21.12.25    Avyakt Bapdada     Thai Murli     05.03.2008     Om Shanti     Madhuban


สะสมพลังแห่งความเงียบและการกระทำที่สูงส่งไว้ในธนาคารในยุคบรรจบพบกัน
ใช้ชีพมันตราเพื่อเปลี่ยนจิตสำนึกของ "ฉัน"


วันนี้ บัพดาดาได้เห็นความรักของลูกๆทุกคนในทุกหนแห่ง ลูกทุกคนได้มาถึงที่นี่ในวิมานแห่งความรัก วิมานแห่งความรักนี้ทำให้ลูกไปถึงผู้เดียวที่ลูกรักได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันนี้บัพดาดาเห็นว่าทุกดวงวิญญาณที่ซึมซับอยู่ในความรัก กำลังแกว่งไกวอยู่ในเปลแห่งความรักของพระเจ้า บัพดาดาก็หลอมรวมอยู่ในความรักของลูกๆในทุกหนแห่งเช่นกัน ความรักของพระเจ้านี้ทำให้ลูกปราศจากร่างได้อย่างง่ายดายเช่นเดียวกับพ่อ มันนำลูกไปอยู่เหนือความรู้สึกที่หยาบกระด้าง และทำให้ลูกกลับมามั่นคงในสภาพที่อะแวคและรูปที่อะแวคของลูก บัพดาดารู้สึกยินดีที่ได้เห็นลูกๆ ทุกคนอยู่ในสภาพที่ทัดเทียมกับสภาพของท่าน

วันนี้ ลูกๆ ทุกคนมาที่นี่เพื่อเฉลิมฉลองชีพราตรี ชีพจายันตี วันเกิดของพ่อ และวันเกิดของพวกเขาเอง ทั้งบัพและดาดาเดินทางมาถึงที่นี่จากดินแดนของท่านเองเพื่อเฉลิมฉลองวันเกิดของลูกทุกคน วันเกิดของพ่อกับลูกในครั้งนี้มีความพิเศษสุดตลอดทั้งวงจรและน่ารักอย่างยิ่ง

ผู้เลื่อมใสศรัทธาเฉลิมฉลองเทศกาลนี้ด้วยความรักและความรู้สึกศรัทธาอย่างแรงกล้า การกระทำที่สูงส่งและเป็นไปในทางจิตวิญญาณใดๆที่ลูกได้กระทำไว้ในชาติเกิดที่สูงส่งนี้และยังคงกระทำอยู่นั้น จะได้รับการเฉลิมฉลองในรูปของอนุสรณ์ในช่วงเวลาที่มีขีดจำกัดเป็นระยะเวลาชั่วคราว อย่างไรก็ตาม นี่เป็นความมหัศจรรย์ของผู้เลื่อมใสศรัทธาเช่นกัน ดูสิว่ามีความมหัศจรรย์เพียงใดในตัวผู้ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์และผู้ที่เฉลิมฉลองอนุสรณ์ อย่างน้อยพวกเขาก็ฉลาดในการลอกเลียนแบบลูก เพราะพวกเขาเป็นผู้เลื่อมใสศรัทธาของลูกใช่หรือไม่? ดังนั้น ผู้ที่ได้สร้างอนุสรณ์เหล่านี้จึงได้รับผลแห่งความยิ่งใหญ่ของลูกอย่างเป็นพร ลูกให้คำมั่นสัญญาว่าจะคงความบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์สำหรับหนึ่งชาติเกิดเพียงครั้งเดียว พวกเขาได้ลอกเลียนแบบลูก พวกเขาให้คำมั่นสัญญาว่าจะคงความบริสุทธิ์สำหรับหนึ่งวัน ลูกให้คำมั่นสัญญาว่าจะรับประทานอาหารที่บริสุทธิ์ตลอดทั้งชาติเกิดของลูก ในขณะที่พวกเขาถือศีลอดเป็นเวลาหนึ่งวัน ดังนั้น วันนี้ ในเวลาเวลาอมฤต บัพดาดาได้เห็นว่าเหล่าผู้เลื่อมใสศรัทธาของลูกทุกคนก็มิได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย คุณสมบัติพิเศษของพวกเขาก็ดีมากเช่นกัน ดังนั้น ลูกทุกคนได้ให้คำมั่นสัญญาอันแน่วแน่มั่นคงในชาติเกิดนี้ สำหรับเรื่องอาหารและเครื่องดื่ม สำหรับความบริสุทธิ์ของความคิดในจิตใจ สำหรับคำพูดและการกระทำ และสำหรับการกระทำต่างๆของลูกในขณะมีสายสัมพันธ์และความสัมพันธ์หรือไม่? ลูกได้ให้คำมั่นสัญญานี้อย่างมั่นคง หรือแค่เพียงเล็กน้อย? ความบริสุทธิ์เป็นพื้นฐานของชีวิตบราห์มิน เป็นพื้นฐานของการกลับมามีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา เป็นพื้นฐานของการบรรลุผลที่สูงส่ง ดังนั้น ทุกดวงวิญญาณที่มีโชคที่มาถึงที่นี่ จงตรวจสอบดูว่า ฉันได้ตั้งปณิธานอันแน่วแน่สำหรับเทศกาลของชาติเกิดนี้ เพื่อกลับมาบริสุทธิ์ทั้งสี่ประการแล้วหรือยัง? ความบริสุทธิ์ ไม่ใช่แค่เรื่องการถือพรหมจรรย์เท่านั้น แต่รวมถึงความบริสุทธิ์ในความคิด คำพูด การกระทำ ความสัมพันธ์ และสายสัมพันธ์ของฉันด้วย? ลูกได้ตั้งปณิธานอันแน่วแน่นี้แล้วหรือยัง? ลูกได้ตั้งปณิธานอันแน่วแน่นี้หรือไม่? ผู้ที่ได้ตั้งปณิธานอันแน่วแน่นี้และไม่อ่อนแอสักนิด ยกมือขึ้น! มั่นคงหรือไม่? มั่นคงแค่ไหน? ลูกจะสั่นคลอนไหมถ้ามีใครทำให้ลูกสั่นคลอน? ลูกจะสั่นคลอนไหม? ลูกจะไม่สั่นคลอนเลยหรือ? บางครั้งมายาก็มาใช่ไหม? หรือเธอไม่มา? ลูกได้อำลามายาแล้วหรือยัง? มันเป็นเพราะว่าบางครั้งลูกอนุญาตให้มายามาแล้วเธอก็มาหรือไม่? ตรวจสอบว่า: ฉันได้ให้คำมั่นสัญญาอย่างมั่นคงหรือไม่? ฉันได้ให้คำมั่นสัญญาตลอดกาลหรือไม่? หรือแค่เพียงบางช่วงเวลา? บางครั้งเล็กน้อย บางครั้งมาก บางครั้งเป็นคำมั่นสัญญาอย่างมั่นคง บางครั้งก็อ่อนแอเล็กน้อย? มันไม่ใช่อย่างนั้นใช่ไหม? ในแง่ของความรักที่มีต่อบัพดาดา ลูกทุกคนเชื่อว่าลูกมีความรักต่อบัพดาดามากกว่า 100% ถ้าบัพดาดาถามว่าลูกมีความรักต่อบัพดาดามากแค่ไหน ลูกทุกคนจะยกมือขึ้นด้วยความจริงจังและกระตือรือร้น มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีเปอร์เซ็นต์ในแง่ของความรัก ส่วนใหญ่มีความรัก ลูกสอบผ่านในวิชาของความรักแล้ว และบัพดาดาก็ยอมรับว่าลูกส่วนใหญ่สอบผ่านในความรักแล้ว อย่างไรก็ตาม ในแง่ของคำมั่นสัญญาของความบริสุทธิ์ ในแง่ของการปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาของความบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์ในทั้งสี่ประการ นั่นคือ ในความคิด คำพูด การกระทำ ความสัมพันธ์ และสายสัมพันธ์ของลูกนั้น ยังมีเปอร์เซ็นต์อยู่ เวลานี้บัพดาดาต้องการอะไร? บัพดาดาปรารถนาให้ลูกทำตามสัญญาที่ให้ไว้ว่าจะกลับมาทัดเทียม นั่นคือ ภาพลักษณ์ของพ่อจะปรากฏให้เห็นบนใบหน้าของลูกทุกคน ที่ทุกคำพูดของลูกเท่าเทียมกับคำพูดของพ่อ คำพูดของบัพดาดากลายเป็นพร ดังนั้น ลูกทุกคนต้องตรวจสอบว่า: ภาพลักษณ์ของพ่อปรากฏบนใบหน้าของฉันหรือไม่? ภาพลักษณ์ของพ่อคืออะไร สมบูรณ์ เต็มเปี่ยมทุกประการ ในลักษณะนี้ ดวงตาและใบหน้าของลูกทุกคนเหมือนกับของพ่อไหม? ใบหน้าของฉันมีรอยยิ้มอยู่เสมอหรือไม่? หรือบางครั้งมันแสดงให้เห็นถึงอาการของความคิด บางครั้งก็เป็นเงาของความคิดที่ไร้สาระ บางครั้งก็ไม่มีความสุข บางครั้งก็แสดงอาการของความลำบากตรากตรำมากมาย มันไม่ใช่ใบหน้าเช่นนั้นใช่ไหม? มันเหมือนดอกกุหลาบอยู่เสมอ ไม่ใช่ว่าบางครั้งมันเหมือนดอกกุหลาบที่กำลังเบ่งบาน และบางครั้งก็กลายเป็นอย่างอื่น ทันทีที่ลูกเกิดมา บัพดาดาได้บอกลูกว่ามายาจะมาขัดขวางลูกในชีวิตที่สูงส่งนี้ อย่างไรก็ตาม หน้าที่ของมายาคือการมา และหน้าที่ของลูกดวงวิญญาณผู้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะรักษาความบริสุทธิ์อยู่เสมอคือการขับไล่มายาออกไปจากระยะไกล

บัพดาดาได้เห็นแล้วว่าลูกบางคนไม่ได้ขับไล่มายาออกไปจากระยะไกล มายามา ลูกปล่อยให้เธอมา นั่นคือลูกได้รับอิทธิพลจากมายา หากลูกไม่ขับไล่เธอออกไปจากระยะไกล มายาก็จะพัฒนานิสัยนั้นเช่นกัน เพราะเธอรู้ว่าลูกจะปล่อยให้เธออยู่ที่นั่น สิ่งบ่งบอกของการปล่อยให้มายาอยู่ต่อคือ เมื่อมายามา ลูกคิดว่านั่นคือมายา แต่แล้วลูกคิดอย่างไร? "เรายังไม่กลับมาสมบูรณ์ ยังไม่มีใครกลับมาสมบูรณ์ ตอนนี้เรายังคงจะกลายเป็นสิ่งนั้น เราจะกลายเป็นเช่นนั้น ลูกเริ่มพูดว่า "เก เก" (ที่ว่ามันจะเกิดขึ้นในอนาคต) และมายาจึงพัฒนานิสัยที่จะอยู่ที่นั่น ดังนั้น วันนี้ ลูกกำลังเฉลิมฉลองวันเกิดนี้ พ่อให้พรและแสดงความยินดีกับลูก แต่พ่อปรารถนาที่จะเห็นลูกทุกคนในรูปแบบใดแม้กระทั่งลูกที่เป็นลูกอันดับสุดท้าย? แม้กระทั่งลูกที่เป็นอันดับสุดท้ายก็ยังเป็นที่รักของพ่อ ดังนั้น พ่อต้องการที่จะเห็นแม้กระทั่งลูกที่เป็นอันดับสุดท้ายเป็นเหมือนดอกกุหลาบอยู่เสมอ ดอกกุหลาบที่เบ่งบาน ไม่ใช่ที่เหี่ยวเฉา สาเหตุของการเหี่ยวเฉาคือความไม่ระมัดระวังเล็กน้อย นั่นคือ "มันจะเกิดขึ้น ฉันจะจัดการเรื่องนี้เองคอยดูก็แล้วกัน ฉันจะทำ" เดี๋ยวก็ได้ ฉันจะไปถึงที่นั่น" ดังนั้น ภาษา "เก, เก" นี้ทำให้ลูกล้มลง ดังนั้น ลองตรวจสอบดูสิว่า เวลาผ่านไปมากแค่ไหนแล้ว? เวลานี้ บัพดาดาได้ส่งสัญญาณถึงเวลาที่ใกล้เข้ามาแล้ว และสำหรับบางสิ่งที่เกิดขึ้นในทันที ไม่ใช่ว่าท่านกำลังส่งสัญญาณอยู่ในขณะนี้ แต่ท่านได้ส่งสัญญาณนั้นไปแล้ว จำเป็นต้องอยู่อย่างพร้อมเสมอและตื่นตัวอยู่เสมอสำหรับเวลาเช่นนั้น เพื่อที่จะอยู่อย่างตื่นตัว ให้ตรวจสอบดูว่า จิตใจและสติปัญญาของฉันสะอาดและชัดเจนอยู่เสมอหรือไม่? สิ่งเหล่านี้ต้องสะอาด ต้องชัดเจน สำหรับสิ่งนี้เพื่อที่จะได้รับชัยชนะในเวลานั้น สิ่งสำคัญคือต้องมีทั้งพลังในการจับและพลังในการสัมผัสในจิตใจและสติปัญญาของลูก สถานการณ์เช่นนั้นจะมาถึง ที่แม้ว่าลูกอาจจะนั่งอยู่ไกลออกไป แต่ลูกจะสามารถจับสัญญาณของพ่อ จับคำแนะนำหรือคำสั่งของพ่อ และจับศรีมัตของพ่อที่ลูกจะได้รับได้ หากจิตใจและสติปัญญาของลูกสะอาดและชัดเจน ลูกจะถูกสัมผัส: ฉันต้องทำสิ่งนี้ ฉันต้องไม่ทำสิ่งนั้น ดังนั้น บัพดาดาได้บอกลูกไปแล้วก่อนหน้านี้ว่า จงสะสมพลังแห่งความเงียบให้มากเท่าที่ลูกต้องการ ลูกต้องสามารถควบคุมจิตใจและสติปัญญาของลูกได้เมื่อใดก็ตามที่ลูกต้องการ ตามที่ลูกต้องการ อย่าปล่อยให้ความคิดที่ไร้สาระมาสัมผัสความฝันของลูกเลย จะต้องมีการควบคุมจิตใจของลูกได้ ด้วยเหตุนี้จึงมีคำกล่าวว่า "เมื่อลูกเอาชนะจิตใจได้ ลูกก็เอาชนะโลกได้" ยกตัวอย่างเช่น อวัยวะต่างๆของมือของลูก ลูกสามารถทำให้มันทำงานตามที่ลูกต้องการตามคำสั่งของลูกได้ ในทำนองเดียวกัน จงให้พลังในการควบคุมจิตใจและสติปัญญาของลูกปรากฏขึ้นในดวงวิญญาณในทุกขณะ อย่าให้เป็นเช่นนั้นที่ลูกมีประสบการณ์นั้นในเวลาที่มีโยคะ แต่เมื่อลูกทำการกระทำต่างๆ ในช่วงเวลาที่มีการปฏิสัมพันธ์หรือมีความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ มีประสบการณ์นั้นน้อยลง ข้อสอบจะมาถึงในทันที เพราะลูกต้องทำข้อสอบเป็นครั้งคราวก่อนถึงข้อสอบสุดท้าย

แล้ววันเกิดนี้ลูกจะมีคุณสมบัติพิเศษอะไร? จงสะสมพลังแห่งความเงียบให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ ในหนึ่งวินาที จงหลุดหายไปในประสบการณ์แห่งความเงียบอันแสนหวาน เพราะเมื่อพูดถึงวิทยาศาสตร์และความเงียบ วิทยาศาสตร์กำลังก้าวเข้าสู่จุดสุดโต่ง/สุดขีด ชัยชนะของพลังแห่งความเงียบเหนือวิทยาศาสตร์จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง ด้วยพลังแห่งความเงียบนี้ ลูกจะสามารถให้ความร่วมมือแก่ดวงวิญญาณใดๆได้แม้อาจจะนั่งอยู่ห่างไกลก็ตาม ลูกสามารถทำให้จิตใจที่เร่ร่อนสงบลงได้ ลูกเห็นบราห์มาบาบา: เมื่อใดก็ตามที่ลูกที่รักยิ่งคนใดตกอยู่ในความปั่นป่วนประเภทใดหรือกำลังชำระสะสางบัญชีกรรมทางกาย บาบาจะตื่นแต่เช้าตรู่และให้สกาชด้วยพลังแห่งความเงียบ และดวงวิญญาณนั้นจะได้รับประสบการณ์นั้น ดังนั้น ในเวลาสุดท้าย ลูกจะต้องให้ความร่วมมือของความเงียบนี้ ตามสถานการณ์แล้ว ลูกต้องให้ความใส่ใจกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก มีเพียงเวลานี้เท่านั้นที่ธนาคารจะเปิดให้ลูกได้สะสมพลังแห่งความเงียบและพลังแห่งการกระทำที่สูงส่ง ธนาคารที่จะสะสมนี้ไม่มีอยู่ในชาติอื่นใด หากลูกไม่สะสมพลังเหล่านี้ในตอนนี้ แล้วเมื่อธนาคารไม่มีอยู่ ลูกจะสะสมพลังเหล่านี้ได้ที่ไหน? ดังนั้น ลูกสามารถสะสมเครดิตได้มากเท่าที่ลูกต้องการในเวลานี้ โดยทั่วไปแล้ว ผู้คนมักพูดเสมอว่า: ทำในสิ่งที่อยากทำในตอนนี้ คิดถึงสิ่งที่ต้องคิดในตอนนี้ ไม่ว่าลูกจะคิดอะไรในตอนนี้ มันจะคงอยู่ในรูปของความคิด ในขณะที่เวลาผ่านไปสักระยะหนึ่ง เมื่อเวลาที่มีขีดจำกัดของลูกใกล้เข้ามา ความคิดนั้นจะเปลี่ยนเป็นการสำนึกผิด: "ถ้าฉันทำอย่างนี้ ฉันก็ต้องทำอย่างนี้..." ความคิดนั้นจะไม่คงอยู่ในรูปของความคิด แต่จะเปลี่ยนเป็นการสำนึกผิด ด้วยเหตุนี้บัพดาดาจึงส่งสัญญาณล่วงหน้าให้แก่ลูก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จงหลุดหายอยู่ในพลังแห่งความเงียบในหนึ่งวินาที อย่าพูดว่า "ฉันกำลังพยายามอยู่" ลูกสามารถพยายามสะสมสิ่งเหล่านี้ได้ในเวลานี้

ดังนั้นบัพดาดาจึงมีความรักต่อลูกๆ บัพดาดาปรารถนาที่จะพาลูกๆทุกคนกลับไปกับท่าน สัญญาคือบาบาจะอยู่กับลูก และบาบาจะกลับไปกับลูก เพื่อให้สัญญานั้นได้รับการเติมเต็ม ผู้ที่กลับมาทัดเทียมคือผู้ที่จะกลับไปกับท่าน ดับเบิ้ลฟอเรนเนอร์ชอบที่จะเดินจูงมือกัน ดังนั้น มือของลูกควรอยู่ในมือของศรีมัต ศรีมัตของพ่อและการกำหนดของลูกเอง (มานมัต) กล่าวกันว่าจับมือกัน/เป็นของคู่กัน เป็นเช่นนั้นไหม? วันนี้ลูกมาเฉลิมฉลองวันเกิดนี้ใช่ไหม? บัพดาดาพอใจและมีความซาบซึ้งทางจิตเป็นอย่างยิ่งเช่นกันที่ลูกๆของท่านมักจะมีความกระตือรือร้นและเฉลิมฉลองเทศกาลอยู่เสมอ ลูกเฉลิมฉลองเทศกาลทุกวันหรือเพียงแค่วันพิเศษ? ยุคบรรจบพบกันก็เป็นเทศกาลในตัวของมันเอง ยุคบรรจบพบกันคือยุคแห่งการเฉลิมฉลอง ไม่มียุคใดที่จะเหมือนยุคบรรจบพบกัน ดังนั้น ลูกทุกคนจึงมีความจริงจังและความกระตือรือร้นที่จะต้องกลับมาทัดเทียมกับพ่ออย่างแน่นอนใช่หรือไม่? ใช่ไหม? ลูกต้องกลายเป็นสิ่งนั้น หรือลูกจะได้เห็นสิ่งนั้นเองว่าเป็นอย่างไร ว่าลูกจะกลายเป็นสิ่งนั้นในอนาคต ว่าลูกจะทำสิ่งนั้นในอนาคต? ลูกจะไม่พูดว่า "เก เก" (ว่ามันจะเกิดขึ้นในอนาคต) ใช่ไหม? ผู้ที่คิดว่าลูกต้องกลายเป็นสิ่งนี้ ยกมือขึ้น! ลูกต้องกลายเป็นสิ่งนั้น ลูกอาจต้องสละละทิ้งบางสิ่งบางอย่าง ลูกอาจต้องทำตาปาเซีย ลูกพร้อมที่จะสละละทิ้งอะไรก็ตามที่ลูกอาจต้องสละละทิ้งหรือไม่? อะไรคือการสละละทิ้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด? ในการสละละทิ้ง อุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดถูกสร้างขึ้นด้วยคำเพียงคำเดียว ในการสละละทิ้ง ตาปาเซีย การวางเฉย การวางเฉยที่ไม่มีขีดจำกัดของลูก มันเป็นเพียงแค่คำๆเดียวที่ก่อให้เกิดอุปสรรค ลูกรู้จักมันอยู่แล้ว คำเดียวนั้นคืออะไร? "ฉัน" "ฉัน" ของจิตสำนึกที่เป็นร่าง ด้วยเหตุนี้บัพดาดาจึงกล่าวว่า: เมื่อใดก็ตามที่ลูกพูดว่า "ของฉัน" ลูกนึกถึงอะไรก่อนเป็นอันดับแรก? บาบาของฉัน (เมร่า บาบา) มันคือ "บาบาของฉัน" ใช่หรือไม่? ลูกอาจพูดว่า "ของฉัน" สำหรับสิ่งอื่น แต่ในการพูดว่าของฉัน ลูกได้พัฒนานิสัยของการพูดว่า "บาบาของฉัน" ก่อน ในทำนองเดียวกัน เมื่อใดก็ตามที่ลูกพูดว่า "ฉัน" เช่นเดียวกับที่ลูกไม่เคยลืม "บาบาของฉัน" เมื่อใดก็ตามที่ลูกพูดว่า "ของฉัน" คำว่า "บาบา" ก็ถูกใช้เช่นกัน เมื่อใดก็ตามที่ลูกพูดคำว่า "ฉัน" ลูกควรจดจำดวงวิญญาณอยู่เสมอ: ฉันคือใคร? ดวงวิญญาณ ฉันดวงวิญญาณกำลังทำสิ่งนี้ ฉันและของฉัน สิ่งที่มีขีดจำกัดได้แปรเปลี่ยนเป็นไม่มีขีดจำกัด สิ่งนี้เป็นไปได้ไหม? ได้ไหม? อย่างน้อยก็พยักหน้าเห็นด้วย ปลูกฝังนิสัยนี้ ทันทีที่ลูกพูดว่า "ฉัน" จงนึกถึงดวงวิญญาณ จากนั้นเมื่อมีจิตสำนึกของ "ฉัน" ลูกจะจำคำๆ หนึ่งได้ทันที นั่นคือ ใครคือคาราวันฮาร์ (ผู้ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ลูกลงมือทำ)? "พ่อ คาราวันฮาร์ กำลังบันดาลใจให้ฉันลงมือทำ" ในเวลาที่กำลังทำอะไรก็ตาม จงจำคำว่าคาราวันฮาร์อยู่เสมอ แล้วเมื่อนั้นจะไม่มีจิตสำนึกของ "ของฉัน": "ความคิดเห็นของฉัน หน้าที่ของฉัน" บางครั้งมีความซาบซึ้งอย่างมากในหน้าที่ของลูก "หน้าที่ของฉัน" - แต่ใครคือผู้ที่มอบหน้าที่นั้นให้กับลูก? หน้าที่เหล่านี้เป็นของขวัญจากพระเจ้า การคิดถึง "ฉัน" เกี่ยวกับของขวัญจากพระเจ้า: นั่นเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่?

บัพดาดาต้องการผลลัพธ์จากทุกที่ ในเดือนเดียวนี้ จงทำให้ธรรมชาติตามธรรมชาติของลูกเป็นเช่นนั้น เพราะธรรมชาติตามธรรมชาติไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น จงทำให้ธรรมชาติตามธรรมชาติของลูกเหมือนที่บาบาบอกลูก ให้คุณธรรมของพ่อปรากฏชัดบนใบหน้าของลูกอยู่เสมอ ให้ศรีมัตของพ่อปรากฏชัดในกิจกรรมของลูก จงให้ใบหน้าของลูกมีรอยยิ้มอยู่เสมอ ให้วิธีการทำทุกอย่างของลูกเป็นความพอใจและทำให้ทุกคนพอใจ ในทุกการกระทำให้มีความสมดุลของคาร์มาและโยคะ ลูกบางคนบอกบาบาในสิ่งที่ดีมาก บาบาควรบอกลูกหรือไม่ว่าพวกเขาพูดอะไร? พวกเขาพูดว่า บาบา แค่เข้าใจว่านี่คือธรรมชาติของฉัน มันไม่ใช่สิ่งอื่นใด แต่ธรรมชาติของฉันเป็นอย่างนั้น บัพดาดาควรจะพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้นไหม? นี่คือธรรมชาติของฉันหรือ? บางคนพูดว่า "วิธีการพูดของฉันเป็นอย่างนั้น ฉันไม่ได้โกรธ แต่วิธีการพูดของฉันค่อนข้างจะเป็นเช่นนั้นเล็กน้อย ฉันพูดเสียงดังเล็กน้อย แต่ฉันไม่ได้โกรธ ฉันแค่พูดเสียงดังนิดหน่อย ดูสิว่าคำพูดของพวกเขาช่างแสนหวานอะไรเช่นนี้!" บัพดาดาพูดว่า: การพูดว่า "ของฉัน" สำหรับสิ่งที่ลูกเรียกว่า "ธรรมชาติของฉัน" นั้นผิด "ธรรมชาติของฉัน" คือธรรมชาติของราวันหรือธรรมชาติของลูก? ธรรมชาติของลูกคือธรรมชาติของความเป็นนิรันดร์ที่คงอยู่ตลอดไปของช่วงเวลาดั้งเดิม ของช่วงเวลาเมื่อลูกมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา นั่นคือธรรมชาติดั้งเดิมของลูก เป็นเพราะลูกพูดว่า "ของฉัน ของฉัน" สำหรับบางสิ่งที่เป็นของราวัน ลูกจึงไม่สามารถกำจัดมันออกไปได้ ลูกเก็บบางสิ่งที่ไม่ใช่ของลูกไว้เป็นของลูก การที่ใครบางคนแอบเก็บบางสิ่งที่ไม่ใช่ของพวกเขาไว้อย่างระมัดระวังนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่? แล้วทำไมลูกถึงคิดว่าธรรมชาติของราวัน ธรรมชาติของคนอื่นเป็นของลูก? บางคนพูดด้วยความซาบซึ้งอย่างมากว่า: มันไม่ใช่ความผิดของฉัน มันเป็นเพียงธรรมชาติของฉัน พวกเขาแม้กระทั่งพยายามทำให้บัพดาดามั่นใจ แล้วตอนนี้ลูกจะทำพิธีเสร็จสิ้นสำหรับสิ่งนี้ไหม? ลูกจะทำไหม? ดูสิ พูดออกมาจากหัวใจ ทำด้วยจิตใจของลูก เมื่อไหร่ที่จิตใจของลูกเต็มใจ อะไรก็เป็นไปได้ ยอมรับสิ่งนี้ในจิตใจของลูก: "นี่ไม่ใช่ธรรมชาติของฉัน มันเป็นของคนอื่น ดังนั้นฉันจึงต้องไม่เก็บมันไว้ ลูกตายในขณะที่มีชีวิตใช่หรือไม่? ธรรมชาติของลูกคือธรรมชาติบราห์มินหรือธรรมชาติเก่าของลูก? ดังนั้น ลูกเข้าใจไหมว่าบัพดาดาต้องการอะไร? ลูกอาจจะสนุกสนานกับตัวเอง ลูกอาจจะร่ายรำและเล่นเกม แต่... มี"แต่" ในขณะที่ลูกทำทุกสิ่ง ลูกจะต้องกลับมาทัดเทียม ลูกจะกลับบ้านไปกับพ่อได้อย่างไรหากลูกไม่กลับมาทัดเทียม? ลูกจะต้องรออยู่ที่ด่าน ในดินแดนดารามราช (ธรรมราช) ลูกจะไม่สามารถกลับไปพร้อมกับพ่อได้ ดังนั้น เราควรเห็นผลลัพธ์หลังจากหนึ่งเดือนหรือไม่? ดาดี้ พูดสิ! เราควรจะเห็นผลลัพธ์ไหม? พูดสิ เราควรจะเห็นมันไหม? ลูกจะให้ความใส่ใจเป็นเวลาหนึ่งเดือนไหม? ถ้าลูกให้ความใส่ใจเป็นเวลาหนึ่งเดือน มันก็จะกลายเป็นเรื่องธรรมชาติ อย่าได้พลาดแม้แต่วันเดียวในแต่ละเดือน อัจชะ ลูกดาดี้จะรับผิดชอบสำหรับเรื่องนี้ไหม? ลูกทุกคนยื่นมือแห่งความปรารถนาดีและความรู้สึกที่บริสุทธิ์ให้กันและกัน เมื่อใครบางคนล้มลง ลูกจะยื่นมือออกไปด้วยความรักอย่างมากเพื่อให้เขาลุกขึ้นมาอีกครั้ง ดังนั้น ด้วยมือแห่งความปรารถนาดีและความรู้สึกที่บริสุทธิ์ จงให้ความร่วมมือแก่กันและกันและทำให้พวกเขาก้าวหน้าต่อไป โอเคไหม? ลูกไม่ได้ตรวจสอบมากเท่าที่ควร ลูกทำอะไรบางอย่างแล้วจึงตรวจสอบ แต่ตอนนั้นมันก็เกิดขึ้นไปแล้วใช่หรือไม่? ดังนั้น คิดก่อนแล้วค่อยทำ ไม่ใช่ว่าลูกทำอะไรก่อนแล้วค่อยคิด ลูกต้องทำสิ่งนี้ อัจชะ

บัพดาดาต้องการให้ลูกฝึกดริลอะไร? ในหนึ่งวินาที จงกลายเป็นตัวของพลังแห่งความเงียบ: จิตใจที่จดจ่อและสติปัญญาที่จดจ่อ ตลอดทั้งวัน จงสละเวลาหนึ่งวินาทีเป็นครั้งคราวและฝึกฝนสิ่งนี้ ทันทีที่ลูกมีความคิดถึงความเงียบ ลูกจะกลายเป็นตัวแห่งความเงียบ ลูกต้องการเวลาสำหรับสิ่งนี้ จงฝึกนิ่งสงบเป็นเวลาหนึ่งวินาที อัจชะ

ถึงดวงวิญญาณผู้มีโชคในทุกหนแห่งที่กำลังเฉลิมฉลองวันเกิดของลูก ถึงผู้ที่รักษาความกระตือรือร้นและเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งยุคบรรจบพบกัน ถึงลูกทุกคนที่เฝ้าแต่โบยบินด้วยปีกแห่งความจริงจังและความกระตือรือร้นอยู่เสมอ ถึงลูกมหาเวียร์ผู้ที่ทำให้จิตใจและสติปัญญาของตนมั่นคงและมีสมาธิอยู่เสมอ ถึงลูกผู้ที่ทำตามพ่อและนำความกระตือรือร้นของตนมาใช้ในรูปปฏิบัติเพื่อที่จะกลับมาทัดเทียม ถึงผู้ที่มีความรักและความร่วมมือต่อกันอย่างต่อเนื่องอยู่เสมอ ถึงผู้ที่มอบความกล้าหาญและช่วยเหลือผู้อื่นให้ได้รับพรของการช่วยเหลือจากพ่อ ถึงลูกที่เป็นผู้ประทานพรและผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ รักและระลึกถึงจากบัพดาดา และขอแสดงความยินดีหลายล้านเท่า ขอแสดงความยินดี ขอแสดงความยินดี!

พร:
ขอให้ลูกอยู่ในสภาพที่ปลดเกษียรที่ไม่มีขีดจำกัด และอยู่ในความสันโดษและในการจดจำระลึกถึง

ตามเวลาในปัจจุบัน ลูกทุกคนกำลังใกล้ถึงสภาพของการปลดเกษียรแล้ว ผู้ที่อยู่ในสภาพของการปลดเกษียรของตนไม่ได้เล่นเกมในวัยเด็ก พวกเขาอยู่ในความสันโดษและอยู่ในการจดจำระลึกถึงเสมอ ลูกทุกคนที่อยู่ในสภาพของการปลดเกษียรที่ไม่มีขีดจำกัดนั้น จะอยู่อย่างซึมซับอยู่ในความลึกล้ำของผู้เป็นหนึ่งเดียว นั่นคือ ลูกอยู่ในความสันโดษอยู่เสมอ พร้อมกับสิ่งนั้นลูกต้องเฝ้าแต่จดจำระระลึกถึงผู้เดียวและกลายเป็นตัวของการจดจำระลึกถึง ความหวังอันบริสุทธิ์ของบัพดาดาสำหรับลูกทุกคนคือ เวลานี้ลูกกับพ่อจะกลับมาทัดเทียมกัน จงอยู่อย่างหลอมรวมในการจดจำระลึกถึงอย่างสม่ำเสมอ การทัดเทียมกันคือการกลับมาหลอมรวม นี่คือสัญญาณบ่งบอกของการอยู่ในสภาพที่ปลดเกษียณ

คติพจน์:
เมื่อลูกก้าวเดินด้วยความกล้าหาญเพียงหนึ่งก้าว พ่อจะให้ความช่วยเหลือหนึ่งพันก้าว

สัญญาณที่ละเอียดอ่อน: เวลานี้ให้มีความใส่ใจอย่างลึกล้ำที่จะกลับมาสมบูรณ์พร้อมและอยู่เหนือบ่วงกรรม

เช่นเดียวกับที่มีเพียงเสียงเดียว "บาบาของฉัน" ที่ออกมาจากริมฝีปากของทุกคนสำหรับพ่อ ในทำนองเดียวกัน ขอให้มีภาวนา (ความรู้สึกดีๆ) และความตระหนักรู้นี้สำหรับลูกดวงวิญญาณที่สูงส่งแต่ละคน ขอให้ทุกคนรู้สึกถึงความเป็นส่วนหนึ่งในแต่ละคน ให้ทุกคนพิจารณาว่าลูกคือผู้ที่มีความคิดที่บริสุทธิ์และเป็นบวกต่อพวกเขาและเป็นมิตรร่วมทางที่ให้ความร่วมมือด้วย สิ่งนี้เรียกว่าการทัดเทียมกับพ่อและนั่งบนบัลลังก์หัวใจในสภาพที่อยู่เหนือบ่วงกรรม-คาร์มาทีท

หมายเหตุ: วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ 3 ของวันสมาธิโลก เมื่อพี่น้องราชาโยคีตาปาสวีทุกคนจะมีโยคะร่วมกันตั้งแต่เวลา 18.30 – 19.30 น. ในขณะที่มีโยคะ จงมั่นคงอยู่ในรูปแห่งแสงและพลังของลูก และในขณะที่อยู่ตรงกลางหน้าผากและอัญเชิญบัพดาดา จงสัมผัสกับรูปรวมและทำงานรับใช้ของการกระจายรัศมีแห่งแสงและพลังไปทั่วทุกหนแห่ง