที่ลูกควรมีคือจะอธิบายให้แก่ผู้อื่นเข้าใจได้อย่างไร
เรากลับมาบริสุทธิ์ แล้วเราจะทำให้ผู้อื่นบริสุทธิ์ได้อย่างไร? โลกนี้ใหญ่มาก
เราควรทำอย่างไรที่สาส์นสามารถไปถึงทุกบ้านได้?
เมื่อแผ่นพับถูกโปรยลงมาก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้รับ
แต่ละคนต้องมีสาส์นอยู่ไว้ในมือของเขา เพราะว่าไม่มีใครรู้เลยว่าจะพบพ่อได้อย่างไร
พวกเขาพูดว่าทุกหนทางนำไปสู่พระเจ้า อย่างไรก็ตามพ่อพูดว่า
ลูกกราบไหว้บูชาทำทานและทำบุญชาติเกิดแล้วชาติเกิดเล่า แต่กระนั้นลูกก็ไม่พบหนทาง
พวกเขาพูดว่าทั้งหมดนี้ดำเนินต่อไปชั่วนิรันดร์ แต่สิ่งนั้นเริ่มขึ้นเมื่อใด?
พวกเขาไม่เข้าใจความหมายของ “ชั่วนิรันดร์”
ลูกเช่นกันก็เข้าใจตามลำดับกันไปตามความเพียรพยายามที่ลูกทำ เป็นเวลา 21
ชาติเกิดมีรางวัลของความรู้ซึ่งคือความสุข และแล้วก็มีความทุกข์
บัญชีของผู้ที่ได้ทำความเลื่อมใสศรัทธามากที่สุดนั้นได้มีการอธิบายแก่ลูกๆ
ไม่สามารถอธิบายรายละเอียดเหล่านี้ให้แต่ละคนได้ เราควรทำอย่างไร?
พิมพ์ลงในกระดาษหนังสือพิมพ์ใช่ไหม? นั่นก็ต้องใช้เวลา
ไม่ใช่ทุกคนจะได้รับสาส์นอย่างรวดเร็ว
ถ้าทุกคนเริ่มต้นทำความเพียรพยายามแล้วพวกเขาทั้งหมดก็จะได้ไปสวรรค์
มันไม่สามารถเป็นเช่นนั้นได้ เวลานี้ลูกกำลังเพียรพยายามเพื่อสวรรค์
เราจะทำให้ผู้ที่เป็นของศาสนาของเราปรากฏขึ้นมาอีกครั้งได้อย่างไร?
ลูกจะรู้ได้อย่างไรว่าใครได้ถูกโยกย้าย (เปลี่ยนศาสนาไป)?
บรรดาผู้ที่เชื่อในศาสนาฮินดู พวกเขาโดยดั้งเดิมเป็นของศาสนาเทพ
ไม่มีใครแม้แต่จะรู้สิ่งนี้
บรรดาผู้ที่เป็นชาวฮินดูอย่างแน่วแน่จะเชื่อในศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไปของพวกเขา
เวลานี้ทุกคนไม่บริสุทธิ์ พวกเขาร้องเรียกหา: โอ ผู้ชำระให้บริสุทธิ์ได้โปรดมา!
พวกเขาเรียกหาผู้ที่ไม่มีตัวตนให้มาและพาพวกเขาไปยังโลกที่บริสุทธิ์
พวกเขาประกาศสิทธิ์ในอาณาจักรที่ใหญ่เช่นนี้ได้อย่างไร?
ไม่มีอาณาจักรใดในบารัตเวลานี้ที่พวกเขาจะพ่ายแพ้และประกาศสิทธิ์
พวกเขาไม่ได้มาซึ่งอาณาจักรของพวกเขาโดยการต่อสู้รบรา
ไม่มีใครรู้ว่ามนุษย์ธรรมดาสามารถได้รับการทำให้กลายเป็นเทพอย่างไร
เวลานี้ลูกได้มารู้สิ่งนี้จากพ่อแล้ว
เราสามารถบอกสิ่งนี้แก่ผู้อื่นได้อย่างไรเพื่อที่พวกเขาสามารถได้รับการหลุดพ้นและการหลุดพ้นในชีวิต?
จะต้องมีใครบางคนผู้ที่เป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขาทำความเพียรพยายามเพื่อที่พวกเขาจะได้รู้ด้วยตัวของพวกเขาเองและจดจำอัลล่าห์
ถามพวกเขาว่า: คุณจะแสดงความยินดีกับใครในช่วงเวลาของการเฉลิมฉลองวันอีด?
คุณมีศรัทธาที่มั่นคงหรือไม่ว่าคุณจะไปหาอัลล่าห์? คุณมีความสุขมากในสิ่งนั้น
คุณได้ทำสิ่งนั้นมาเป็นเวลาหลายปี คุณกลับมาสับสนว่าคุณจะได้ไปหาพระเจ้าหรือไม่
ทำไมเราจึงศึกษาเล่าเรียนตลอดมา? ผู้สูงสุดที่สุดคืออัลล่าห์เท่านั้น บอกพวกเขาว่า:
“คุณก็เป็นดวงวิญญาณเช่นกัน เป็นลูกๆของอัลล่าห์
ดวงวิญญาณปรารถนาอย่างมากที่จะไปหาอัลล่าห์
ดวงวิญญาณเริ่มแรกก็บริสุทธิ์เวลานี้กลับมาไม่บริสุทธิ์
โลกนี้ไม่สามารถเรียกว่าสวรรค์เวลานี้ ดวงวิญญาณทั้งหมดไม่บริสุทธิ์
พวกเขาจะกลับมาบริสุทธิ์ได้อย่างไรเพื่อที่พวกเขาจะสามารถไปยังบ้านของอัลลาห์ได้?
ดวงวิญญาณที่ชั่วร้ายไม่ได้คงอยู่ที่นั่น พวกเขาต้องปราศจากกิเลส
ดวงวิญญาณไม่ได้กลับมาสะโตประธานทันที”
ลูกจะต้องคิดและไตร่ตรองเกี่ยวกับทุกสิ่งเหล่านี้
บาบาไตร่ตรองมหาสมุทรแห่งความรู้นี้ และนี่คือวิธีที่ท่านสามารถอธิบายให้แก่ลูกได้
ลูกเช่นกันควรสร้างวิธีการต่างๆที่จะอธิบายให้แก่ผู้อื่น อัจชะ
ถึงลูกๆ
ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก
ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
พ่อได้มีความคิดที่จะมาที่นี่และปลดปล่อยลูกๆจากความทุกข์ของพวกเขา
และทำให้พวกเขามีความสุข ลูกต้องกลายเป็นผู้ช่วยของพ่อในลักษณะเดียวกัน
ลูกควรคิดถึงวิธีที่จะทำให้สาส์นไปถึงทุกบ้านด้วยเช่นกัน
2.
เพื่อที่จะได้รับการแสดงความยินดีจากทุกคน
จงเพียรพยายามที่จะกลายเป็นลูกปัดของลูกประคำแห่งชัยชนะ
กลับมามีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา
พร:
ขอให้ลูกสวมมงกุฎแห่งแสงโดยมีสำนึกรู้ของการเป็นคารันฮาร์(ผู้ที่ทำ)
และของคาราวันฮาร์(ผู้ที่เป็นแรงบันดาลใจ)
ฉันเป็นเครื่องมือ
คาร์มาโยคี คารันฮาร์(คนที่ทำ) และพ่อคือคาราวันฮาร์(คนที่เป็นแรงบันดาลใจ)
หากลูกมีสำนึกรู้นี้อย่างเป็นธรรมชาติ
ลูกจะมีมงกุฎแห่งแสงอย่างสม่ำเสมอและเป็นจักรพรรดิที่ไร้กังวล
เพียงแค่พ่อกับฉันและไม่มีบุคคลที่สาม:
การมีประสบการณ์กับสิ่งนี้อย่างง่ายดายทำให้ลูกกลายเป็นจักรพรรดิที่ไร้กังวล
ผู้ที่กลายมาเป็นจักรพรรดิเช่นนั้นจะกลายเป็นผู้เอาชนะมายา
ผู้เอาชนะประสาทสัมผัสทางร่างกายและผู้เอาชนะวัตถุธาตุ อย่างไรก็ตามหากแม้ไม่ตั้งใจ
ใครบางคนวางภาระของความรู้สึกและเจตนาที่ไร้ประโยชน์ไว้กับตนเอง
และแล้วแทนที่จะเป็นมงกุฎ เขาจะวางตะกร้าของความกังวลมากมายบนศีรษะของเขา
คติพจน์:
เพื่อที่จะเป็นอิสระจากบ่วงพันธะทั้งหมด
ให้กลายเป็นผู้ทำลายความผูกพันยึดมั่นต่อความสัมพันธ์ทางร่างกายทั้งหมด
สัญญาณที่ละเอียดอ่อน:
เวลานี้จุดไฟแห่งความรักและทำให้โยคะของลูกเป็นภูเขาไฟ
โยคะของลูกสามารถมีพลังเมื่อความคิดอื่นทั้งหมดกลับมาสงบลง
และมีเพียงความคิดเดียวคือ "บาบาและฉัน" ความคิดทั้งหมด
นอกเหนือจากประสบการณ์การพบกับพ่อ ควรหายไป
เมื่อนั้นที่ลูกจะกล่าวว่าการจดจำระลึกถึงของลูกมีพลังเป็นเช่นไฟ
ที่ด้วยสิ่งนั้นการเปลี่ยนแปลงสามารถเกิดขึ้นได้