22.12.25 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน,
รู้จักพ่อได้อย่างถูกต้องแม่นยำอย่างที่ท่านเป็นและท่านเป็นอย่างไร
และจดจำระลึกถึงท่าน สำหรับสิ่งนี้ทำให้สติปัญญาของลูกกว้างไกลและไม่มีขีดจำกัด
คำถาม:
เหตุใดพ่อจึงถูกเรียกว่าเจ้าแห่งคนจน?
คำตอบ:
เพราะเวลานี้เมื่อทั้งโลกยากจนและไม่มีความสุข
พ่อได้มาเพื่อปลดปล่อยทุกคนจากความทุกข์
ไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่จะเมตตาสำหรับใครสักคนด้วยการให้อาหารและเสื้อผ้าแก่เขา
พวกเขาไม่ได้กลับมาร่ำรวยผ่านสิ่งนั้น
ไม่ใช่ด้วยการให้เงินกับชาวพื้นเมืองที่พ่อสามารถถูกเรียกว่าเจ้าแห่งคนจน
พ่อทำให้ดวงวิญญาณที่ยากจนนั่นคือดวงวิญญาณที่ไม่บริสุทธิ์ผู้ที่ไม่มีความรู้ให้กลับมาบริสุทธิ์โดยการให้ความรู้นี้แก่พวกเขา
เพลง:
นี่คือฤดูกาลที่จะลืมโลก!
โอมชานติ
ลูกๆ ที่สุดแสนหวานได้ยินเพลงแล้ว ลูกๆรู้ว่าเพลงนี้ถูกแต่งขึ้นมาโดยผู้คนทางโลก
คำพูดในเพลงนั้นดีมาก: “คุณต้องลืมโลกเก่านี้” ก่อนหน้านี้ลูกไม่เข้าใจสิ่งนี้
ผู้คนในยุคเหล็กไม่เข้าใจว่าพวกเขาต้องลืมยุคเหล็กอย่างแน่นอนถ้าพวกเขาต้องการที่จะไปสู่โลกใหม่
แม้ว่าพวกเขาเข้าใจว่าพวกเขาต้องจากโลกเก่า
พวกเขาก็ยังคงคิดว่ายังมีเวลาเหลืออยู่อีกมากมาย
พวกเขาเข้าใจว่าสิ่งใหม่จะกลับมาเก่าอย่างแน่นอน
แต่ด้วยการให้ช่วงระยะเวลาที่ยาวนาน พวกเขาก็ลืมสิ่งนี้ไป
เวลานี้ลูกได้รับการให้ตระหนักรู้ว่าเมื่อโลกใหม่ได้รับการก่อตั้ง
โลกเก่าก็ต้องถูกลืม จะเกิดอะไรขึ้นด้วยการลืมโลกนี้?
เราจะจากร่างกายของเราและไปสู่โลกใหม่ อย่างไรก็ตามในหนทางของความไม่รู้
ความสนใจของผู้คนไม่ได้ถูกดึงดูดไปที่ความหมายของสิ่งเหล่านี้
ไม่มีใครสามารถอธิบายให้ลูกเข้าใจได้ในแบบที่พ่อทำ
เวลานี้ลูกเข้าใจความหมายของสิ่งนี้แล้ว ลูกๆก็รู้ด้วยเช่นกันว่าพ่อนั้นธรรมดามาก
แม้แต่ลูกๆที่ดีและพิเศษมากก็ไม่เข้าใจสิ่งนี้อย่างเต็มที่
พวกเขาลืมไปว่าชีพบาบาเข้ามาในผู้นี้
เมื่อได้รับคำแนะนำพวกเขาก็ไม่เข้าใจว่านั่นเป็นคำแนะนำของชีพบาบา
เป็นราวกับว่าพวกเขาลืมชีพบาบาตลอดทั้งวัน เนื่องจากความไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้
พวกเขาจึงไม่ทำงาน มายาไม่ปล่อยให้พวกเขาจดจำ ไม่มีการจดจำระลึกถึงอย่างสม่ำเสมอ
ด้วยการทำความพยายามอย่างต่อเนื่อง ลูกจะมีสภาพนั้นในเวลาสุดท้ายอย่างแน่นอน
ยังไม่มีใครที่จะไปถึงสภาพอยู่เหนือบ่วงกรรมได้ในเวลานี้
ลูกต้องการสติปัญญาที่กว้างไกลเพื่อที่จะรู้จักพ่ออย่างที่ท่านเป็นและท่านเป็นอย่างไร
บางคนถามลูกว่า: บัพดาดาสวมเสื้อผ้าที่อบอุ่นหรือไม่? ลูกตอบว่า:
ท่านทั้งสองกำลังสวมเสื้อผ้านั้นอยู่ ชีพบาบาจะบอกว่า:
พ่อไม่จำเป็นต้องสวมเสื้อผ้าที่อบอุ่น พ่อไม่ได้รู้สึกถึงความหนาวเย็น
อย่างไรก็ตามผู้ที่พ่อได้เข้ามานั้นรู้สึกหนาว พ่อไม่ได้รู้สึกหิวหรือกระหาย
พ่อมีภูมิคุ้มกันต่อสิ่งนั้นทั้งหมด แม้ในขณะที่กำลังทำงานรับใช้
พ่ออยู่เหนือทุกสิ่งเหล่านั้น พ่อไม่กินหรือดื่ม
มีผู้รู้คนหนึ่งที่เคยพูดว่าเขาไม่กินหรือดื่ม; เขาสวมใส่รูปลักษณ์ภายนอกที่ปลอม
ผู้คนมากมายได้รับชื่อที่เป็นของเทพ ไม่มีใครกลายเป็นเทพในศาสนาอื่นใดๆ
ที่นี่มีวัดมากมาย ทุกหนทุกแห่งพวกเขาเชื่อในชีพบาบาผู้เดียวเท่านั้น
สติปัญญายังคงบอกว่าสามารถมีเพียงพ่อผู้เดียวเท่านั้น
เป็นจากพ่อของลูกที่ลูกได้รับมรดก สิ่งนั้นอยู่ในสติปัญญาของลูกๆ
ว่าเป็นในยุคบรรจบพบกันที่สูงส่งที่สุดนี้ที่ลูกได้รับมรดกจากบาบา
เมื่อเราไปสู่ดินแดนแห่งความสุข ดวงวิญญาณอื่นๆทั้งหมดคงอยู่ในดินแดนแห่งความสงบ
สิ่งนี้เป็นที่เข้าใจในบรรดาลูกเช่นกันตามลำดับกันไป
ผู้ที่คิดเกี่ยวกับความรู้นี้อยู่ตลอดเวลาจะสามารถพูดความรู้ได้โดยอัตโนมัติ
ลูกกำลังจะกลายเป็นรูปและบาซาน (เป็นตัวของโยคะและประพรมความรู้) โดยผ่านบาบา
ลูกคือรูปและบาซาน ไม่มีใครในโลกที่สามารถพูดว่าพวกเขาคือรูปและบาซาน
เวลานี้ลูกกำลังศึกษาเล่าเรียนและจะเรียนต่อไปจนถึงเวลาสุดท้ายตามลำดับกันไปตามความพยายามของลูก
ชีพบาบาคือพ่อของทุกดวงวิญญาณ ลูกรู้สึกถึงสิ่งนี้ในหัวใจของลูก
ลูกไม่รู้สึกอยู่ในหัวใจของลูกในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา
ที่นี่ลูกกำลังนั่งอยู่เบื้องหน้าท่านเป็นการส่วนตัว
ลูกเข้าใจว่าพ่อจะมาอีกครั้งในเวลานี้เท่านั้นและไม่จำเป็นสำหรับท่านที่จะมาอีกครั้งในเวลาอื่นใด
ไม่มีความจำเป็นใดๆสำหรับท่านที่จะมาในระหว่างยุคทองและยุคเงิน
หรือระหว่างยุคทองแดงและยุคเหล็ก ท่านมาในการบรรจบพบกันของวงจร พ่อคือเจ้าแห่งคนจน
นั่นคือท่านเป็นพ่อของทั้งโลกนี้ที่ยากจนและทุกข์ทรมาน มีอะไรอยู่ในหัวใจของท่าน?
พ่อคือพระเจ้าแห่งคนจน; ความทุกข์และความยากจนทั้งหมดของทุกคนควรจะจบสิ้นลง
ความทุกข์และความยากจนไม่สามารถลดลงได้นอกจากด้วยความรู้นี้
ไม่มีใครสามารถกลับมาร่ำรวยได้เพียงแค่ได้รับเสื้อผ้าและอาหาร
บางทีเมื่อเห็นคนยากจน พ่อรู้สึกอยากจะให้เสื้อผ้าแก่พวกเขา
เพราะพ่อจำได้ว่าพ่อเป็นพระเจ้าแห่งคนจน
อย่างไรก็ตามในเวลาเดียวกันพ่อก็เข้าใจด้วยเช่นกันว่าพ่อไม่เพียงแต่เป็นพระเจ้าแห่งคนจนสำหรับพวกเขาเท่านั้น
พ่อคือเจ้าแห่งคนจนที่ชำระผู้ที่ไม่บริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์
พ่อคือผู้ชำระให้บริสุทธิ์ พ่อคิดเกี่ยวกับสิ่งนี้ แม้ว่าพ่อจะเป็นเจ้าแห่งคนจน
พ่อจะให้เงินได้อย่างไร? มีผู้คนมากมายในโลกนี้ที่สามารถให้เงิน
พวกเขารวบรวมเงินจากกองทุนจำนวนมากและแล้วนำไปบริจาคให้แก่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
พวกเขารู้ว่าการเป็นเด็กกำพร้าหมายถึงการเป็นใครบางคนที่ไม่มีพระผู้เป็นเจ้าและผู้เป็นนาย
เด็กกำพร้าหมายถึงใครบางคนที่ยากจน ลูกก็ไม่มีพระผู้เป็นเจ้าด้วย
นั่นคือลูกไม่มีพ่อ ลูกเคยยากจนเพราะลูกไม่มีความรู้นี้
ผู้คนที่ไม่ได้เป็นรูปและบาซานนั้นยากจนและ “อนาถ”(เด็กกำพร้าไม่มีอะไรเลย)
ผู้ที่เป็นรูปและบาซานคือ“สนาถ”(ผู้ที่ครอบครองทุกสิ่ง) ผู้ที่มั่งคั่งคือ“สนาถ”
ผู้ที่ยากจนคือ “อนาถ”
สิ่งนี้ได้อยู่ในสติปัญญาของลูกว่าทุกคนนั้นยากจนและเราต้องให้อะไรบางอย่างแก่พวกเขา
เพราะพ่อคือเจ้าแห่งคนจน, ท่านพูดว่า:
ให้บางสิ่งที่พวกเขาสามารถกลับมามั่งคั่งได้ตลอดไป มิฉะนั้นการให้เสื้อผ้า ฯลฯ
เป็นเรื่องธรรมดา ทำไมเราต้องข้องแวะในสิ่งนั้น?
เราควรเปลี่ยนพวกเขาจากเด็กกำพร้าเป็นผู้มั่งคั่ง แม้ว่าบางคนจะเป็นมหาเศรษฐี
แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงชั่วคราว นี่คือโลกของเด็กกำพร้า ถึงแม้จะมีคนรวย
แต่ทั้งหมดนั้นก็เพียงชั่วคราว
ที่นั่นพวกเขาเป็นของพระผู้เป็นเจ้าและผู้เป็นนายเสมอ
ที่นั่นไม่มีใครสำนึกผิดกับการกระทำของพวกเขา ที่นี่มีคนยากจนมากมาย
ผู้คนที่มั่งคั่งมีความซาบซึ้งและคิดว่าพวกเขาอยู่ในสวรรค์
อย่างไรก็ตามลูกรู้ว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น ลูกรู้ว่าเวลานี้ไม่มีมนุษย์คนใดที่“สนาถ”(คนที่เป็นของพระผู้เป็นเจ้าและผู้เป็นนาย);
ทั้งหมดเป็นเด็กกำพร้า เงินฯลฯ ทั้งหมดจะกลายเป็นฝุ่น
มนุษย์คิดว่าพวกเขามีทรัพย์สมบัติมากมายถึงขนาดที่เหลนของพวกเขาจะสามารถใช้ต่อไปจนชั่วลูกชั่วหลาน
แต่มันจะไม่เป็นเช่นนั้น ทั้งหมดจะถูกทำลาย
ด้วยเหตุนี้เองที่ลูกควรมีการวางเฉยในทั้งโลกเก่านี้
ลูกรู้ว่าโลกใหม่ถูกเรียกว่าสวรรค์และโลกเก่าถูกเรียกว่านรก
บาบากำลังทำให้เรามั่งคั่งสำหรับโลกใหม่ โลกเก่ากำลังจะถูกทำลาย
พ่อกำลังทำให้เรามั่งคั่งอย่างมาก
ลักษมีและนารายณ์นี้กลับมามั่งคั่งมากมายได้อย่างไร?
พวกเขาต่อสู้เพื่อสิ่งนั้นหรือพวกเขาสืบต่อมาจากคนรวย?
พวกเขาได้รับบัลลังก์ในลักษณะที่ราชาอื่นได้รับบัลลังก์หรือไม่?
หรือพวกเขาได้รับความมั่งคั่งนี้บนพื้นฐานของการกระทำของพวกเขา?
วิธีการที่พ่อสอนเราเกี่ยวกับการกระทำนั้นพิเศษสุด คำว่า “การกระทำ”, “การกระทำที่เป็นกลาง”
และ “การกระทำที่เป็นบาป” นั้นชัดเจนอย่างสมบูรณ์ บางคำในคัมภีร์ก็ถูกต้อง
แต่เหมือนเกลือหนึ่งหยิบมือในถุงกระสอบ ที่นี่มีมนุษย์หลายล้านคน
ในขณะที่ที่นั่นมีเพียง 900,000 คน มันไม่แม้กระทั่งหนึ่งในสี่ของเปอร์เซ็นต์
สิ่งนี้ถูกเรียกว่าเกลือหนึ่งหยิบมือในถุงกระสอบ ทั้งโลกจะถูกทำลาย
มีเพียงน้อยนิดที่หลงเหลืออยู่ในยุคบรรจบพบกัน บางคนก็จากร่างไปก่อน;
และแล้วพวกเขาก็จะได้รับร่างอื่นๆ เช่นที่ซิสเตอร์มุกลีนั้นเป็นคนดีมาก
ดังนั้นเธอต้องไปเกิดในบ้านที่ดี พวกเขาเกิดตามลำดับกันไปในความสุข
พวกเขาต้องสัมผัสกับความสุขและความทุกข์เล็กน้อยด้วย
ยังไม่มีใครบรรลุสภาพอยู่เหนือบ่วงกรรม พวกเขาจะถือกำเนิดในบ้านที่มีความสุขมาก
อย่าได้คิดว่าที่นี่ไม่มีครอบครัวที่มีความสุข ที่นี่มีครอบครัวที่ดีมากมาย
อย่าได้ถามเลย! บาบาได้เห็นบางครอบครัวมาบ้าง
ลูกสะใภ้ทุกคนอยู่ด้วยกันอย่างมีความสงบและเป็นหนึ่งเดียวกันและทำความเลื่อมใสศรัทธาของเขาและอ่านกีตะด้วยกัน
บาบาถามว่า: ลูกทุกคนอยู่ด้วยกันและไม่รบรากันใช่ไหม? พวกเขาตอบว่า:
เราอยู่ในสวรรค์, เราทั้งหมดอยู่ด้วยกันและอยู่อย่างสงบและไม่เคยทะเลาะกัน
พวกเขาบอกว่าเหมือนอยู่บนสวรรค์ นั่นหมายความว่าสวรรค์เคยอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน
เหตุนั้นเองสวรรค์จึงได้รับการอ้างถึงในลักษณะนี้
อย่างไรก็ตามมีหลายคนที่นี่ที่ไม่มีธรรมชาติของการเป็นเหมือนผู้ที่อยู่อาศัยในสวรรค์
สาวใช้และคนใช้ต้องถูกสร้างขึ้นมาด้วยเช่นกัน อาณาจักรกำลังมีการก่อตั้งขึ้น
ผู้ที่กลายเป็นบราห์มินคือผู้ที่จะเข้ามาในอาณาจักรเทพ แต่ตามลำดับกันไป
บางคนอ่อนหวานมากและรักทุกคนมาก พวกเขาไม่เคยกลับมาโกรธกับใคร ด้วยการกลับมาโกรธ
ลูกก็สัมผัสกับความทุกข์ ผู้ที่เป็นเหตุของความทุกข์สำหรับผู้อื่นผ่านความคิด คำพูด
และการกระทำของพวกเขานั้นถูกเรียกว่าดวงวิญญาณที่มีความทุกข์ มีคำกล่าวว่า:
ดวงวิญญาณบุญและดวงวิญญาณบาป พวกเขาใช้ชื่อของร่างกายหรือไม่?
ในความเป็นจริงมันเป็นดวงวิญญาณที่กลายเป็นสิ่งนั้น
ไม่ใช่ดวงวิญญาณบาปทั้งหมดจะเป็นเช่นเดียวกัน ดวงวิญญาณบุญก็ไม่ได้เป็นเช่นเดียวกัน
พวกเขาทั้งหมดตามลำดับกันไปตามความเพียรพยายามของพวกเขา
นักเรียนเองก็เข้าใจว่าบุคลิกและสภาพจิตของพวกเขานั้นเป็นอย่างไร
และมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นอย่างไร เราพูดอย่างอ่อนหวานกับทุกคนไหม?
ถึงแม้ว่าเมื่อบางคนพูดอะไรบางอย่าง ฉันก็ตอบกลับไปในแบบที่ไม่ดีหรือไม่?
ลูกๆบางคนบอกบาบาว่าพวกเขากลับมาโกรธกับลูกๆของเขา บาบาพูดว่า:
มากเท่าที่จะเป็นไปได้ให้รับมือกับทุกสถานการณ์ด้วยความรัก
ลูกต้องกลับมาเป็นอิสระจากความผูกพันยึดมั่นด้วยเช่นกัน
ลูกๆเข้าใจว่าลูกต้องการกลายเป็นเช่นลักษมีและนารายณ์
เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของลูกอยู่เบื้องหน้าลูก
เป็นเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่สูงมาก! ผู้ที่กำลังสอนลูกก็สูงสุดด้วยเช่นกัน
พวกเขาร้องสรรเสริญศรีกฤษณะอย่างมากว่าเขานั้นเต็มเปี่ยมด้วยคุณธรรมทั้งหมดและ 16
องศาเต็ม เวลานี้ลูกๆ รู้ว่าเรากำลังจะกลายเป็นเช่นนั้น
ลูกมาที่นี่เพื่อที่จะกลายเป็นสิ่งนั้น
เรื่องราวของการกลายเป็นนารายณ์ที่แท้จริงของลูกคือเรื่องราวของการกลายเป็นนารายณ์จากมนุษย์ธรรมดา
เรื่องราวของความเป็นอมตะคือการไปสู่ดินแดนแห่งความเป็นอมตะ ไม่มีซันยาสซีฯลฯ ใดๆ
ที่ตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้
ไม่มีมนุษย์คนใดสามารถถูกเรียกว่ามหาสมุทรแห่งความรู้หรือผู้ชำระให้บริสุทธิ์
เมื่อทั้งโลกไม่บริสุทธิ์ เราจะเรียกใครว่าผู้ชำระให้บริสุทธิ์?
ไม่มีใครที่นี่สามารถเป็นดวงวิญญาณบุญได้ พ่ออธิบายว่านี่คือโลกที่ไม่บริสุทธิ์
ศรีกฤษณะคืออันดับหนึ่ง เขาไม่สามารถถูกเรียกว่าพระเจ้า
เพียงพ่อที่ไม่มีตัวตนเดียวเท่านั้นที่เป็นอิสระจากการเกิดและกลับมาใช้ชาติเกิดใหม่
มีการร้องเพลงว่า: ขอคารวะต่อดวงวิญญาณสูงสุดชีวา บราห์มา วิษณุ
และชังก้าร์ถูกเรียกว่าเทพ และชีวาถูกเรียกว่าดวงวิญญาณสูงสุด
ดังนั้นชีวาอยู่เหนือทุกคน ท่านคือพ่อของทุกคน มรดกได้รับจากพ่อ
ด้วยการพูดว่าท่านอยู่ในทุกหนแห่งในเวลาเดียวกันลูกก็ไม่สามารถรับมรดกได้
พ่อคือผู้ที่ก่อตั้งสวรรค์และดังนั้นท่านจะให้มรดกแห่งสวรรค์แก่ลูกอย่างแน่นอน
ลักษมีและนารายณ์คืออันดับหนึ่ง พวกเขาได้มาซึ่งสถานภาพนั้นผ่านการศึกษานี้
เหตุใดโยคะโบราณของบารัตจึงไม่โด่งดัง
ในเมื่อโยคะเป็นหนทางทำให้มนุษย์กลายเป็นนายของโลก?
สิ่งนี้ถูกเรียกว่าโยคะที่ง่ายดายและความรู้ที่ง่ายดาย มันง่ายมากอย่างแท้จริง
ด้วยการทำความพยายามเป็นเวลาหนึ่งชาติเกิด ลูกได้รับอย่างมากมาย
ในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา
ลูกเคยล้มลุกคลุกคลานชาติแล้วชาติเล่าและลูกก็ไม่ได้รับอะไรเลย
ที่นี่ลูกได้รับมากมายในหนึ่งชาติเกิดและเหตุนี้เองจึงเรียกว่าง่ายดาย มีคำกล่าวว่า:
“การหลุดพ้นในชีวิตในหนึ่งวินาที” ทุกวันนี้พวกเขาคิดค้นสิ่งที่น่าประหลาดใจ
เป็นความมหัศจรรย์ของวิทยาศาสตร์ ดูซิว่าความมหัศจรรย์ของวิทยาศาสตร์คืออะไร
ลูกสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆมากมาย ในขณะที่ที่นี่ไม่มีอะไรเลย
ลูกเพียงแค่นั่งอย่างเงียบๆในความสงบ และลูกก็ไปทำงานด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามในขณะที่ทำงานด้วยมือของลูก หัวใจของลูกอยู่กับผู้เป็นที่รักของลูก
คู่รักและผู้เป็นที่รักได้รับการจดจำด้วยเช่นกัน
พวกเขาถูกดึงดูดด้วยใบหน้าของกันและกัน ไม่มีเรื่องของกิเลสที่นั่น
ไม่ว่าพวกเขาจะนั่งอยู่ที่ไหนพวกเขาก็จำกันและกันได้ แม้แต่ในขณะที่กินจาปาตี
พวกเขาก็ยังคงเฝ้าแต่เห็นอีกคนหนึ่งอยู่เบื้องหน้าของเขา
ในเวลาสุดท้ายสภาพของลูกจะเป็นเช่นนั้น ลูกจะเฝ้าแต่จดจำพ่อเท่านั้น อัจชะ
ถึงลูกๆ
ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก
ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
จงกลายเป็นรูปและบาซานและพูดคำพูดที่ให้ความสุขอย่างต่อเนื่อง
อย่าได้เป็นเหตุของความทุกข์แก่ผู้อื่น
คิดเกี่ยวกับความรู้นี้และให้เพชรพลอยของความรู้นี้ออกมาจากปากของลูกเท่านั้น
2.
กลับมาเป็นอิสระจากความผูกพันยึดมั่น
ปฏิสัมพันธ์กับทุกคนด้วยความรักและอย่าได้กลับมาโกรธ
ทำงานรับใช้เพื่อทำให้เด็กกำพร้าเป็นของผู้เป็นเจ้าและผู้เป็นนาย
พร:
ขอให้ลูกเป็นนายแห่งการปลดปล่อยและการหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์และแจกจ่ายการออฟเฟอร์อันศักดิ์สิทธิ์ของการปลดปล่อยและการหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์ด้วยรูปที่เป็นเทวดานางฟ้าของลูก
ในปัจจุบันดวงวิญญาณทั้งหมดของโลกกำลังร้องไห้เพราะสถานการณ์ที่เลวร้าย
บางคนทำสิ่งนี้เพราะทุกสิ่งมีราคาแพง บางคนร้องออกมาด้วยปากของพวกเขา
บางคนเพราะความเจ็บป่วยทางกาย และบางคนเพราะความไม่สงบในจิตใจของพวกเขา
สายตาของทุกคนกำลังมองไปยังหอคอยแห่งความสงบ (Tower of Peace)
ทุกคนกำลังเฝ้าดูเมื่อมีเสียงร้องแห่งชัยชนะหลังจากเสียงร้องของความทุกข์
ดังนั้นเวลานี้ด้วยรูปที่เป็นเทวดานางฟ้าของลูกจงขจัดความทุกข์ของโลกออกไป
เป็นนายผู้ประทานการหลุดพ้นและการหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์
และให้การออฟเฟอร์อันศักดิ์สิทธิ์(ปราสาด)
ของการหลุดพ้นและการหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์แก่ผู้เลื่อมใสศรัทธา
คติพจน์:
จงทำให้จิตใจของลูกมีพลังที่ไม่มีสถานการณ์ที่ปั่นป่วนจะสามารถเป็นเหตุให้เกิดความปั่นป่วนในจิตใจของลูกได้
สัญญาณที่ละเอียดอ่อน:
เวลานี้ให้มีความใส่ใจอย่างลึกล้ำที่จะกลับมาสมบูรณ์พร้อมและอยู่เหนือบ่วงกรรม
เวลานี้อย่ามีบ่วงของการกระทำใดๆ ขณะที่ทำงานรับใช้ "ที่ของฉัน งานรับใช้ของฉัน
นักเรียนของฉัน ดวงวิญญาณให้ความร่วมมือของฉัน"
สิ่งเหล่านี้ก็เป็นบ่วงกรรมของงานรับใช้เช่นกัน
จงอยู่เหนือบ่วงกรรมแม้กระทั่งจากบ่วงกรรมเหล่านี้
นี่คือการกลับมาอยู่เหนือบ่วงกรรม
จงให้การตระหนักรู้ว่านี่คือผู้เป็นหนึ่งเดียวแก่พวกเขา
คือผู้เป็นหนึ่งเดียวนี้เป็นทุกสิ่ง
และนำพาดวงวิญญาณเข้าใกล้จุดหมายปลายทางของพวกเขา