07.09.25 Avyakt Bapdada Thai Murli
31.12.2006 Om Shanti Madhuban
ด้วยพลังแห่งความมุ่งมั่นและการเปลี่ยนแปลง
จงอำลาคำว่า 'เหตุผล' และ 'ปัญหา' และกลายเป็นตัวของการแก้ปัญหา
วันนี้ บัพดาดา ผู้สร้างยุคใหม่
ได้มาเพื่อแสดงความยินดีสำหรับปีใหม่และยุคใหม่แก่ลูกๆทุกคนในทุกหนแห่ง
ลูกๆก็มาถึงที่นี่จากทุกหนแห่งเพื่อแสดงความยินดีด้วยเช่นกัน
ลูกมาเพียงเพื่อแสดงความยินดีสำหรับปีใหม่หรือมาเพื่อแสดงความยินดีสำหรับยุคใหม่ด้วยเช่นกันหรือไม่?
เช่นที่ลูกมีความสุขในยุคใหม่ ลูกก็ให้ความสุขสำหรับยุคใหม่ด้วยเช่นกัน ดังนั้น
ดวงวิญญาณบราห์มินทั้งหลายจดจำยุคใหม่ได้มากมายเพียงใด?
ยุคใหม่ได้มาอยู่ตรงหน้าลูกแล้วหรือยัง? เช่นที่ปีใหม่กำลังมาถึงในหัวใจของลูก
ในทำนองเดียวกัน ลูกมีประสบการณ์หรือไม่ว่ายุคใหม่ก็เพิ่งจะมาถึงเช่นกัน?
ความตระหนักรู้ถึงยุคใหม่นี้ใกล้เข้ามาหรือไม่?
ชุดเครื่องแต่งกายที่เปล่งประกายของร่างกายของลูกปรากฏขึ้นเบื้องหน้าลูกหรือไม่?
บัพดาดากำลังแสดงความยินดีกับลูกเป็นสองเท่า
ฉากและทิวทัศน์ของยุคใหม่ได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาและจิตใจของลูกๆหรือไม่? ร่างกาย
จิตใจ ความมั่งคั่ง และความสัมพันธ์ (ผู้คน) ในยุคใหม่ของลูกนั้นสูงส่งยิ่งนัก
และลูกมีคลังสมบัติของการได้มาซึ่งการบรรลุผลทั้งหมด
ลูกมีความสุขที่วันนี้ลูกอยู่ในโลกเก่าและที่ลูกกำลังจะก้าวเข้าสู่อาณาจักรใหม่
ลูกจดจำอาณาจักรของลูกได้ไหม? วันนี้ลูกมาที่นี่เพื่อสองงาน
ลูกมาเพื่ออำลาปีเก่าและอวยพรปีใหม่/กล่าวสวัสดีปีใหม่ ในทำนองเดียวเดียวกัน
ลูกมาเพียงเพื่ออำลาปีเก่าเท่านั้นหรือไม่? หรือลูกมาเพื่ออำลาธรรมชาติเก่า
ซันสการ์เก่า และพฤติกรรมของโลกเก่าด้วยเช่นกัน? การอำลาปีเก่านั้นง่าย
แต่การอำลาซันสการ์เก่าของลูกนั้นง่ายเช่นเดียวกันหรือไม่? ลูกคิดอย่างไร?
ลูกมาเพื่ออำลาต่อมายาด้วยเช่นกันหรือมาเพียงเพื่ออำลาปีเก่าเท่านั้น?
ลูกต้องการอำลาเธอใช่หรือไม่? หรือลูกมีความรักต่อมายาเล็กน้อยหรือไม่?
ลูกปรารถนาที่จะเก็บเธอไว้นานกว่านี้อีกสักหน่อยไหม?
วันนี้
บัพดาดาต้องการให้ลูกๆทั้งหลายในทุกหนแห่งได้อำลาธรรมชาติเก่าและซันสการ์เก่าของลูก
ลูกสามารถทำสิ่งนี้ได้หรือไม่? ลูกมีความกล้าหาญเช่นนี้หรือไม่?
หรือลูกคิดว่าลูกต้องการจะกล่าวอำลามายา แต่เธอก็ยังคงมา? ในวันนี้
ลูกมีความกล้าหาญด้วยพลังของความมุ่งมั่นที่จะบอกลาซันสการ์เก่าของลูกและทักทายซันสการ์แห่งยุคใหม่และชีวิตใหม่หรือไม่?
ลูกมีความกล้าหาญเช่นนี้หรือไม่? ผู้ที่รู้สึกว่าสิ่งนี้เป็นไปได้
ว่ามันต้องเกิดขึ้น: ลูกมีความกล้าหาญเช่นนี้หรือไม่?
ผู้ที่รู้สึกว่าลูกมีความกล้าหาญ ยกมือขึ้น! ลูกมีความกล้าหาญหรือไม่? อัจชะ
ผู้ที่ยังไม่ได้ยกมือ: ลูกยังคงคิดอยู่หรือไม่? ดับเบิ้ลฟอเรนเนอร์ยกมือขึ้นบ้างไหม?
ผู้ที่มีความกล้าหาญ ยกมือขึ้น! ไม่ใช่ทุกคน อัจชะ ดับเบิ้ลฟอเรนเนอร์ฉลาด
เพราะลูกมีความซาบซึ้งสองเท่า ขอให้ระวังหน่อยแล้วกัน!
บัพดาดาจะเห็นผลลัพธ์ทุกเดือน บัพดาดาพอใจที่ลูกเป็นลูกที่กล้าหาญ
ลูกเป็นลูกที่ตอบสนองด้วยความฉลาด เพราะเหตุใดน่ะหรือ?
เพราะลูกรู้ว่าด้วยความกล้าหาญเพียงหนึ่งก้าวของลูก
ลูกจะได้รับความช่วยเหลือจากบาบาเป็นพันๆก้าวอย่างแน่นอน ลูกมีสิทธิ์
ลูกมีสิทธิ์ได้รับความช่วยเหลือเป็นพันๆก้าว
เพียงแต่ว่ามายาพยายามสั่นคลอนความกล้าหาญของลูก
บัพดาดาเห็นว่าลูกรักษาความกล้าหาญไว้ได้ดี
และบัพดาดาก็แสดงความยินดีกับลูกจากหัวใจของท่าน อย่างไรก็ตาม
ลูกรักษาความกล้าหาญอยู่ แต่ในขณะเดียวกัน
ลูกก็สร้างความคิดที่ไร้ประโยชน์ด้วยเช่นกัน เช่น "ฉันกำลังทำสิ่งนี้อยู่
มันต้องเกิดขึ้น ฉันจะต้องทำสิ่งนี้อย่างแน่นอน... ฉันไม่รู้"
การคิดว่าไม่รู้จะทำให้ความกล้าหาญของลูกอ่อนแอลง ในระหว่างนั้นก็มี "แต่!" "ฉันกำลังทำสิ่งนี้อยู่
แต่..." "ฉันต้องทำสิ่งนี้ แต่..." "ฉันต้องโบยบินไปข้างหน้า แต่..."
สิ่งนี้ทำให้ความกล้าหาญของลูกแปรปรวนขึ้นๆลงๆ ดังนั้น อย่าคิดถึงเรื่อง “แต่”
ลูกต้องทำมัน ทำไมมันถึงจะไม่เกิดขึ้นในเมื่อพ่ออยู่กับลูก? ดังนั้น จะไม่มี “แต่”
ใดๆ กับการเป็นมิตรร่วมทางของพ่อได้
แล้วลูกจะนำความใหม่อะไรมาในปีใหม่นี้?
จงเสริมสร้างเท้าแห่งความกล้าหาญของลูกให้เข้มแข็งขึ้น
จงเสริมสร้างเท้าแห่งความกล้าหาญของลูกให้เข้มแข็งจนถึงขนาดที่มายาเองสั่นคลอน
แต่เท้าของลูกไม่สั่นคลอน แล้วลูกจะนำมาซึ่งความใหม่นี้ในปีใหม่หรือไม่?
หรือบางครั้งลูกจะอยู่อย่างมั่นคงและบางครั้งก็จะอยู่อย่างแปรปรวนขึ้นๆลงๆ?
ลูกจะไม่ทำเช่นนี้ใช่ไหม? หน้าที่และอาชีพของลูกทุกคนคืออะไร? ลูกเรียกตนเองว่าอะไร?
จดจำว่า ผู้ให้คุณประโยชน์ต่อโลก ผู้เปลี่ยนแปลงโลก: นี่คืออาชีพของลูกใช่หรือไม่?
ดังนั้น บางครั้งบัพดาดาก็รู้สึกขบขันอย่างอ่อนหวาน ลูกมีสมญาว่า 'ผู้เปลี่ยนแปลงโลก'
ใช่หรือไม่? ลูกเป็นผู้เปลี่ยนแปลงโลกหรือไม่?
หรือลูกเป็นผู้เปลี่ยนแปลงแห่งลอนดอนหรือผู้เปลี่ยนแปลงแห่งอินเดีย?
ลูกทุกคนเป็นผู้เปลี่ยนแปลงโลกหรือไม่? ไม่ว่าลูกจะอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน ในลอนดอน
หรือในอเมริกา ลูกทุกคนเป็นผู้ให้คุณประโยชน์ต่อโลกใช่หรือไม่? ถ้าใช่ ยกมือขึ้น!
ลูกแน่ใจหรือไม่? หรือว่าลูกแน่ใจแค่ 75% เท่านั้น?
ลูกเป็นผู้ให้คุณประโยชน์ต่อโลกถึง 75% แล้วลูกกลับไม่ได้รับอนุญาตให้เป็นอีก 25%
ที่เหลือหรือ? อะไรคือความท้าทายของลูก?
ลูกได้ท้าทายธรรมชาติที่ลูกจะเปลี่ยนแปลงธรรมชาติอย่างแน่นอน
แล้วลูกผู้เปลี่ยนแปลงโลก ลูกผู้เปลี่ยนแปลงธรรมชาติ
จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตนเองได้หรือ? กองทัพชักตีกำลังคิดอะไรอยู่? ปีนี้
สมญาของลูกสำหรับตัวลูกเองและของครอบครัวบราห์มินคือ 'ผู้เปลี่ยนแปลงโลก'
นี่เป็นเพราะว่า อันดับแรก บุญเริ่มต้นที่บ้าน ดังนั้น
ลูกจะเปิดเผยรูปในทางปฏิบัติของอาชีพของลูกใช่หรือไม่?
ลูกเองก็ต้องการการเปลี่ยนแปลงตนเองของลูก และบัพดาดาก็ต้องการสิ่งนี้เช่นกัน
ลูกรู้เรื่องนี้ เมื่อบัพดาดาถามลูกทุกคนว่าเป้าหมายของลูกคืออะไร
ลูกส่วนใหญ่ตอบว่า "กลับมาทัดเทียมกับพ่อ" สิ่งนี้ถูกต้องไหม?
ลูกต้องการที่จะกลับมาทัดเทียมกับพ่อใช่หรือไม่? หรือลูกจะดูก่อน?
ลูกจะคิดเกี่ยวกับสิ่งนี้ก่อนหรือไม่? ดังนั้นในปีใหม่นี้ – ลูกได้ครบรอบปีที่ 70 (ในปี
2006) และตอนนี้ลูกกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 71
บัพดาดาก็ต้องการให้ลูกแสดงให้เห็นถึงสิ่งนี้ด้วยการแสดงสิ่งมหัศจรรย์บางอย่าง
ลูกทุกคนมีโปรแกรมที่หลากหลายสำหรับการทำงานรับใช้ด้วยความกระตือรือร้นอย่างมาก
และลูกก็ประสบความสำเร็จในสิ่งนั้นด้วย
บัพดาดามีความสุขที่ลูกประสบความสำเร็จในความพยายามที่ลูกทำ
ความพยายามเหล่านั้นไม่สูญเปล่า แต่ทำไมลูกถึงทำงานรับใช้? ลูกตอบว่าอย่างไร?
เพื่อที่จะเปิดเผยพ่อ ดังนั้น วันนี้พ่อกำลังถามคำถามลูก ลูกต้องเปิดเผยพ่อ
และลูกต้องทำสิ่งนั้นอย่างแน่นอน แต่ก่อนที่จะเปิดเผยพ่อ จงเปิดเผยตัวลูกเอง พูดสิ
ชีพชักตี ปีนี้ ลูกจะเปิดเผยตนเองในฐานะชีพชักตีหรือไม่? ลูกจะทำสิ่งนี้ไหม? จานาก
พูดสิ! ลูกจะทำสิ่งนี้ไหม? (เราต้องทำสิ่งนี้) มิตรร่วมทางของลูก
ผู้ที่นั่งอยู่แถวหน้า ผู้เป็นครูอยู่แถวสอง:
ลูกผู้เป็นครูคือผู้ที่จะทำสิ่งนี้ในปีนี้ ไม่ใช่ว่าลูกจะทำสิ่งนี้บางครั้ง
แต่ลูกจะแสดงให้เห็นโดยการทำสิ่งนี้ อัจชะ: ครูทุกคนยกมือขึ้นหรือไม่
หรือว่าบางคนไม่ยกมือ?
อัจชะ ผู้ที่มาจากมธุบัน ลูกต้องทำสิ่งนี้
ลูกจะต้องทำสิ่งนี้เพราะมธุบันนั้นอยู่ใกล้ จดวันที่นี้ลงไป (31 ธ.ค.) และก็เวลา
(21.20 น.) ด้วย แล้วกองทัพพันดาวาสล่ะ? ลูกพันดาวาสทั้งหลายจะแสดงให้เห็นอะไร?
พันดาวาสผู้มีชัยชนะ ไม่ใช่ผู้ที่มีชัยชนะในบางครั้งเท่านั้น
แต่ลูกคือพันดาวาสผู้มีชัยชนะ ลูกจะแสดงให้เห็นสิ่งนี้ในปีนี้หรือไม่?
หรือลูกจะพูดว่า "ฉันจะทำอย่างไรได้? มายามา ทั้งที่ฉันไม่ต้องการ แต่เธอก็มา"?
บัพดาดาได้เคยบอกลูกไว้ก่อนหน้านี้เช่นกันว่ามายาจะไม่หยุดมาจนกว่าจะถึงเวลาสุดท้าย
อย่างไรก็ตาม เป็นหน้าที่ของมายาที่จะต้องมา และหน้าที่ของลูกคืออะไร?
คือการได้รับชัยชนะ ดังนั้น อย่าคิดว่า "ฉันไม่ได้คิด (มันจะเกิดขึ้น)
ฉันไม่ต้องการ แต่มายามาและมันก็เกิดขึ้น!" เวลานี้ พร้อมกับปีนี้
บัพดาดาก็ต้องการให้ลูกบอกลาคำพูดเหล่านั้นเช่นกัน ตอนเที่ยงคืนนี้
ลูกก็จะอำลาปีนี้ใช่ไหม? ดังนั้น เมื่อลูกตีระฆัง ระฆังนั้นจะเป็นระฆังสำหรับอะไร?
สำหรับการสิ้นสุดวัน สิ้นสุดปี หรือสำหรับการอำลามายา? มีสองสิ่ง ประการแรกคือ
ลูกอ่อนแอในพลังของการเปลี่ยนแปลง ลูกวางแผนได้ดีมาก “ฉันจะทำสิ่งนี้
ฉันจะทำสิ่งนั้น ฉันจะทำสิ่งนี้” แม้แต่บัพดาดาก็ยังรู้สึกพอใจที่ลูกวางแผนได้ดีมาก
ลูกวางแผนได้ดีมาก แต่เพราะลูกขาดพลังในการเปลี่ยนแปลง
บางสิ่งบางอย่างจึงได้รับการเปลี่ยนแปลง และบางสิ่งบางอย่างก็ถูกทิ้งไว้
ความอ่อนแอประการที่สองคือความมุ่งมั่น ลูกมีความคิดที่ดีมาก
วันนี้บัพดาดาได้เห็นการ์ด คำสัญญา ความตั้งใจ ฯลฯ มากมาย จดหมายดีๆ มากมายถูกส่งมา
(บนเวทีได้รับการประดับตกแต่งด้วยการ์ด จดหมาย
และโน้ตที่มีการตั้งปณิธานสำหรับปีใหม่หรือความตั้งใจที่จะทำตลอดทั้งปีใหม่)
ดังนั้น ลูกจะทำสิ่งนี้และแสดงให้เห็นสิ่งนี้ มันต้องเกิดขึ้น
ลูกต้องกลายเป็นสิ่งนี้ รักและระลึกถึงมากมายหลายล้านเท่า
ทุกสิ่งได้ไปถึงบัพดาดาแล้ว
เสียงจากหัวใจของทุกคนที่นั่งอยู่ที่นี่เบื้องหน้าเป็นการส่วนตัวก็ดังก้องไปถึงบัพดาดาเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้บัพดาดากำลังขีดเส้นใต้เน้นย้ำถึงสองพลังนี้
หนึ่งคือการขาดความมุ่งมั่น
สาเหตุของความอ่อนแอนี้คือความประมาทความไม่ระมัดระวังและการมองผู้อื่น "มันจะเกิดขึ้น
ฉันกำลังทำสิ่งนี้ ฉันจะทำสิ่ง ฉันจะทำสิ่งนี้อย่างแน่นอน"
ปีนี้ บัพดาดาต้องการให้ลูกกล่าวคำอำลาคำๆหนึ่งตลอดกาล บาบาควรจะบอกลูกหรือไม่?
ในกรณีนั้นลูกก็ต้องบอกลามัน ปีนี้ บัพดาดาต้องการให้ลูกบอกลาคำว่า 'เหตุผล'
ให้มีหนทางแก้ปัญหาและจบสิ้นเหตุผล
ให้ปัญหาจบสิ้นลงและขอให้ลูกกลายเป็นตัวของวิธีแก้ปัญหา
ไม่ว่าเหตุผลนั้นจะเป็นตัวลูกเอง มิตรของลูก ชุมนุม หรือสถานการณ์
ในพจนานุกรมบราห์มิน คำว่า 'เหตุผล' และ 'ปัญหา' จะต้องถูกเปลี่ยนเป็น 'วิธีแก้ปัญหา'
เช้านี้ในเวลาอมฤต ลูกได้พูดกับบาบาเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ ว่าในปีใหม่
ลูกจะทำสิ่งใหม่ๆ ดังนั้นเวลานี้
บัพดาดาจึงต้องการให้ลูกเฉลิมฉลองปีใหม่ในลักษณะที่คำสองคำนี้จบสิ้นลง
จงเป็นผู้ที่ยกระดับผู้อื่น ไม่ว่าตัวลูกเองจะกลายเป็น 'เหตุผล' หรือคนอื่นจะเป็น 'เหตุผล'
จงเป็นผู้ที่ยกระดับผู้อื่น จงเป็นดวงวิญญาณที่มีเมตตา
จงเป็นผู้ที่มีความปรารถนาดีและความรู้สึกที่บริสุทธิ์
และให้ความร่วมมือและได้รับความรัก
แล้วลูกจะกำหนดให้ปีใหม่นี้เป็นอย่างไร? ก่อนหน้านี้ ลูกเคยกำหนดให้แต่ละปี (เป็นปีพิเศษหรือให้เป็นบางสิ่งบางอย่างโดยเฉพาะ)
ลูกจำได้ไหม? ดังนั้น ปีนี้
บัพดาดาไม่ได้แค่ต้องการให้ปีนี้ถูกกำหนดให้เป็นปีแห่งความคิดที่สูงส่งและบริสุทธิ์
ความคิดที่มุ่งมั่น ความคิดแห่งความรักและความร่วมมือเท่านั้น
แต่บาบาต้องการเห็นลูกเป็นเช่นนั้น
จงทำให้พลังของความมุ่งมั่นและพลังของการเปลี่ยนแปลงเป็นมิตรร่วมทางของลูกอยู่เสมอ
แม้ว่าใครบางคนจะให้สิ่งที่เป็นลบกับลูกก็ตาม
ลูกสอนหลักสูตรให้ผู้อื่นเปลี่ยนสิ่งที่เป็นลบให้เป็นบวก
แล้วลูกเองไม่สามารถเปลี่ยนสิ่งที่เป็นลบให้เป็นบวกได้หรือ?
ผู้อื่นได้รับอิทธิพลจากภายนอก ดังนั้นลูกจึงมีเมตตาต่อผู้ที่ได้รับอิทธิพล
ภาพลักษณ์หรือสัญลักษณ์ที่ไม่มีชีวิตคือภาพลักษณ์ของลูกใช่หรือไม่?
ในบารัตก็มีภาพลักษณ์ของดับเบิ้ลฟอเรนเนอร์ที่ได้รับการกราบไหว้บูชาด้วยเช่นกันใช่ไหม?
ลูกเคยเห็นภาพลักษณ์ของลูกในวัดดิลวาลาแล้วใช่หรือไม่? ดีมากเลย
ในเมื่อภาพลักษณ์ที่ไม่มีชีวิตของลูกมีเมตตา
ลูกพูดว่าอย่างไรเมื่ออยู่ต่อหน้าภาพลักษณ์เหล่านั้น? "จงมีเมตตา!
จงมีความเห็นอกเห็นใจ! จงมีเมตตา! เมตตา! เมตตา!" ดังนั้น
จงมีเมตตาต่อตนเองก่อนอยู่เสมอ แล้วจึงมีเมตตาต่อครอบครัวบราห์มิน
หากบางคนอยู่ภายใต้อิทธิพลของซันสการ์ของเขา หากพวกเขาอ่อนแอ
ในเวลานั้นพวกเขาจะไร้สติ ดังนั้น จงอย่าโกรธ
บัพดาดาได้รับรายงานเกี่ยวกับความโกรธมากมาย หากไม่ใช่ความโกรธ
ลูกก็รักลูกๆของความโกรธมาก การวางอำนาจสั่งการหรือการชอบบงการ
ก็เป็นลูกของความโกรธ ดังนั้น เช่นเดียวกับในครอบครัว ความรักที่มีต่อลูกจะลดน้อยลง
แต่ความรักที่มีต่อหลานนั้นจะเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น
ความโกรธก็เป็นพ่อของการวางอำนาจสั่งการและความซาบซึ้งที่ผิดๆเช่นกัน
ความซาบซึ้งมีหลากหลายรูปแบบ เช่น ความซาบซึ้งของสติปัญญา ความซาบซึ้งในหน้าที่
ความซาบซึ้งในงานพิเศษของงานรับใช้ที่ลูกทำ ทั้งหมดนี้คือการวางอำนาจสั่งการ
จงมีเมตตา จงมีความเห็นอกเห็นใจ ดูสิ ในปีใหม่
ลูกก็ทำให้ปากของกันและกันหวานชื่นเช่นกัน ลูกก็ทักทายกันอวยพรกัน
และลูกก็ทำให้ปากของพวกเขาหวานชื่นใช่ไหม? ดังนั้น ตลอดทั้งปี อย่าแสดงความขมขื่น
คนเหล่านั้นทำให้ปากหวานชื่น ลูกไม่เพียงแต่ทำให้ปากหวานชื่นเท่านั้น
แต่ทำให้ใบหน้าของลูกหวานชื่นด้วย
จงให้ใบหน้าของลูกเต็มไปด้วยความรักทางจิตวิญญาณและมีรอยยิ้มอยู่เสมอ
อย่ามีความขมขื่น เมื่อลูกส่วนใหญ่มีการสนทนาจากใจถึงใจกับบัพดาดา
ลูกบอกบาบาอย่างซื่อสัตย์เกี่ยวกับตัวลูกเอง เพราะถึงอย่างไรก็ไม่มีใครฟังอยู่แล้ว
ดังนั้น ในผลลัพธ์ของลูกส่วนใหญ่
จึงมีรายงานเรื่องความโกรธและลูกๆของความโกรธเพิ่มมากขึ้น
ดังนั้น ในปีใหม่นี้ บัพดาดาจึงต้องการให้ลูกขจัดความขมขื่นนี้ออกไป
ลูกหลายคนได้เขียนคำสัญญาและบอกว่าลูกไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น แต่มันก็เกิดขึ้น
ดังนั้นบัพดาดาจึงบอกเหตุผลแก่ลูกว่า มันคือการขาดความมุ่งมั่น
ลูกแม้กระทั่งให้คำสัญญาต่อหน้าบัพดาดาในความคิดของลูก
แต่ความมุ่งมั่นก็เป็นพลังเช่นนั้นที่แม้แต่ผู้คนในโลกยังพูดถึงมันว่า "ถึงแม้ว่าคุณจะต้องออกจากร่างของคุณ
แต่คำสัญญาของคุณจะต้องไม่ถูกทำลาย" ลูกอาจต้องตาย ต้องก้มหัวลง
ต้องเปลี่ยนแปลงตนเอง ต้องอดทน
แต่มีเพียงผู้ที่อยู่อย่างมั่นคงในคำสัญญาของเขาเท่านั้นที่จะประสบความสำเร็จในทุกย่างก้าว
เพราะความมุ่งมั่นคือกุญแจสู่ความสำเร็จ ลูกทุกคนมีกุญแจนี้
แต่ลูกกลับสูญเสียมันไปเมื่อลูกต้องการ แล้วลูกล่ะคิดอย่างไร?
ในปีใหม่นี้ ลูกต้องนำมาซึ่งความใหม่ให้กับตัวลูกเอง ให้กับผู้ที่ร่วมมือกับลูก
และให้กับการเปลี่ยนแปลงโลก ผู้ที่นั่งอยู่ข้างหลังกำลังฟังอยู่หรือเปล่า?
ลูกกำลังจะทำสิ่งนี้อยู่ใช่หรือไม่? อย่าคิดว่า "ซีเนียร์หรือผู้อาวุโสจะทำก่อน
เราเป็นเพียงแค่เด็กน้อย" เด็กน้อยก็ทัดเทียมกับพ่อ ลูกแต่ละคนมีสิทธิ์ในพ่อ
แม้ว่าลูกจะมาที่นี่เป็นครั้งแรก เมื่อลูกพูดว่า "บาบาของฉัน" ลูกก็มีสิทธิ์
ลูกมีสิทธิ์ที่จะทำตามศรีมัต และลูกก็มีสิทธิ์ที่จะได้มาซึ่งการบรรลุผลทุกประการ
ครูทั้งหลาย จงจัดทำโปรแกรมในบันดาลูกๆเอง ผู้ที่มาจากต่างประเทศและในบารัต
จงจัดทำโปรแกรม บัพดาดาจะให้รางวัลแก่ลูก
โซนไหนในอินเดียหรือต่างประเทศที่จะได้อันดับหนึ่ง? พวกเขาจะได้รับถ้วยทองคำ
อย่าเพียงแต่ทำให้ตนเองเป็นเช่นนี้ แต่จงทำให้มิตรร่วมทางของลูกเป็นเช่นนี้ด้วย
เพราะบัพดาดาได้เห็นว่า หากปราศจากการเปลี่ยนแปลงของลูกๆ
การเปลี่ยนแปลงของโลกก็จะเกิดขึ้นอย่างช้าๆ
และดวงวิญญาณทั้งหลายก็กำลังได้รับความทุกข์ในรูปแบบใหม่
มีเหตุผลใหม่ๆที่ทำให้ความทุกข์และความไม่สงบเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น เวลานี้
เมื่อได้ยินเสียงร้องไห้แห่งความทุกข์ของลูกๆ พ่อจึงปรารถนาที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลง
โอ้ นายผู้ประทานความสุข มีความเมตตาแก่ผู้ที่กำลังประสบกับความทุกข์!
เหล่าผู้เลื่อมใสศรัทธาก็เหนื่อยล้ากับการทำการสักการะบูชาเช่นกัน
จงทำให้ผู้เลื่อมใสศรัทธาได้รับมรดกของการหลุดพ้น ลูกรู้สึกเมตตาหรือไม่?
ลูกกำลังยุ่งอยู่กับงานรับใช้ของตนเองและตารางเวลาของตนเองหรือไม่?
ลูกก็เป็นเครื่องมือเช่นกัน ไม่ใช่แค่ซีเนียร์เท่านั้นที่เป็นเครื่องมือ
ลูกแต่ละคนที่พูดว่า "บาบาของฉัน" และยอมรับคำนั้น ก็เป็นเครื่องมือเช่นกัน ดังนั้น
ในปีใหม่ ลูกก็ให้ของขวัญแก่กันและกันด้วยใช่ไหม? ดังนั้น
เวลานี้ลูกต้องเติมเต็มความหวังของผู้เลื่อมใสศรัทธาและทำให้พวกเขาได้รับของขวัญ
ปลดปล่อยผู้ที่กำลังประสบกับความทุกข์จากความทุกข์ของพวกเขา
ให้ความสงบของดินแดนแห่งความสงบแก่พวกเขา ให้ของขวัญนี้แก่พวกเขา
ให้ของขวัญแห่งความรักและความร่วมมือจากหัวใจของลูกแก่ทุกดวงวิญญาณในครอบครัวบราห์มิน
ลูกมีสต็อกของของขวัญนี้หรือไม่? ลูกมีความรักและความร่วมมือหรือไม่?
ลูกมีพลังที่จะทำให้พวกเขาได้รับการหลุดพ้นหรือไม่? ผู้ที่มีสต็อกมากมาย ยกมือขึ้น!
ลูกมีสต็อกเช่นนี้หรือไม่? ลูกมีสต็อกเพียงเล็กน้อยหรือไม่? ผู้ที่นั่งอยู่แถวหน้า
ลูกมีสต็อกเพียงเล็กน้อยหรือไม่? บริจโมฮันไม่ได้ยกมือขึ้น ลูกมีสต็อกนี้ใช่ไหม?
ลูกมีสต็อกนี้หรือไม่? ลูกทุกคนยกมือขึ้นหรือไม่? ลูกมีสต็อกนี้หรือไม่?
แล้วลูกทำอะไรกับสต็อกนี้? ลูกเพียงแค่สะสมมันไว้เท่านั้นหรือ? ครูทั้งหลาย
ลูกมีสต็อกนี้ใช่หรือไม่? ดังนั้น จงให้ทาน! มีใจกว้างและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่!
ชาวมธุบันจะทำอะไร? ลูกมีสต็อกนี้ในมธุบันหรือไม่? ทุกที่ในมธุบันเต็มไปด้วยสต็อก
ดังนั้น เวลานี้จงกลายเป็นผู้ประทาน อย่าเพียงแค่สะสม
จงกลายเป็นผู้ประทานและเฝ้าแต่ให้ต่อไป โอเคไหม? อัจชะ
เวลานี้
ลูกสามารถสัมผัสได้ว่าตนเองเป็นนายของจิตใจและทำให้จิตใจมั่นคงได้ภายในหนึ่งวินาทีหรือไม่?
ลูกสามารถสั่งการได้หรือไม่? ไปยังบ้านอันแสนหวานของลูกในหนึ่งวินาที
ในหนึ่งวินาทีจงไปยังอาณาจักรของลูก,สวรรค์ จิตใจของลูกเชื่อฟังคำสั่งของลูกหรือไม่?
หรือมันแปรปรวนขึ้นๆลงๆ? หากลูกผู้เป็นนายเป็นผู้ที่มีค่าและมีพลัง
ก็เป็นไปไม่ได้ที่จิตใจของลูกจะไม่เชื่อฟังลูก ดังนั้นเวลานี้ จงฝึกฝนสิ่งนี้
ลูกทุกคนไปยังบ้านอันแสนหวานของลูกในหนึ่งวินาที
จงใส่ใจฝึกฝนสิ่งนี้เป็นครั้งคราวตลอดทั้งวัน
การจดจ่อสมาธิของจิตใจของลูกจะทำให้ตัวลูกเองและบรรยากาศมีพลัง อัจชะ
ถึงดวงวิญญาณที่สูงส่งอย่างยิ่งทั้งหมดในทุกหนแห่งผู้มีความรักและความร่วมมือกับทุกคน
ถึงลูกๆทั้งหมดผู้มีชัยชนะในทุกหนแห่ง
ถึงลูกๆทั้งหมดในทุกหนแห่งผู้ทรงพลังด้วยพลังของการเปลี่ยนแปลง
ถึงลูกๆทั้งหมดผู้เปิดเผยตนเองและเปิดเผยพ่ออยู่เสมอ
ถึงลูกๆผู้เป็นตัวแห่งการแก้ปัญหาและผู้เปลี่ยนแปลงโลกอยู่เสมอ
รักและระลึกถึงจากบัพดาดา และโปรดรับพรจากหัวใจของท่านด้วย เช่นเดียวกันนี้
ถึงลูกๆทั้งหมดผู้เป็นมงกุฎบนศีรษะของพ่อด้วย ถึงลูกๆเช่นนั้นผู้เป็นมงกุฎบนศีรษะ
นมัสเตจากบัพดาดา
พร:
ขอให้ลูกเป็นดวงวิญญาณที่ทรงพลังอยู่เสมอ
และมีความรักต่อเมอร์ลีแห่งเมอร์ลีดาร์อยู่เสมอ
ลูกๆที่มีความรักต่อการศึกษานี้ ซึ่งก็คือต่อเมอร์ลี
จะได้รับพรของการเป็นผู้มีพลังอยู่เสมอ ไม่มีอุปสรรคใดที่จะสามารถขวางหน้าพวกเขาได้
การมีความรักต่อเมอร์ลีดาร์ หมายถึงการมีความรักต่อเมอร์ลีของท่าน
หากลูกพูดว่าลูกมีความรักต่อเมอร์ลีดาร์มาก แต่ลูกไม่มีเวลาศึกษาเมอร์ลี
พ่อจะไม่ยอมรับสิ่งนั้น เพราะที่ใดมีความรัก ที่นั่นย่อมไม่มีข้ออ้างใดๆ
การศึกษาและความรักของครอบครัวนี้จะกลายเป็นป้อมปราการที่ลูกจะอยู่อย่างปลอดภัย
คติพจน์:
จงหล่อหลอมตนเองให้เข้ากับทุกสถานการณ์ แล้วลูกจะกลายเป็นทองคำแท้
สัญญาณที่ละเอียดอ่อน:
เวลานี้จงจุดไฟแห่งความรัก และทำให้โยคะของลูกเป็นภูเขาไฟ
เมื่อลูกนั่งลงเพื่อมีโยคะภูเขาไฟอันทรงพลัง
จงใช้พลังนั้นเพื่อหลอมรวมทุกสิ่งเข้าด้วยกันในหนึ่งวินาที
ให้ความคิดของงานรับใช้ทั้งหมดหลอมรวมด้วยเช่นกัน มีพลังมากพอที่ทันทีที่ลูกพูดว่า
“หยุด” ลูกก็สามารถใส่จุดฟูลสต๊อปได้(หยุดได้เต็มที่) ต้องใช้เบรกที่ทรงพลัง
ไม่ใช่เบรกที่อ่อนแอ หากเบรกนี้ใช้เวลานานกว่าหนึ่งวินาที
นั่นหมายความว่าลูกอ่อนแอในพลังที่จะหลอมรวม