10.09.25       Morning Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban


สาระ:
ลูกๆที่แสนหวาน เลิกมีความสงสัยในพ่อผู้ที่กำลังทำให้ลูกกลายเป็นเช่นเพชร การที่มีความสงสัยในสติปัญญา หมายถึง การเป็นเหตุของความสูญเสียแก่ตนเอง

คำถาม:
อะไรคือพื้นฐานหลักของการสอบผ่านการศึกษานี้ เพื่อเปลี่ยนจากมนุษย์กลายเป็นเทพ?

คำตอบ:
ศรัทธา: จำเป็นต้องมีความกล้าหาญสำหรับสติปัญญาที่จะมีศรัทธา มายาตัดความกล้าหาญนี้ เธอทำให้สติปัญญาของลูกกลายเป็นสติปัญญาที่เต็มไปด้วยความสงสัย ขณะที่ก้าวเดินไป หากลูกมีความสงสัยใดๆ ในการศึกษานี้หรือในครูสูงสุดผู้ที่กำลังสอนลูก ลูกจะเป็นเหตุของความสูญเสียแก่ตนเองและผู้อื่นอย่างมากมาย

เพลง:
ท่านคือมหาสมุทรแห่งความรัก เรากระหายเพียงหนึ่งหยด

โอมชานติ
ชีพบาบาอธิบายแก่ลูกๆทางจิต ลูกๆ สรรเสริญผู้เป็นพ่อและพูดว่า: ท่านคือมหาสมุทรแห่งความรัก ท่านได้รับการเรียกว่าเป็นมหาสมุทรแห่งความรู้ด้วย ผู้เดียวเท่านั้นคือ มหาสมุทรแห่งความรู้ ที่เหลือถูกเรียกว่าความไม่รู้, เพราะนี่คือการละเล่นเกี่ยวกับความรู้และความไม่รู้ เพียงพ่อสูงสุด, ดวงวิญญาณสูงสุดเท่านั้นที่มีความรู้นี้ ด้วยความรู้นี้ที่โลกใหม่กำลังได้รับการก่อตั้ง ไม่ใช่ว่าท่านสร้างโลกใหม่ขึ้นมา โลกนี้ไม่ดับสูญ เป็นเพียงโลกเก่าถูกเปลี่ยนแปลงและทำให้ใหม่ขึ้น ไม่ใช่ว่าจะเกิดการทำลายล้างอย่างสิ้นซากขึ้น ทั้งโลกไม่เคยถูกทำลาย โลกนั้นเก่าและกำลังถูกเปลี่ยนแปลงและทำให้ใหม่ขึ้น พ่อได้อธิบายว่าบ้านนี้ที่ลูกกำลังนั่งอยู่นั้นเก่า ลูกรู้ว่าเราจะไปยังบ้านใหม่ ในทำนองเดียวกัน, ขณะนี้เดลลีเก่าจะถูกทำลาย เดลลีใหม่จะถูกแทนที่เดลลีเก่า เวลานี้ มันจะถูกทำให้ใหม่ได้อย่างไร? ก่อนอื่นใด จำเป็นต้องมีผู้ที่มีค่าควรแก่การอยู่ที่นั่น ในโลกใหม่มีผู้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยทุกคุณธรรม ลูกๆ มีเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของลูก ในโรงเรียนเช่นกัน มีเป้าหมายและวัตถุประสงค์ ผู้ที่กำลังศึกษาเล่าเรียนเข้าใจว่าเขาจะกลายเป็นอะไร “ฉันจะกลายเป็นศัลยแพทย์” หรือ “ฉันจะกลายเป็นทนายความ” ลูกเข้าใจว่าลูกมาที่นี่เพื่อเปลี่ยนจากมนุษย์ธรรมดาให้กลายเป็นเทพ ไม่มีใครสามารถนั่งอยู่ในโรงเรียนโดยที่ไม่มีเป้าหมายและวัตถุประสงค์ อย่างไรก็ตาม โรงเรียนนี้แสนมหัศจรรย์มาก ขณะที่เข้าใจเป้าหมายและวัตถุประสงค์และศึกษาเล่าเรียน บางคนก็จากการศึกษาเล่าเรียนนี้ไป พวกเขาเริ่มคิดว่าการศึกษาเล่าเรียนนี้ผิด, เขาคิดว่านี่ไม่ใช่เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของเขา, เขาคิดว่าสิ่งนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น พวกเขาได้พัฒนาความสงสัยในผู้เดียวที่กำลังสอนพวกเขาอยู่ บางครั้งในการศึกษาเล่าเรียนทางโลก เมื่อนักเรียนไม่มีเงินเพียงพอที่จะศึกษา หรือพวกเขาขาดความกล้าหาญ พวกเขาก็จากการศึกษาไป ลูกจะไม่พูดว่าความรู้ที่จะกลายเป็นทนายความนั้นผิดหรือพูดว่าผู้ที่กำลังสอนนั้นผิด ที่นี่ มนุษย์มีสติปัญญาที่มหัศจรรย์! แต่เพราะลูกพัฒนาความสงสัยในการศึกษาเล่าเรียน ลูกพูดว่าการศึกษานี้ผิด, ว่าพระเจ้าไม่ได้กำลังสอนการศึกษานี้, ว่าลูกไม่สามารถประกาศสิทธิ์ในอาณาจักรฯลฯได้, ว่าสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก ด้วยการคิดในวิธีนี้, ลูกๆ มากมายจากการศึกษานี้ไป ทุกคนจะพูดว่า: คุณเคยอ้างว่าพระเจ้าเคยสอนคุณ, ซึ่งทำให้มนุษย์เปลี่ยนเป็นเทพ แล้วอะไรเกิดขึ้นเล่า? ลูกกลับพูดว่า: ไม่! ไม่! ทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก ลูกพูดว่าลูกไม่สามารถเข้าใจเป้าหมายและวัตถุประสงค์ เคยมีบางคนที่เคยศึกษาด้วยศรัทธา และแล้วทันทีที่พวกเขาเริ่มที่จะมีความสงสัยเกิดขึ้น พวกเขาก็หยุดการศึกษา พวกเขามีศรัทธาได้อย่างไร แล้วใครใส่ความสงสัยเข้าไปในสติปัญญาของเขา? จะกล่าวได้ว่าหากบุคคลนั้นยังกำลังศึกษาอยู่ เขาสามารถประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูง ผู้คนมากมายเฝ้าแต่ศึกษาเล่าเรียน ขณะที่ศึกษาเพื่อที่จะกลายเป็นทนายความ บางคนก็เลิกศึกษาเล่าเรียนกลางคัน ขณะที่บางคนศึกษาต่อและกลายเป็นทนายความ บางคนศึกษาและสอบผ่าน ขณะที่บางคนสอบตก แล้วพวกเขาก็ได้สถานภาพที่ต่ำ นี่คือการสอบที่สำคัญ ลูกจำเป็นต้องมีความกล้าหาญอย่างมากที่จะสอบผ่าน ก่อนอื่น ลูกจำเป็นต้องมีความกล้าหาญเพื่อสติปัญญาของลูกจะมีศรัทธา มายาเป็นเช่นนั้น ขณะหนึ่งลูกมีศรัทธาแล้วขณะถัดไปลูกก็มีสติปัญญาที่เต็มไปด้วยความสงสัย ผู้คนมากมายมาที่นี่เพื่อศึกษาเล่าเรียน แต่บางคนมีสติปัญญาทึบ(หัวทึบ) พวกเขาสอบผ่านตามลำดับกันไป รายการถูกพิมพ์ในหนังสือพิมพ์เช่นกัน ที่นี่ก็เช่นกัน ผู้คนมากมายมาที่นี่เพื่อศึกษา บางคนมีสติปัญญาที่ดีและบางคนมีสติปัญญาทึบ(หัวทึบ) เพราะพวกเขามีสติปัญญาทึบ พวกเขาพัฒนาความสงสัยและจากไป หลังจากนั้น พวกเขาก็สร้างความเสียหายให้ผู้อื่นด้วย มีคำกล่าวว่า: ผู้ที่มีสติปัญญาที่เต็มไปด้วยความสงสัยจะนำไปสู่การทำลายล้าง พวกเขาไม่สามารถประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูงได้ หากลูกมีศรัทธา แต่ไม่ศึกษาเล่าเรียนอย่างเต็มที่ ลูกไม่สามารถสอบผ่านเพราะสติปัญญาของลูกไร้ประโยชน์ใด ลูกไม่สามารถซึมซับความรู้นี้ได้ ลูกจะลืมว่าลูกคือดวงวิญญาณ ผู้เป็นพ่อกล่าวว่า: ฉันคือพ่อสูงสุดของลูกๆ ดวงวิญญาณ ลูกๆ รู้ว่าพ่อได้มา บางคนสัมมีประสบการณ์กับอุปสรรคมากมายและพัฒนาความสงสัยขึ้นมา และพวกเขาพูดว่า: ฉันไม่มีศรัทธาในครูผู้นั้นผู้นี้ ไม่ว่าครูบราห์มินจะเป็นเช่นไรก็ตาม ลูกควรจะศึกษาต่อไป, ใช่ไหม? หากครูของลูกไม่สอนลูกอย่างดี ลูกก็คิดถึงการปลดเธอออกจากการสอนลูก แต่ลูกยังต้องศึกษาเล่าเรียนต่อไป นี่คือการศึกษาของพ่อ ครูสูงสุดกำลังสอนลูก ครูบราห์มินให้ความรู้ของท่านด้วยเช่นกัน ดังนั้นลูกควรใส่ใจต่อการศึกษานี้ จนกว่าลูกจะศึกษา ไม่เช่นนั้นแล้วลูกจะไม่สามารถที่จะสอบผ่านได้ อย่างไรก็ตาม หากศรัทธาของลูกในพ่อขาดตอนลง ลูกก็หยุดศึกษา ขณะที่ศึกษา หากลูกเริ่มมีความสงสัยในครูว่าลูกจะได้รับสถานภาพบางอย่างผ่านท่านหรือไม่ ลูกก็จะหยุดศึกษา จากนั้นลูกก็จะทำให้คนอื่นเสียไปด้วย เมื่อลูกเป็นเหตุของการประณาม ก็สร้างความเสียหายมากขึ้น มีประสบการณ์ของความสูญเสียอย่างมาก พ่อพูดว่า: หากบางคนทำบาปที่นี่ เขาต้องได้รับประสบการณ์ของการลงโทษถูกลงโทษเป็นร้อยเท่า เพราะผู้นั้นจะกลายเป็นเครื่องมือที่จะทำให้ผู้อื่นมากมายเสียหาย ยิ่งลูกได้กลายเป็นดวงวิญญาณบุญมากเพียงใด ลูกจะกลายเป็นดวงวิญญาณบาปมากตามนั้น ลูกกลายเป็นดวงวิญญาณบุญด้วยการศึกษาเล่าเรียนนี้ เพียงพ่อผู้เดียวเท่านั้นที่ทำให้ลูกกลายเป็นดวงวิญญาณบุญ หากบางคนไม่สามารถศึกษาเล่าเรียน ก็จะมีบางสิ่งไม่ถูกต้องอย่างแน่นอน และแล้วพวกเขาก็พูดว่า: แล้วแต่โชคของฉัน! ดังนั้นฉันจะทำอะไรได้เล่า? เป็นราวกับว่าพวกเขาหัวใจล้มเหลวไปแล้ว (หมายถึงสิ้นหวัง) ผู้ที่เคยมาที่นี่และตายทั้งเป็นก็จะกลับไปสู่ชีวิตในอาณาจักรของราวัน พวกเขาไม่สามารถทำให้ชีวิตเป็นเช่นเพชรได้ เมื่อมนุษย์หัวใจล้มเหลว พวกเขาไปใช้อีกชาติเกิดหนึ่ง ที่นี่เมื่อพวกเขาหัวใจล้มเหลว พวกเขาไปยังชุมนุมที่เป็นเช่นปีศาจ นี่คือชาติเกิดของการตายขณะที่มีชีวิตของลูก ลูกมาที่นี่เพื่อเป็นของพ่อ, เพื่อที่จะไปยังโลกใหม่ ดวงวิญญาณจะไปที่นั่น เมื่อฉันดวงวิญญาณสละละทิ้งสำนึกของร่างกาย ก็เป็นที่เข้าใจว่าฉันมีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ ฉันคือสิ่งหนึ่งและร่างกายเป็นบางสิ่งอื่น ดวงวิญญาณจากร่างหนึ่งและรับอีกร่างหนึ่ง ดังนั้น ทุกดวงวิญญาณจึงต้องเป็นสิ่งที่มีอยู่แยกจากกันอย่างแน่นอน ลูกๆ ดวงวิญญาณเข้าใจว่าลูกกำลังก่อตั้งสวรรค์ในบารัตด้วยการทำตามศรีมัท ศิลปะของการเปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นเทพต้องได้รับการเรียนรู้ ลูกๆ ได้รับการบอกว่าไม่มีมิตรของสัจจะอื่นใด เพียงดวงวิญญาณสูงสุดเดียวเท่านั้นที่ถูกเรียกว่าสัจจะ ชื่อของท่านคือชีวาและท่านผู้เดียวเท่านั้นที่ก่อตั้งยุคทอง ระยะเวลาของยุคเหล็กต้องมาถึงจุดจบอย่างแน่นอน วงจรโลกหมุนไปอย่างไรนั้นชัดเจนมากในรูปของวงจร เพื่อที่จะกลายเป็นเทพ ลูกเป็นของพ่อในยุคแห่งการบรรจบพบกัน หากลูกจากพ่อไป ลูกจะจบสิ้นในยุคเหล็ก หากบางคนมีความสงสัยเกี่ยวกับการเป็นบราห์มิน เขาไปและกลายเป็นส่วนหนึ่งของสกุลศูทร ในกรณีนั้นเขาไม่สามารถกลายเป็นเทพ พ่ออธิบายด้วยเช่นกันว่ารากฐานกำลังถูกวางไว้เพื่อการก่อตั้งสวรรค์ ก่อนอื่นมีพิธีวางรากฐานและแล้วก็มีพิธีเปิด ที่นี่ทุกสิ่งนั้นแฝงตัว ลูกรู้ว่าลูกกำลังพร้อมที่จะไปสวรรค์ แล้วจะไม่มีการพูดถึงนรก แน่นอนที่ลูกต้องศึกษาตราบเท่าที่ลูกมีชีวิตจนกระทั่งเวลาสุดท้าย เพียงพ่อผู้เดียวผู้ที่ชำระลูกให้บริสุทธิ์เท่านั้นที่เป็นผู้ชำระให้บริสุทธิ์ ขณะนี้ลูกๆเข้าใจว่านี่คือยุคแห่งการบรรจบพบกัน เมื่อพ่อมาเพื่อชำระลูกให้บริสุทธิ์ ลูกควรจะเขียนว่า: เป็นในยุคแห่งการบรรจบพบกันที่สูงส่งที่สุดนี้ที่มนุษย์ธรรมดาเปลี่ยนไปเป็นนารายัณ มีการเขียนไว้ด้วยเช่นกันว่านี่คือชาติเกิดของพระเจ้าของลูก ขณะนี้พ่อกำลังให้เทพนิมิตแก่ลูก ดวงวิญญาณรู้ว่าวงจรของ 84 ชาติเกิดได้มาถึงจุดจบตอนนี้ พ่อนั่งที่นี่และอธิบายให้แก่ดวงวิญญาณ ดวงวิญญาณศึกษาเล่าเรียนแต่เขายังคงกลับมามีสำนึกเป็นร่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า, เพราะเขามีสำนึกที่เป็นร่างมาถึงครึ่งหนึ่งของวงจร ดังนั้น ใช้เวลาที่จะกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ พ่อกำลังนั่งที่นี่และลูกๆ ก็ได้รับเวลาแล้ว ช่วงชีวิตของบราห์มาถูกกล่าวไว้ว่าเป็น 100 ปีหรืออาจจะน้อยกว่านั้น อย่างไรก็ตาม หากบราห์มาจะจากไป ก็ไม่ได้หมายความว่าการก่อตั้งจะไม่เกิดขึ้น ลูกๆ กองทัพยังคงนั่งที่นี่ พ่อได้ให้มันตรานั้นแก่ลูก ลูกต้องศึกษาเล่าเรียน อยู่ในสติปัญญาของลูกว่าวงจรโลกหมุนไปอย่างไร ลูกต้องอยู่ในการจาริกแสวงบุญของการจดจำระลึกถึง เป็นไปด้วยการจดจำระลึกถึงที่บาปของลูกจะถูกเผาไป ในหนทางของการกราบไหว้ ลูกทั้งหมดได้ทำกรรมที่เป็นบาป โลกเก่าและโลกใหม่ทั้งสองอยู่เบื้องหน้าลูก ลูกสามารถเขียนว่า: ความตายต่อโลกเก่า, อาณาจักรของราวัน, และชัยชนะต่อโลกใหม่, หนทางของความรู้, อาณาจักรของราม ผู้ที่เคยมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาได้กลายเป็นผู้กราบไหว้บูชา กฤษณะเคยสวยงามและมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา อย่างไรก็ตาม, ภายหลัง, เขาได้กลายเป็นผู้กราบไหว้บูชาที่น่าเกลียดในอาณาจักรของราวัน เป็นสิ่งที่ง่ายดายที่จะอธิบายสิ่งนี้ เมื่อการกราบไหว้บูชาเริ่มขึ้นตอนแรก พวกเขาสร้างลิงคัม(Lingam)เพชรที่ใหญ่โต มีค่ามากที่สุดเพราะพ่อได้ทำให้ลูกมั่งคั่งอย่างมาก ตัวท่านเองคือเพชร ดังนั้นท่านทำให้ดวงวิญญาณกลายเป็นเพชรด้วยเช่นกัน ลูกควรทำภาพเพชรของท่านและเก็บสิ่งนั้นไว้, ใช่ไหม? เพชรย่อมถูกวางไว้ตรงกลางเสมอ เมื่อเปรียบเทียบกับมรกตหรืออัญมณีอื่นๆ ก็จะไม่มีคุณค่ามากเท่าเพชร เหตุนี้เอง เพชรจึงถูกวางไว้ตรงกลาง เพชรพลอยทั้งแปดถูกทำเป็นลูกปัดของลูกประคำแห่งชัยชนะโดยท่านและคุณค่าสูงสุดถูกให้ไว้แก่เพชร ที่เหลือทั้งหมดนั้นตามลำดับกันไป เป็นชีพบาบาผู้ที่ทำให้ลูกเป็นเช่นนี้ ไม่มีใครสามารถอธิบายเรื่องเหล่านี้ได้นอกจากพ่อผู้เดียว ขณะที่ศึกษา บางคนก็ประหลาดใจต่อความรู้นี้ พวกเขาพูดว่า “บาบา! บาบา!” และแล้วพวกเขาก็จากไป! ทันทีที่ลูกเรียกชีพบาบาว่า “บาบา” ลูกไม่ควรมีวันจากท่านไป มิฉะนั้นจะกล่าวได้ว่าเป็นโชคของลูก! ผู้ที่ไม่มีโชคมากนักพวกเขาจะทำกรรมเช่นที่เขาจะได้รับการลงโทษหนึ่งร้อยเท่า เพื่อที่จะกลายเป็นดวงวิญญาณบุญ ลูกต้องทำความเพียรพยายาม และแล้วเมื่อลูกทำบาป บาปนั้นจะกลายเป็นหนึ่งร้อยเท่า และแล้วลูกจะกลายเป็นคนแคระ ลูกไม่สามารถเติบโต เนื่องจากลูกถูกลงโทษหนึ่งร้อยเท่า สภาพของลูกจะไม่ได้กลับมามีพลัง เหตุใดลูกจึงมีความสงสัยในพ่อผู้ที่ทำให้ลูกกลายเป็นเช่นเพชร? หากลูกจากพ่อไปด้วยเหตุผลใดก็ตาม ลูกจะถูกเรียกว่าดวงวิญญาณที่อับโชคอย่างที่สุด ไม่ว่าลูกจะอยู่ที่ใดก็ตาม ลูกต้องจดจำพ่อ และลูกจะได้รับการปลดปล่อยจากการลงโทษถูกลงโทษ ลูกมาที่นี่เพื่อที่จะกลับมาบริสุทธิ์จากไม่บริสุทธิ์ เพราะลูกได้ทำกรรมบางอย่างในอดีต จึงมีความทุกข์ทรมานอย่างมากจากร่างกาย ขณะนี้ลูกกำลังได้รับการปลดปล่อยจากสิ่งนี้เป็นเวลาครึ่งวงจร ตรวจสอบตนเองเพื่อดูว่าลูกกำลังก้าวหน้าและรับใช้ผู้อื่นมากแค่ไหน ลูกสามารถเขียนที่บนสุดของรูปภาพลักษมีและนารายณ์ว่า: นี่คืออาณาจักรของความสงบในโลกที่ขณะนี้กำลังได้รับการก่อตั้งขึ้น นี่คือเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของลูก ที่นั่นมีความบริสุทธิ์ ความสงบและความสุข 100% ซึ่งไม่มีศาสนาอื่นใดในอาณาจักรของเขา ดังนั้นศาสนาทั้งหมดที่คงอยู่เวลานี้จะถูกทำลายอย่างแน่นอน ปัญญาอันยิ่งใหญ่เป็นที่ต้องการเพื่อจะอธิบายสิ่งเหล่านี้ มิฉะนั้นลูกจะอธิบายตามสภาพของลูก จงนั่งอยู่เบื้องหน้ารูปภาพและคิดถึงสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด สิ่งเหล่านี้ได้ถูกอธิบายแก่ลูกแล้ว เมื่อลูกเข้าใจสิ่งเหล่านั้นแล้ว ลูกต้องอธิบายสิ่งเหล่านั้นแก่ผู้อื่น เหตุนี้เองบาบาจึงดลใจลูกเปิดพิพิธภัณฑ์ “ประตูสู่สวรรค์” เป็นชื่อที่ดีมาก ประตูนั้นคือ “ประตูเดลลี” และ “ประตูอินเดีย” นี่คือประตูสู่สวรรค์ ขณะนี้ลูกกำลังเปิดประตูสู่สวรรค์ ผู้คนกลับมาสับสนในหนทางของการกราบไหว้ราวกับว่าพวกเขาหลงอยู่ในเขาวงกต ไม่มีใครสามารถพบทางออก ทุกคนติดกับอยู่ในอาณาจักรของมายา ขณะนี้พ่อได้มาเพื่อปลดปล่อยลูกจากสิ่งนั้น บางคนไม่ต้องการได้รับการปลดปล่อย แล้วพ่อจะทำอะไรได้เล่า? เหตุนี้เองพ่อจึงพูดว่า: หากลูกต้องการที่จะเห็นผู้ที่อับโชคที่สุด จงมองดูผู้ที่หยุดการศึกษาที่นี่ พวกเขามีความสงสัยในสติปัญญาและฆ่าตนเองเป็นเวลาหลายต่อหลายชาติเกิด สิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อโชคของเขาถูกทำให้เสียไป เมื่อมีลางร้าย แทนที่จะกลับมาสวยงาม,พวกเขากลับมาน่าเกลียด เป็นดวงวิญญาณที่แฝงตัวที่ศึกษาเล่าเรียน ดวงวิญญาณทำทุกสิ่งผ่านร่างกาย ดวงวิญญาณไม่สามารถทำสิ่งใดโดยไม่มีร่างกาย สิ่งนั้นใช้ความเพียรพยายามที่จะคิดว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ เมื่อลูกไม่มีศรัทธาว่าลูกคือดวงวิญญาณ ลูกก็มีสำนึกที่เป็นร่าง อัจชะ

ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต

สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. คำสอนที่ถ่ายทอดโดยพ่อสูงสุดเปลี่ยนเราจากมนุษย์ให้กลายเป็นนารายัณ จงมีศรัทธานี้ไว้และใส่ใจอย่างเต็มที่ต่อการศึกษาของลูก เลิกมองเห็นครูที่กำลังสอนลูก แต่ให้ตระหนักรู้ถึงผู้ที่แท้จริงที่กำลังสอนอยู่

2. จงทำความเพียรพยายามที่จะกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ ตั้งแต่ลูกได้ตายขณะที่มีชีวิตอยู่ จงปล่อยวางสำนึกของร่างกายของลูกทั้งหมด จงกลายเป็นดวงวิญญาณบุญ เลิกทำกรรมที่เป็นบาปใดๆ

พร:
ขอให้ลูกเต็มไปด้วยคลังสมบัติที่มีค่าทั้งหมดและได้รับประสบการณ์ของสภาพที่สมบูรณ์พร้อมอย่างสม่ำเสมอด้วยการสำนึกรู้ถึงการควงกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเอง

ผู้ที่ควงกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเองอย่างสม่ำเสมอจะอยู่อย่างเป็นอิสระจากการควงหมุนของมายามากมายหลาย ประเภท กงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเองนั้นทำให้การควงหมุนสิ่งที่ไร้สาระจบสิ้นไป มันไล่มายาออกไป มายาไม่สามารถอยู่เบื้องหน้าของดวงวิญญาณเช่นนั้นได้ เพราะลูกๆ ที่ควงกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเองนั้นเต็มเปี่ยมอยู่เสมอ พวกเขาอยู่อย่างเลิกไหวหวั่นสั่นคลอน พวกเขาพบว่าตนเองเต็มไปด้วยสมบัติที่มีค่าทั้งหมด มายาพยายามที่จะทำให้พวกเขาว่างเปล่า แต่พวกเขาก็มีความระมัดระวัง ตื่นตัวและจุดแสงไฟอยู่ตลอดเวลา และแล้วมายาก็ไม่สามารถทำอะไรกับพวกเขาได้ ผู้ที่เฝ้าป้องกันด้วยความใส่ใจ จะคงอยู่อย่างตื่นตัวและปลอดภัยอยู่เสมอ

คติพจน์:
ทำให้คำพูดของลูกทรงพลังมาก ด้วยการหลอมรวมความรู้สึกที่บริสุทธิ์และสูงส่งไว้ในนั้น

สัญญาณที่ละเอียดอ่อน: เวลานี้จุดไฟแห่งความรักและทำให้โยคะของลูกเป็นภูเขาไฟ

เพื่อที่จะมีการจดจำระลึกถึงที่มีพลัง ความรักของลูกต้องมาจากหัวใจที่ซื่อสัตย์ ผู้ที่มีหัวใจที่ซื่อสัตย์จะสามารถกลายเป็นจุดในหนึ่งวินาที และสามารถจดจำระลึกถึงบาบา ผู้เป็นจุดได้ เพราะการทำให้พระเจ้าพอใจด้วยหัวใจที่ซื่อสัตย์ของพวกเขา ดวงวิญญาณเช่นนั้นจึงได้รับพรพิเศษจากพ่อ ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถมั่นคงในความคิดของผู้เดียวได้อย่างง่ายดาย พวกเขาจะมีประสบการณ์ของการจดจำระลึกถึงในรูปภูเขาไฟ และกระจายกระแสคลื่นที่มีพลังไปทุกหนแห่ง